 |
เวลาที่เราดูภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับโลกในอนาคต
โดยเฉพาะในยุคอวกาศ เรามักจะเห็นคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทเหมือนมนุษย์
มีทั้งเรื่องของคอมพิวเตอร์ที่เป็นหุ่นยนต์ ซึ่งทำงานได้เหมือนมนุษย์
ภาพยนตร์บางเรื่องก็สร้างให้คอมพิวเตอร์ สามารถคิดเองได้เช่นเดียวกับมนุษย์
แต่ในความเป็นจริง ในปลายศตวรรษที่ ๒๐ คอมพิวเตอร์
ยังไม่มีความสามารถเหนือมนุษย์เหมือนในภาพยนตร์ การเขียนชุดคำสั่งง่ายๆ สามารถสั่งคอมพิวเตอร์ให้คำนวณเลขได้เร็วกว่ามนุษย์
เป็นล้านเท่า แต่การจะเขียนคำสั่งให้คอมพิวเตอร์อ่านหนังสือออก
ฟังภาษามนุษย์ได้เข้าใจ พูดคุยกับมนุษย์ได้ และจำหน้ามนุษย์ได้นั้น
กลับกลายเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ทั้งที่เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ง่ายมาก
สำหรับมนุษย์
ตั้งแต่เริ่มมีคอมพิวเตอร์ นักวิจัยด้านคอมพิวเตอร์ทั่วโลก
ก็ได้พยายามทำให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้คล้ายมนุษย์ มาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว แนวทางหนึ่งคือ การทำให้คอมพิวเตอร์จำลอง
การทำงานของสมองของมนุษย์
|
 |
สมองของมนุษย์ประกอบด้วยโครงข่ายประสาท
ซึ่งมีเซลล์ประสาทหลายแสนล้านเซลล์ที่สื่อสารกัน และทำงานขนานกันไป
การสร้างโครงข่ายประสาทเทียมสำหรับคอมพิวเตอร์
ไม่ใช่การสร้างชิ้นส่วนของคอมพิวเตอร์นับแสนล้านชิ้น
ที่รูปร่างเหมือนเซลล์สมองของมนุษย์
แต่เป็นการสร้างคอมพิวเตอร์ที่จำลองเอาวิธีการทำงานของสมองมาใช้
หรืออาจเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ทำให้คอมพิวเตอร์รู้จักคิด
และจดจำในแนวเดียวกับโครงข่ายประสาทของมนุษย์ |
 |
โครงข่ายประสาทเทียมถูกนำไปใช้
เพื่อช่วยคอมพิวเตอร์ ฟังภาษามนุษย์ได้เข้าใจ อ่านหนังสือออก ฯลฯ
แต่คอมพิวเตอร์ที่มีโครงข่ายประสาทเทียม ก็ยังไม่มีความสามารถรอบรู้
จนกว่าจะได้รับการสอน เช่นเดียวกับการสอนเด็กอนุบาลให้รู้จัก ก ไก่ ข ไข่
วิธี การสอนคอมพิวเตอร์ก็คล้ายๆ กับการสอนมนุษย์ ซึ่งมีอยู่ ๒ แบบคือ
แบบมีผู้สอน และแบบไม่มีผู้สอน
การสอนแบบมีผู้สอนนั้น
สมมติว่า ถ้าจะสอนให้เด็กรู้จักตุ๊กตา เราอาจจะหยิบตุ๊กตาให้เด็กดู
แล้วบอกว่า นี่เรียกว่า ตุ๊กตา เมื่อเด็กเห็นตุ๊กตาแบบต่างๆ หลายๆ ครั้ง
เด็กก็จะจำได้ว่า สิ่งของลักษณ นี้เรียกว่า ตุ๊กตา ทำนองเดียวกัน
ถ้าเราจะสอนให้คอมพิวเตอร์รู้จักของเล่นแบบต่างๆ
เราอาจจะป้อนรูปของเล่นต่างๆ เข้าคอมพิวเตอร์ พร้อมบอกกำกับไปด้วยว่า
นี่คือตุ๊กตานะ นี่คือลูกบอลนะ ฯลฯ จน
โครงข่ายประสาทเทียมในคอมพิวเตอร์สามารถจดจำลักษณะคล้ายๆ กัน
ของของเล่นประเภทเดียวกันได้
เมื่อได้เห็นตุ๊กตาตัวใหม่ที่มีแบบต่างไปจากที่เคยเห็น
ก็ยังสามารถบอกได้ว่า นี่คือตุ๊กตา
|
 |
การสอนแบบไม่มีผู้สอนนั้น
สมมติว่า เราจะให้เด็กเรียนรู้เกี่ยวกับของเล่นแบบต่างๆ ด้วยตัวเอง
เราก็อาจเอาของเล่นมากองรวมกัน แล้วให้เด็กลองเล่น หลังจากนั้น
ให้เด็กเก็บของเล่นแยกออกเป็นกล่องๆ โดยเก็บของเล่นแบบเดียวกัน
เข้ากล่องเดียวกัน สำหรับวิธีนี้ ถ้ามีของเล่นมากพอ
เด็กก็จะรู้จักแยกของเล่นประเภทต่างๆ ได้เอง เช่นเดียวกัน
ถ้าเราจะสอนให้คอมพิวเตอร์รู้จักของเล่นแบบต่างๆ
เราอาจจะป้อนวิดีโอของเล่นต่างๆ เข้าคอมพิวเตอร์ โดยไม่บอกรายละเอียด
โครงข่ายประสาทเทียมก็จะแยกประเภทของเล่นเอง และทำความเข้าใจว่า
ของเล่นแต่ละประเภท มีลักษณะที่เหมือนหรือ ต่างกันอย่างไร |
 |
ปัจจุบัน
การสอนให้เด็กรู้จักของเล่นเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
แต่การสอนให้คอมพิวเตอร์ที่ใช้โครงข่ายประสาทเทียมรู้จักของเล่น
ยังเป็นเรื่องที่ยากมาก นักวิจัยในประเทศไทย
กำลังทดลองใช้โครงข่ายประสาทเทียม ในการสอนให้คอมพิวเตอร์รู้จักพยัญชนะ
และสระไทย เช่น ก ให้คอมพิวเตอร์สามารถจำได้ และบอกได้ว่า นี่คือ ก
แม้จะใช้ตัวพิมพ์แบบต่างๆ กัน และไม่เข้าใจผิดว่า ก เป็น ภ หรือ ถ
และสอนให้คอมพิวเตอร์ฟังคำต่างๆ แล้วสามารถแยกแยะได้ว่า เป็น คำว่าอะไร
เช่น ถ้าได้ยิน "เก้า" ก็สะกดด้วยเลข ๙ ไม่สะกดผิดเป็น
คำที่เสียงคล้ายกันอย่าง "เก่า" หรือ "เกา" และต้องใช้วิธีการสอน
อย่างไร คอมพิวเตอร์จึงจะสามารถแยกความหมายของคำที่ออกเสียง
เหมือนกัน เช่น "เก้า" กับ "ก้าว" ได้ หรือฟัง "เดินสิบก้าว" แล้ว
ไม่สะกดเป็น "เดิน ๑๙" หรือฟัง "๙ บาท" แล้วไม่สะกดเป็น
"ก้าวบาท"
|