เนื้อหาของเรื่องในจารึก
เนื่องจากเนื้อหาสาระของเรื่องในจารึก
จะผูกพันอยู่กับผู้สร้างจารึก ซึ่งส่วนใหญ่คือ กษัตริย์ ผู้นำ
หรือหัวหน้าท้องถิ่น เรื่องราวที่บันทึก
จึงเป็นเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นใกล้ตัวผู้บันทึก
จารึกเป็นการบอกกล่าวสิ่งที่ผู้สร้างจารึกได้กระทำขึ้น
เป็นเรื่องเฉพาะส่วนบุคคล หรือกลุ่มชนกลุ่มเล็กๆ
ซึ่งไม่อาจจะนับเป็นตัวแทนของสังคมในยุคสมัยนั้นได้
แต่สาระของเรื่องในจารึกก็น่าเชื่อถือ เพราะการกล่าวถึงนามบุคคล เช่น
พระนามของกษัตริย์ ชื่อสถานที่ ชื่อเมือง ชื่อหมู่บ้าน หรือศักราช
สิ่งเหล่านี้เป็นข้อเท็จจริงทั้งสิ้น เพราะบุคคลในสมัยนั้น
ก็น่าจะได้มีส่วนรู้เห็นเหตุการณ์ หรือเรื่องราวที่จารึกด้วย
จารึกเหล่านั้นสร้างขึ้นพร้อมเหตุการณ์ หรือในเวลาใกล้เคียงกับเหตุการณ์
เพื่อปักวางไว้ในที่สาธารณะ ให้ประชาชนได้รู้เห็นกันทั่ว
เรื่องในจารึกเป็นความจริง ตามทัศนะของผู้สร้างจารึกนั้นๆ
เนื่องจากจารึกส่วนใหญ่สร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะบันทึกกิจกรรมของตนทางศาสนา
และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเคารพบูชา
ดังนั้น จึงบันทึกเรื่องราวตามความเป็นจริง
ซึ่งจะเป็นด้วยความเสื่อมใสศรัทธา หรือเพราะความเกรงกลัวต่อความผิดหรือบาป
อันจะทำให้เกิดความเดือดร้อนภายหลังก็ตาม
อย่างไรก็ดีสาระของเรื่องในจารึกแต่ละยุคสมัย
ย่อมเป็นไปตามความนิยมของสังคม ในสมัยต่างๆ เหล่านั้น ซึ่งมีทั้งแตกต่างกัน
และเหมือนกันจำแนกได้ดังนี้
|
 จารึกบนฐานพระพุทธรูปยืนวัดมหาธาตุ เมืองลพบุรีเนื้อหาในจารึกกล่าวถึง อธิบดีแห่งชาวเมืองตังคุระได้สร้างพระพุทธรูปยืนนี้ |
๑. เรื่องเกี่ยวกับหลักธรรมะ หรือหัวข้อธรรมะซึ่งเป็นหัวใจของศาสนา ทั้งพระพุทธศาสนา และลัทธิศาสนาฮินดู
เช่น
จารึกเยธมฺมาฯ จังหวัดนครปฐม และจารึก
หุบเขาช่องคอย จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นต้น
๒. เรื่องกิจกรรมของกษัตริย์ ผู้นำ
หรือหัวหน้าท้องถิ่น ในเรื่องต่างๆ เช่น
๒.๑ การสร้างเมือง สร้างรูปเคารพ
และศาสนสถาน
เช่น เนื้อหาของเรื่องในจารึกบน
ฐานพระพุทธรูปยืนวัดมหาธาตุ เมืองลพบุรี
กล่าวถึงอธิบดีแห่งชาวเมืองตังคุระได้สร้าง
พระพุทธรูปยืนนี้
 | จารึกวัดพระเชตุพลวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร ว่าด้วยตำราหมอนวดและตำราฉันทลักษณ์ |
๒.๒ การสร้างกฎหมาย ระเบียบการ
ปกครองในสังคม
เช่น
เนื้อหาของเรื่องในจารึก วัดตาพระยา จังหวัดปราจีนบุรี
กล่าวถึงพระราชโองการ ห้ามพวกข้าราชการที่ออกไปปฏิบัติงาน ตามชนบท
จับกุมคุมขังชิงทรัพย์สินของชาวบ้าน
๒.๓ การเผยแพร่และทำนุบำรุงศาสนา
เช่น เนื้อหาของเรื่องในจารึกแผ่นทองแดงอู่ทอง
จังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวถึง พระเจ้าศรีหรรษวรมัน โปรดฯ ให้ส่งสีวิกา พร้อมด้วยคนฟ้อนรำ
และดนตรี เป็นทักษิณาถวายแด่พระศิวลึงค์
รูปสัญลักษณ์แทนองค์พระอิศวร |
 จารึกวัดพระเชตุพลวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร ว่าด้วยตำราหมอนวดและตำราฉันทลักษณ์ |
๒.๔ การเผยแพร่อำนาจการปกครอง
