สารานุกรมไทย สำหรับเยาวชน
เมนู 15
|
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ / เล่มที่ ๑๕ / เรื่องที่ ๙ มลพิษทางอากาศ / การควบคุมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และไฮโดรคาร์บอน
การควบคุมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และไฮโดรคาร์บอน
 การตรวจวัดควันดำของรถยนต์เพื่อหาปริมาณของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และก๊าซไฮโดรคาร์บอน |
การควบคุมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และไฮโดรคาร์บอน
ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์
และไฮโดรคาร์บอน ตามปกติเกิดขึ้นควบคู่กันไป เมื่อมีการสันดาปไม่สมบูรณ์
จึงต้องควบคุมส่วนผสมระหว่างน้ำมัน และอากาศให้พอเหมาะ
ดังนั้นในรถยนต์ใช้น้ำมันเบนซินทั่วไป คาร์บูเรเตอร์เป็นอุปกรณ์
ซึ่งทำหน้าที่นี้ นอกจากนั้นการจุดระเบิดในจังหวะเหมาะสม
ก็จะช่วยควบคุมการเผาไหม้เชื้อเพลิงให้เกิดการสันดาปอย่างสมบูรณ์ตามต้องการ
เป็นที่น่าสังเกตว่า หากมีอากาศมากพอควรในการจุดระเบิดนั้น
การสันดาปย่อมเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ และลดมลพิษทั้งสองลงได้อย่างสิ้นเชิง
พร้อมกันนั้น ก็ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย
การปรับแต่งเครื่องเป็นประจำจึงสำคัญ กล่าวคือ
ก. ปรับส่วนผสมระหว่างน้ำมันและอากาศ
ให้เหมาะสม
เมื่อมีสัดส่วนอากาศมากเกินพอ
ย่อมไม่เกิดมลพิษจากก๊าซทั้งสองชนิด แต่ถ้าน้ำมันเจือจางมากเกินไป เครื่องยนต์จะเดินสะดุด
ข. เวลาจุดระเบิดต้องได้จังหวะ
ความพอดีนี้ขึ้นอยู่กับส่วนต่างๆ
ของเครื่องยนต์ เช่น หัวเทียนจุดระเบิด ลูกสูบทำหน้าที่อัดไอน้ำมัน
และวาล์วปิดเปิดให้ไอน้ำมันเข้า และขับไอเสียออกได้จังหวะ เป็นต้น
ตามปกติไอเสียจากรถยนต์ควรออกสู่บรรยากาศทางท่อไอเสีย
แต่มีช่องว่างรอบลูกสูบ จึงทำให้ไอเสียรั่วออกรอบลูกสูบ
แล้วเข้าสู่ตัวเครื่องยนต์ ก่อนออกสู่อากาศต่อไป
ในบางจังหวะไอน้ำมันย่อมรั่วออกได้เหมือนกัน การรั่วไหลนี้มีมากยิ่งขึ้น
เมื่อเครื่องยนต์เก่า หรือเครื่องหลวม
ดังนั้นเครื่องยนต์ต้องมีสภาพดีอยู่เสมอ จึงจะช่วยลดมลพิษทางอากาศลงได้
เครื่องยนต์สมัยใหม่ไม่มีรูระบายให้ก๊าซออก ตรงกันข้ามกลับนำกลับเข้าไปในลูกสูบในภายหลัง เพื่อประโยชน์ ๒ ประการ คือ
ก. เผาไหม้เชื้อเพลิงที่ตกค้าง จนเกิดการสันดาปสมบูรณ์ ก่อนระบายออกสู่บรรยากาศ
ข. ลดอุณหภูมิในการจุดระเบิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดก๊าซไนทริกออกไซด์
โดยเฉพาะในกรณีของรถดีเซล
ไอน้ำมันนอกจากจะออกจากเครื่องยนต์ดังกล่าวข้างต้นแล้ว
น้ำมัน หรือไฮโดรคาร์บอน จะระเหยออกจากถังน้ำมันเป็นประจำ
ดังนั้นจึงต้องมีการควบคุม มิให้น้ำมันระเหย ทั้งในเวลาเดินเครื่อง
หรือดับเครื่อง หลักการที่นิยมใช้กัน คือ
ก. ออกแบบถังน้ำมันมีฝาปิดสนิท
ข. ถังน้ำมันกินพื้นที่น้อย ผิวระเหยจึงมีจำกัด
ค. มีช่องว่างเหลือในถัง เพื่อให้น้ำมันได้ขยายตัว เมื่อร้อน
ง. ติดระบบเก็บกักไอน้ำมันที่ระเหยออกจากถังน้ำมัน
จ. นำไอน้ำมันที่จับไว้ ป้อนเข้าเครื่องยนต์ในอัตราพอเหมาะ
ฉ. เปลี่ยนส่วนผสมน้ำมันให้ระเหยได้น้อยลง
|
|