ผิวหนังและเกล็ดปกคลุมร่างกาย
ปลามีผิวหนังเรียบอ่อนนุ่มคลุมตลอดลำตัว
และมีต่อมขับเมือกโดยทั่วไป เมือกที่ขับออกมามีประโยชน์
ช่วยทำให้การเสียดสี และความฝืดลดลงในขณะที่ปลาว่ายน้ำ ปลาบางจำพวก เช่น
ปลาไหลนา ปลากด ปลาแขยง และปลาดุก เป็นปลาที่ไม่มีเกล็ดปกคลุม
จึงมีเมือกมาก แต่ปลา ส่วนใหญ่มีเกล็ดปกคลุมทั่วตัว
| เกล็ดปลาแบบต่างๆ ที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน :เกร็ดแบบแกนอยด์เปลือกบาง
พบในปลาที่มีอวัยวะคล้ายปอด |
เกล็ดของปลามีหลายแบบด้วยกัน ในปลาจำพวกปลากระดูกอ่อน เช่น ฉลามและกระเบน
ถ้าเราเอามือลูบจากทางหางไปส่วนหัว จะรู้สึกสากๆ ที่ทำให้รู้สึกสาก เพราะมือเราสัมผัสกับเกล็ด
เล็กๆ ที่ปกคลุมรอบตัว เกล็ดของปลาดังกล่าวเป็นเกล็ดแบบแพลคอยด์ (placoid scales) ซึ่งมี
ลักษณะคล้ายฟัน (ฟันของปลาฉลามก็คือส่วนที่เปลี่ยนแปลงมาจากเกล็ดนั่นเอง) เกล็ดแบบนี้
มีปลายเป็นหนามยื่นไปทางท้าย |
เกล็ดปลาแบบต่างๆ ที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน : เกล็ดปลาแบบแกนอยด์เปลือกหนา
พบในปลาการ์ในแหล่งน้ำจืดของทวีปอเมริกาเหนือ |
ปลาน้ำจืดจำพวกการ์ (gars) ในทวีปอเมริกาเหนือ มีเกล็ดหนาๆ เรียงติดกันแต่ไม่ซ้อนกัน
เกล็ดเหล่านี้มีสารเคมีจำพวกแกโนอีน (ganoine) อยู่ด้วย เราจึงเรียกเกล็ดชนิดนี้ว่าแกนอยด์ (ganoid
scales) ในปลาโบราณบางชนิดซึ่งพบกลายเป็นซากติดอยู่ในหิน หรือเรียกว่า ซากดึกดำบรรพ์ (fossil)
เป็นปลาจำพวกที่มีอวัยวะคล้ายปอดสำหรับหายใจ มีเกล็ดพิเศษปกคลุมร่างกายเรียกว่า คอสมอยด์
(cosmoid scales) มีลักษณะคล้ายเกล็ดแกนอยด์ แต่สารเคมีที่อยู่ในเกล็ดเป็นจำพวกคอสมีน (cosmine) |
เกล็ดปลาแบบต่างๆ ที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน :เกล็ดปลาแบบแพลคอยด์
พบในปลาจำพวกฉลามและกระเบน |
ปลาส่วนใหญ่ในปัจจุบัน นอกจากปลาจำพวกฉลาม และกระเบน มีเกล็ดแบบไซคลอยด์ (cycloid)
และทีนอยด์ (ctenoid) แล้ว ยังมีปลากระดูกแข็ง (Teleosts) ที่มีโครงครีบเป็นก้านอ่อน เช่น
ปลาหลังเขียว (Sardinella spp.) ปลานวลจันทร์ทะเล (Chanos chanos)
และปลาตะเพียน (carps) มีเกล็ดแบบไซคลอยด์
ซึ่งถ้าเรานำมาตรวจดูโดยแว่นขยายจะเห็นรอยบนเกล็ดปรากฏเป็นวงๆ ได้ชัด เจน
วงเหล่านี้เราเรียกว่า "เซอร์คูไล" (circuli)
สำหรับปลาที่อยู่ในเขตร้อนและเขตหนาว
ระยะระหว่างวงแต่ละวง จะเห็นชัดเจนไม่เหมือนกัน ในหนึ่งรอบปีของอายุของปลา
วงเหล่านี้บนเกล็ด อาจจะอยู่ชิดกันตอนหนึ่ง และอีกตอนหนึ่งห่างกัน
ทำให้เกิดเห็นเป็นวงปี (annuli) ขึ้นบนเกล็ด ทั้งนี้
เพราะการเจริญเติบโตของปลาในเขตหนาวส่วนใหญ่ มีการเจริญเติบโตดี
