สารานุกรมไทย สำหรับเยาวชน
เมนู 25
|
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ / เล่มที่ ๒๕ / เรื่องที่ ๓ วิวัฒนาการของไมโครคอมพิวเตอร์ / ประเภทของเครื่องคอมพิวเตอร์
ประเภทของเครื่องคอมพิวเตอร์

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์

|
ประเภทของเครื่องคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ในรุ่นปัจจุบัน ก็ยังถือว่า อยู่ในคอมพิวเตอร์รุ่นที่ ๔ นี้
ในปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ได้ใช้วงจรเบ็ดเสร็จขนาดใหญ่มาก (very large scale
integrated circuit) ซึ่งสามารถบรรจุทรานซิสเตอร์ได้มากกว่าสิบล้านตัว
เราสามารถแบ่งคอมพิวเตอร์ในรุ่นปัจจุบันออกเป็น ๔ ประเภทดังต่อไปนี้
- ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (supercomputer)
- เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (mainframe computer)
- มินิคอมพิวเตอร์ (minicomputer)
- ไมโครคอมพิวเตอร์ (microcomputer) หรือ พีซี (personal computer หรือ PC )
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์
ถือได้ว่า เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วมาก
และมีประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อเปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์ชนิดอื่นๆ เครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์มีราคาแพงมาก
มีขนาดใหญ่ สามารถคำนวณทางคณิตศาสตร์ได้หลายแสนล้านครั้งต่อวินาที และได้รับการออกแบบ
เพื่อให้ใช้แก้ปัญหาขนาดใหญ่มากทางวิทยาศาสตร์และทางวิศวกรรมศาสตร์ได้อย่างรวดเร็ว
เช่น การพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเป็นเวลาหลายวัน การศึกษาผลกระทบของมลพิษกับสภาวะแวดล้อม ซึ่งหากใช้คอมพิวเตอร์ชนิดอื่นๆ
แก้ไขปัญหาประเภทนี้ อาจจะต้องใช้เวลาในการคำนวณหลายปีกว่าจะเสร็จสิ้น
ในขณะที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์สามารถแก้ไขปัญหาได้ ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
เนื่องจากการแก้ปัญหาใหญ่ๆ จะต้องใช้หน่วยความจำสูง ดังนั้น
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จึงมีหน่วยความจำที่ใหญ่มากๆ
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์มีหลายประเภท ตั้งแต่รุ่นที่มีหน่วยประมวลผล
(processing unit) ๑ หน่วย
จนถึงรุ่นที่มีหน่วยประมวลผลหลายหมื่นหน่วย ซึ่งสามารถทำงานหลายอย่างได้พร้อมๆ กัน
เมนเฟรมคอมพิวเตอร์
มีสมรรถภาพที่ต่ำกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์มาก แต่ยังมีความเร็วสูงมาก
และมีประสิทธิภาพสูงกว่ามินิคอมพิวเตอร์ หรือไมโครคอมพิวเตอร์
เมนเฟรมคอมพิวเตอร์สามารถให้บริการผู้ใช้จำนวนหลายร้อยคนพร้อมๆ กัน
ฉะนั้น จึงสามารถใช้โปรแกรมจำนวนนับร้อยแบบในเวลาเดียวกันได้
โดยเฉพาะถ้าต่อเครื่องเข้าเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ผู้ใช้สามารถใช้ได้จากทั่วโลก ปัจจุบัน องค์กรใหญ่ๆ เช่น ธนาคาร
จะใช้คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ ในการทำบัญชีลูกค้า
หรือการให้บริการจากเครื่องฝากและถอนเงินแบบอัตโนมัติ (automatic teller
machine)
เนื่องจากเครื่องเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ได้ถูกใช้งานมากในการบริการผู้ใช้พร้อมๆ
กัน เมนเฟรมคอมพิวเตอร์จึงต้องมีหน่วยความจำที่ใหญ่มาก
มินิคอมพิวเตอร์
คือ
เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กๆ ซึ่งสามารถบริการผู้ใช้งานได้หลานคนพร้อมๆ
กัน
แต่จะไม่มีสมรรถภาพเพียงพอ ที่จะบริการผู้ใช้ในจำนวนที่เทียบเท่าเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ได้
จึงทำให้มินิคอมพิวเตอร์เหมาะสำหรับองค์กรขนาดกลาง
หรือสำหรับแผนกหนึ่ง หรือสาขาหนึ่งขององค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น
ไมโครคอมพิวเตอร์
คือ
คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กแบบขนาดตั้งโต๊ะ (desktop computer)
หรือขนาดเล็กกว่านั้น อาทิเช่น ขนาดสมุดบันทึก (notebook computer)
และขนาดฝ่ามือ (palmtop computer) ไมโครคอมพิวเตอร์ได้เริ่มมีขึ้นในปีพ.ศ.
๒๕๑๘ ถึงแม้ว่าในระยะหลัง เครื่องชนิดนี้จะมีประสิทธิภาพที่สูง
แต่เนื่องจากมีราคาไม่แพงและมีขนาดกระทัดรัด
ไมโครคอมพิวเตอร์จึงยังเหมาะสำหรับใช้ส่วนตัว
ไมโครคอมพิวเตอร์ได้ถูกออกแบบสำหรับใช้ที่บ้าน โรงเรียน
และสำนักงานสำหรับที่บ้าน
เราสามารถใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ในการทำงบประมาณรายรับรายจ่ายของครอบครัวช่วยทำการบ้านของลูกๆ
การค้นคว้าข้อมูลและข่าวสาร การสื่อสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ (electronic mail
หรือ E - mail) หรือโทรศัพท์ทางอินเทอร์เน็ต (internet phone)
ในการติดต่อทั้งในและนอกประเทศ หรือแม้กระทั่งทางบันเทิง เช่น
การเล่นเกมบนเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ สำหรับที่โรงเรียน
เราสามารถใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ในการช่วยสอนนักเรียนในการค้นคว้าข้อมูลจากทั่วโลกสำหรับที่สำนักงาน
เราสามารถใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ในการช่วยพิมพ์จดหมายและข้อมูลอื่นๆ
เก็บและค้นข้อมูล วิเคราะห์และทำนายยอดซื้อขายล่วงหน้า |
|