ในระหว่างพุทธศตวรรษที่
๑๕-๑๘
เป็นยุคสมัยที่อาณาจักรกัมพูชาได้ขยายอิทธิพลเข้ามาอยู่ในบางส่วนของพื้นที่
ซึ่งเป็นประเทศไทยปัจจุบัน จารึกส่วนใหญ่มีส่วนสัมพันธ์กับศาสนสถาน
และบางครั้งจะพบว่า จารึกไว้ที่เสา ผนังข้าง ขอบประตู
หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของตัวอาคาร
สาระของเรื่องในจารึกจะเน้นหนักไปในด้านการแสดงความยิ่งใหญ่ กำลัง
และอำนาจของกษัตริย์ หรือผู้นำชุมชน โดยมีส่วนสัมพันธ์กับศาสนา และประชาชน
เช่น เรื่องในจารึกเมืองเสมา จังหวัดนครราชสีมา
กล่าวถึง พระราชประวัติ ของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๕
และพระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติ รวมทั้งการสร้างเทวรูป
และพระพุทธรูปเป็นจำนวนมาก เพื่อถวายเป็นเครื่องสักการะแด่ศาสนสถาน
จารึกวัดถ้ำสุวรรณคูหา ๑ จ.อุดรธานี จารึกด้วยอักษรไทยอีสาน และธรรมอีสาน |  |
๒.๕ การสร้างสัมพันธภาพระหว่างรัฐ
สาระของเรื่องในจารึกจะกล่าวแสดงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลระหว่างเมือง เช่น คำ
สาบาน หรือคำสัญญา เช่น เนื้อความในจารึก
วัดพระธาตุศรีสองรัก จังหวัดเลย เป็นการ
ประกาศความสัมพันธ์ในฐานะมิตรประเทศ
ระหว่างสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ แห่งอาณาจักรศรีอยุธยากับพระไชยเชษฐาธิราช แห่งอาณาจักรศรีสัตนาคนหุต (ล้านช้าง) ซึ่งได้ร่วมกัน
สร้างพระเจดีย์ศรีสองรักขึ้น เป็นสักขีพยานว่า
กษัตริย์ทั้งสองพระองค์ทรงรักใคร่สนิทสนมกัน ดุจเดียวกับนามของพระเจดีย์นั้น
๓. เรื่องเกี่ยวกับการเผยแพร่ความรู้
ด้านต่างๆ เช่น
๓.๑ ตำรายา
กลุ่มจารึกที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ซึ่งบันทึกเรื่องความรู้เกี่ยวกับตำรายารักษาโรคชนิดต่างๆ
ตำรานวด และตำราฉันทลักษณ์ เป็นต้น
 | พระราชสาส์นสุพรรณบัฏเป็นจารึก
ในลักษณะจดหมายที่ติดต่อสื่อสาร เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี ซึ่งรัชกาลที่ ๔
มีไปถึงพระเจ้านโปเลียนที่ ๓ แห่งฝรั่งเศส |
๓.๒ ดวงชะตา
จารึกบางชิ้นมีข้อความ
ขึ้นต้นด้วยรูปดวงชะตา ส่วนใหญ่เป็นดวงชะตาของวัด
หรือถาวรวัตถุที่ผู้สร้างจารึกเป็นผู้มีส่วนในการสร้าง หรือปฏิสังขรณ์
โดยจะบอกวัน เดือน ปี เวลา ฤกษ์ ในการประกอบพิธีนั้น เช่น จารึกวัดใต้เทิง
จังหวัดอุบลราชธานี ขึ้นต้นข้อความ ด้วยดวงชะตาวันเดือนปี
สร้างถาวรวัตถุไว้กับพระพุทธศาสนา
 | จารึกวัดตระพังนาค จ.สุโขทัย เป็นจารึกที่บันทึกรูปแบบสระ และรูปอักษรในภาษาบาลี |
๓.๓ การสอนอักขรวิธี
จารึกบางชิ้น
บันทึกแบบอักษร และการสะกดคำ มีลักษณะเป็นแบบเรียนหนังสือชั้นต้น เช่น จารึกวัด
ตระพังนาค จังหวัดสุโขทัย และจารึกแม่อักษร
ขอมขุดปรอท พระราชนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศไชยเชษฐสุริยวงศ์
๓.๔ การติดต่อสื่อสาร
จารึกที่บันทึกเรื่องราว เพื่อการติดต่อสื่อสารในลักษณะจดหมาย
โต้ตอบ เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ
เช่น จารึกพระราชสาส์นสุพรรณบัฏ ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานไปยังพระเจ้านโปเลียนที่ ๓ แห่งประเทศฝรั่งเศส
|