การประมงของประเทศไทยและการอนุรักษ์ทรัพยากรประมงของประเทศของเรา
ประเทศไทยเป็นประเทศซึ่งมีเศรษฐกิจอยู่บนรากฐานของเกษตรกรรมและการใช้ทรัพยากร
ทางธรรมชาติของประเทศ การประมงจึงมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศมาก
เพราะกิจการประมง ทำให้อุตสาหกรรมใกล้เคียงเจริญขึ้น
และให้อาหารโปรตีนที่มีคุณภาพสูงแต่มีราคาถูกแก่ประชาชนภายในประเทศซึ่งส่วนใหญ่มีรายได้ต่ำ นอกจากนี้
ยังมีผลทำให้รัฐได้รับเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้น
โดยการจัดส่งผลิตภัณฑ์ประมง เช่น กุ้ง ปลาแช่เย็น ปลากระป๋อง ฯลฯ
ไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาดุลการค้าระหว่างประเทศทางหนึ่ง
|

สภาพชายทะเลซึ่งเป็นบริเวณทำอวนรุน |
เนื่องจากประชาชนในประเทศของเราได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง สงบลง ในอัตราสูงถึงร้อยละ ๓.๒ ต่อปี
การประมงของประเทศจึงได้มีความสำคัญขึ้นเป็นลำดับ
โดยเฉพาะการประมงทะเลได้ขยายตัวรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว
จะเห็นได้จากสถิติของกรมประมง ในปี พ.ศ. ๒๕๐๕
ปริมาณสัตว์น้ำที่จับได้ทั่วราชอาณาจักร มีจำนวน ๓๔๐,๐๐๐ ตัน แต่ในปี พ.ศ.
๒๕๒๓ ปริมาณสัตว์น้ำที่จับได้ทั้งสิ้นเพิ่มขึ้น (ในปริมาณที่ลดลง) เป็น
๑,๗๙๗,๐๐๐ ตัน
|
เมื่อประมาณ ๕๐
ปีมาแล้ว การประมงน้ำจืดมีความสำคัญต่อประเทศมาก ชาวไร่ชาวนาหาปลา โดยใช้เครื่องมือ ที่ใช้มาแต่โบราณกาล เช่น ลอบ เบ็ด แห สวิง ยอ
บ่อล่อ เป็นต้น สำหรับชาวประมงที่อยู่ตามหมู่บ้านชายทะเลก็หากิน โดยทำการประมงใกล้ฝั่งในน้ำลึกไม่เกิน
๑๕ เมตร โดย ใช้ลอบ โพงพาง โป๊ะ ฯลฯ
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องมือประจำที่แทบทั้งสิ้น และเรือที่ใช้หาปลาก็เป็น
เรือใช้ใบมีขนาดความยาวประมาณ ๓-๖ เมตร |

หมูบ้านชาวประมงทะเล |
ต่อมาเมื่อความต้องการปลาเป็นอาหารมีเพิ่มขึ้น
ชาวประมงเริ่มรู้จักใช้อวนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
ก็มีการใช้เครื่องมือ ที่เรียกกันทั่วไปว่า อวนตังเก ในการจับปลาฝูง เช่น
ปลาทู ปลาลัง ส่วนชาวประมงที่มีทุนทรัพย์น้อยก็เริ่มใช้อวนลอยเพื่อหาปลา |

การจับปลาด้วยยอเพื่อใช้บริโภคในครัวเรือน |
ในระยะ ๒๕ ปีที่ผ่านมาการประมงทะเลได้รุดหน้าไปไกลมาก
ได้มีการใช้เครื่องมือจับ ปลาที่มีประสิทธิภาพสูง
คือ เครื่องมืออวนลากแบบต่างๆ เรือที่ใช้หาปลา ก็มีปริมาณเพิ่มขึ้น
และเป็นเรือใช้เครื่องยนต์แทบทั้งสิ้น ขนาดของเรือได้เพิ่มขึ้นจาก ๖-๗
เมตร
เป็นประมาณ ๓๐ เมตร ในปัจจุบัน
อาณาบริเวณการทำการประมงได้แผ่ขยายไปในทะเลจีนตอนใต้ และในทะเลอันดามัน
การขยายตัวอย่างรวดเร็วของการประมงทะเลและจับปลาเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ
ทำให้ ปริมาณปลาที่จับได้เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย
ในปัจจุบันผลิตผลจากการประมงทะเลมีปริมาณสูงขึ้นถึง ๙๐
เปอร์เซ็นต์ของปริมาณสัตว์น้ำที่จับได้ทั่วประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม
การขยายตัวของอวนลาก
อย่างรวดเร็วได้ทำให้ประชากรของปลาและสัตว์น้ำหน้าดินในอ่าวไทยลดน้อยถอยลงเป็นลำดับจน
เป็นที่น่าวิตกกว่า
หากไม่มีมาตรการที่เหมาะสมในการอนุรักษ์ทรัพยากรประมงดังกล่าวแล้ว
ทรัพยากรดังกล่าว ก็จะไม่ให้ผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจแก่ประเทศต่อไป
กรมประมงซึ่งเป็นส่วนราช การของประเทศที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้
จึงได้วางโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ
เป็นโครงการระยะยาว ที่จะวางมาตรการที่เหมาะสมและถูกต้อง ตามหลักวิชาการ
ทั้งนี้เพื่อให้ทรัพยากรดังกล่าว
ผลิดอกออกผลบังเกิดประโยชน์อย่างเต็มที่แก่ประเทศของเราเรื่อยๆ ไป |