เฉพาะในฤดูที่มีอาหารการกิน อุดมสมบูรณ์ คือในฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น
นักชีวประมงจึงใช้ประโยชน์จากเกล็ด ในการทำนายอายุของปลาได้
เกล็ดปลาแบบต่างๆ ที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน : เกล็ดปลาแบบไซคลอยด์
พบในปลากระดูกแข็งขั้นต่ำ ซึ่งมีโครงครีบเป็นก้านอ่อน เช่น ปลากระโห้ เป็นต้น | |
ปลากระดูกแข็งที่มีโครงครีบเป็นหนาม (spines) ส่วนใหญ่มีเกล็ดแบบทีนอยด์ หรือ
ไซคลอยด์ เกล็ดทีนอยด์เป็นเกล็ดคล้ายเกล็ดไซคลอยด์ แต่ตรงขอบท้ายเกล็ดที่มองเห็นจากภาย
นอกมีหนามเล็กแหลมอยู่ทั่วไป ตัวอย่างปลา ที่มีเกล็ดแบบทีนอยด์ ได้แก่ ปลากะพง (Lutianus
spp.) ในทะเล และปลาเสือ (Toxotes chatarcus)
ตามแม่น้ำในภาคกลาง ของประเทศไทย เฉพาะ
ปลาชนิดหลังมีวิธีการหาอาหารแปลกกว่าปลาทั้งหมดเพราะมีความไวและสายตาดี
จึงสามารถใช้ปากพ่นน้ำให้ถูกตัวแมลงที่เกาะอยู่สูงถึง ๑.๕๐ เมตร
จากผิวน้ำร่วงลงน้ำแล้วกินได้ |
เกล็ดปลาแบบต่างๆ ที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน :เกร็ดปลาแบบทีนอยด์
พบในปลากระดูกแข็งชั้นสูง ซึ่งมีโครงครีบเป็นหนามแข็งเช่น ปลากระพง เป็นต้น |
เกล็ดของปลากระดูกแข็งทั้งหลายไม่ได้เรียงกันเหมือนปลาฉลาม แต่ซ้อนกันแบบเราเอากระเบื้องมุงหลังคาบ้าน
ในปลาบางจำพวกอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงของเกล็ด เช่น เชื่อมติดกันเป็นแผ่นห่อหุ้มตัวปลา พบในปลาข้างใส (Centriscus spp.) หรือปลาเขาวัว ส่วนปลาปักเป้าเกล็ดจะเปลี่ยนเป็นหนามแหลม
|
ปลาเทพาเป็นปลาน้ำจืดพวกไม่มีเกล็ด
ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง พบเฉพาะในประเทศไทย เขตลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
อาจเติบโตได้จนมีความยาวถึง ๓ เมตร |
ปลาบางจำพวก เช่น ปลากระเบน ปลาดุกทะเล หรือปลาหัวโขนบริเวณผิวหนังบางส่วนจะ
มีต่อมขับสารมีพิษ ต่อมเหล่านี้โดยมากจะอยู่ใกล้กับโคนก้านครีบแข็งหรือเงี่ยง ถ้าอวัยวะเหล่านี้
ทิ่มตำเข้า พิษจะถูกขับเข้าสู่แผล จะทำให้เกิดความเจ็บปวด อาจเกิดเป็นแผลเน่า และมีอันตรายถึงตายได้
| ปลาเสือ เป็นปลาน้ำจืดประเภทเลี้ยงไว้ดู เพื่อความสวยงามชนิดหนึ่ง มีถิ่นอาศัยอยู่ในไทย บอร์เนียว สุมาตรา และกัมพูชา |
ปลาที่อาศัยอยู่ในที่ลึกในมหาสมุทร
มีหลายชนิดที่มีอวัยวะเรือง แสงอยู่บนลำตัวหรือหัว
อวัยวะเหล่านี้มีประโยชน์แก่ปลา เพราะทำหน้าที่ล่อเหยื่อให้เข้ามาหา
ช่วยในการมองเห็น ช่วย ป้องกันศัตรู และช่วยในการรวมกลุ่ม
ต่อมเรืองแสงเป็นอวัยวะพิเศษ ที่มีการเปลี่ยนแปลง
โดยวิวัฒนาการมาจากต่อมขับเมือก ซึ่งอาจเป็นแสงที่ปลาทำขึ้นเอง
หรือมาจากสิ่งมีชีวิตอื่นก็ได้
|