เวลากลางคืนในบ้านต้องจุดโคมไฟจึงจะได้แสงสว่าง
ถ้าเราจุดเทียนไขในห้องที่มืดอยู่
แล้วยืนหันหน้ามาทางเทียนไข
ที่หน้าและตัวของเราได้รับแสงสว่างจากเทียนไขมากกว่าทางหลังตัวเรา
แสงเทียนไขไม่ผ่านทะลุตัวของเราไป
และเราอาจเห็นเงาของตัวเราเองที่พื้นหรือที่ฝาห้อง
|
สุริยุปราคา เมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๒ ภายหลังเวลาเต็มคราส ๔๒
วินาที ถ่ายที่โคกโพธิ์ ปัตตานี
|
ความมืดมัวจะคงมีตลอดคืน
ถนนหนทางก็ต้อง จุดโคมไฟ
จึงจะได้แสงสว่าง รุ่งเช้าเราเห็นดวงอาทิตย์ที่ขอบฟ้า
สายเข้าดวงอาทิตย์ก็สูงขึ้นไป
ถ้าเรายืนในที่กลางแจ้ง
หันหน้าไปทางดวงอาทิตย์
เราเห็นเงาของเราอยู่ทางหลัง
ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์
อย่างเดียวกันกับเงาที่เกิดจากจุดเทียนไขในห้อง
เวลากลางคืน เงาจะสั้นลงไปทุกทีจนถึงเวลาเที่ยง
ตอนบ่ายถ้าเราหันหน้าไปทางดวงอาทิตย์
เงาจะอยู่ทางด้านหลังของเรา
เงานี้จะยาวขึ้นจนถึงเวลาเย็น
เราเห็นดวงอาทิตย์ลงลับขอบฟ้าไป
เป็นเวลากลางคืนไปอีก
|
กลางวันและกลางคืนมีติดต่อกันไป
เพราะโลกหมุนรอบตัวเองตลอดเวลา
ซีกของโลกที่หันมาทางดวงอาทิตย์ได้รับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์โดยตรงเป็นกลางวัน
อีกซีกหนึ่งของโลกไม่ได้รับแสงสว่างก็มืดเป็นกลางคืน
แสงอาทิตย์ที่ส่องมาถึงโลก
ผ่านทะลุโลกไปไม่ได้
โลกก็มีเงาทอดไปทางด้านตรงข้ามกับดวงอาทิตย์
อย่างเดียวกันกับเงาของตัวเราเองในห้องเวลากลางคืน
และเงาของตัวเราเองในกลางแจ้งกลางวัน
|
ดวงจันทร์
ถ่ายโดยเปิดหน้ากล่อง ๕ ครั้ง เพื่อให้แสงสว่างจากปรากฏการณ์ ตกลงบนฟิล์ม
เท่ากับจำนวนครั้งที่เปิดหน้ากล้องนั้น ทำให้ได้ภาพขณะดาวศุกร์
เคลื่อนที่ผ่านเบื้องหลังดวงจันทร์ อยู่ในตำแหน่งต่างๆ กัน
ขณะเดียวกันก็เห็น ลักษณะภูมิประเทศของดวงจันทร์ ที่ได้รับแสงสะท้อนจากโลก
(earthshine) ภาพนี้ถ่ายที่หอดูดาวภูเขาสตรอมโล ประเทศออสเตรเลีย | โลกอยู่ห่างไกลจากดวงอาทิตย์
เงาของโลกจึงยาวได้มากประมาณ
๑,๔๐๐,๐๐๐ กิโลเมตร
|
ในท้องฟ้าเวลากลางคืน
สังเกตดูดวงจันทร์ บางคืนก็เป็นเสี้ยว
เป็นซีก บางคืนเห็นเต็มดวง
บางคืนไม่เห็นดวง
ที่เราเห็นเป็นอย่างนั้น
ก็เพราะโลกและดวงจันทร์
มีรูปร่างกลมๆ โลกหมุนรอบตัว
และเคลื่อนที่ไปรอบดวงอาทิตย์
ดวงจันทร์ก็หมุนรอบตัว
และเคลื่อนที่ไปรอบโลก
ดวงจันทร์ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง
ดวงจันทร์ได้รับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์
และส่งแสงสะท้อนมายังโลกให้เราเห็น
|
ดวงจันทร์สว่างเกือบเต็มดวง
ในคืนข้างขึ้น ๑๓ ค่ำ |
เวลาข้างขึ้นอ่อนๆ
เราเห็นส่วนที่สว่างของดวงจันทร์น้อย
ส่วนที่สว่างอยู่ทางตะวันตก
ส่วนที่สว่างเห็นมากขึ้น
จนเป็นรูปซีก และเต็มดวงกลางเดือน
ขึ้นสิบห้าค่ำวันเพ็ญ
|
คืนข้างแรม ซีกสว่างของดวงจันทร์อยู่ทางทิศตะวันออก
เราเห็นส่วนที่สว่างน้อยลงไปจนถึงวันสิ้นเดือน
สิบสี่สิบห้าค่ำ เวลาขึ้นก็ดึกมากขึ้นทุกคืน
จนถึงเช้า ก็ยังเห็นอยู่ในท้องฟ้า
ด้านของดวงจันทร์ที่หันหน้าทางดวงอาทิตย์เป็นกลางวัน
และด้านตรงข้ามเป็นกลางคืนอย่างเดียวกับโลก
แต่นานกว่ากัน เพราะดวงจันทร์หมุนรอบตัวครั้งหนึ่งนานยี่สิบเจ็ดวันเศษ
และเคลื่อนที่ไปรอบโลกด้วย |
ดวงจันทร์เสี้ยว
จะปรากฏในคืนข้างแรมแก่หรือข้างขึ้นอ่อน
อันเนื่องมาจากดวงจันทร์โคจรรอบโลก | แสงดวงอาทิตย์ที่ส่งไปที่ดวงจันทร์
ผ่านทะลุไปทางด้านหลังไม่ได้
ดวงจันทร์จึงมีเงาทอดไปในทางตรงข้ามกับด้านที่ได้รับแสงดวงอาทิตย์ตรง
|
ดวงจันทร์มีขนาดเล็กกว่าโลกมาก
เงาของดวงจันทร์ยาวประมาณหนึ่งในสี่ความยาวของเงาโลก
เงาดวงจันทร์บางเวลาก็ยาวกว่าระยะห่างของดวงจันทร์จากโลก
และบางเวลาก็สั้นกว่าเล็กน้อย
|