สารานุกรมไทย สำหรับเยาวชน
เมนู 27
|
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ / เล่มที่ ๒๗ / เรื่องที่ ๙ การปฏิวัติทางพันธุกรรม / เทคโนโลยีชีวภาพกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
เทคโนโลยีชีวภาพกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
 ข้าวสายพันธุ์สุพรรณบุรี ๑
 หนอนกำลังเจาะกินฝักข้าวโพด
|
เทคโนโลยีชีวภาพกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
๑. สัตว์ถ่ายโอนพันธุกรรม
กรรมวิธีในการถ่ายโอนพันธุกรรมจากแมงกะพรุน
เพื่อนำมาใส่ไว้ในเซลล์ของลิงรีซัส (Rhesus monkey)
มีขั้นตอนที่พอจะสรุปได้ดังนี้ คือ
ใช้เอนไซม์ตัดเอาเฉพาะพันธุกรรมที่มีสมบัติทำให้เกิดสารเรืองแสงได้
แยกออกจากจีโนมของแมงกะพรุน แล้วนำพันธุกรรมนี้
ไปถ่ายโอนตัดต่อให้ไวรัสสายพันธุ์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
และร่างกายของลิงรีซัส โดยใช้เทคนิครีคอมบิแนนต์ดีเอ็นเอ
เพื่อที่จะใช้ไวรัสดังกล่าวนี้เป็นพาหะนำพาพันธุกรรมของแมงกะพรุนถ่ายโอนไปอยู่ในเซลล์ของลิงรีซัส
โดยการฉีดไวรัสพาหะดังกล่าวเข้าไปในเซลล์ไข่ของ ลิงรีซัสประมาณ ๒๒๔ เซลล์
และคาดหวังว่า เซลล์ไข่บางเซลล์จะเกิดกระบวนการยีนรีคอมบิเนชัน
ระหว่างพันธุกรรมจากไวรัสพาหะกับพันธุกรรมของเซลล์ไข่จนได้รีคอมบิแนนต์ดีเอ็นเอ
จากนั้นจึงนำเซลล์ไข่ที่ใช้ทดลองทั้งหมดไปทำให้เกิดการปฏิสนธิกับสเปิร์มจากลิงรีซัสตัวผู้
เพื่อทำให้ได้ไซโกตที่สามารถเจริญเติบโตเป็นเอ็มบริโอได้จำนวนประมาณ ๑๒๖
เอ็มบริโอ (หรือ มากกว่าร้อยละ ๕๐)
ในจำนวนนี้จะมีเอ็มบริโอที่แข็งแรงและสมบูรณ์พันธุ์เพียงประมาณ ๔๐
เอ็มบริโอ ที่จะสามารถนำไปปลูกฝังไว้ในมดลูกของลิงรีซัสตัวเมีย
ที่ได้คัดสรรไว้ล่วงหน้าแล้วว่า พร้อมที่จะเป็นแม่เลี้ยงชั่วคราว
(surrogate mother) จำนวน ๒๐ ตัว จนเกิดการตั้งท้องสำเร็จเพียง ๕
ตัวเท่านั้น ลิงแม่เลี้ยงชั่วคราวทั้ง ๕ ตัวนี้
สามารถอุ้มท้องจนกระทั่งคลอดได้ลูกลิงจำนวน ๓ ตัว และมีเพียง ๑
ตัวที่ได้รับการตั้งชื่อว่า ANDi
เพราะว่ามียีนเรืองแสงจากแมงกะพรุนตลอดทั้งตัว จึงนับได้ว่า
การทดลองครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง
และนับว่าเป็นก้าวแรกที่จะปูทางไปสู่การตัดแต่งดัดแปลงพันธุกรรมในมนุษย์ได้ในอนาคต
โดยเฉพาะแนวทางการแก้ไขปัญหาโรคภัยไข้เจ็บที่ใช้เทคโนโลยีชีวภาพยุคใหม่ที่เรียกว่า
พันธุกรรมบำบัด (gene therapy)
และการแสวงหาแนวทางป้องกันและบำบัดรักษาโรคทางพันธุกรรมอื่นๆ
รวมทั้งการบำบัดรักษาโรคเอดส์ที่คาดหวังกันว่าจะสามารถทำได้ในอนาคต
โดยใช้กรรมวิธีดังกล่าวผสมผสานกับเทคโนโลยีทางเซลล์ต้นตอ (stem cell)
ซึ่งกำลังดำเนินการวิจัยกันในประเทศที่พัฒนาแล้ว
๒. พืชถ่ายโอนพันธุกรรม
การสร้างสายพันธุ์ข้าวทอง
โดยการใช้เทคนิครีคอมบิแนนต์ ดีเอ็นเอ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
แต่ในกรณีของการตัดแต่งดัดแปลงพันธุกรรมพืช
จำเป็นต้องใช้พลาสมิดของเซลล์แบคทีเรียเป็นพาหะนำพาหน่วยพันธุกรรม
ที่ต้องการถ่ายโอนไปให้เซลล์พืชเป้าหมาย
ซึ่งเริ่มต้นด้วยการใช้เอนไซม์ตัดเอาเฉพาะหน่วยพันธุกรรม
ที่มีสมบัติควบคุมการสร้างสารบีตาแคโรทีน (beta-carotene)
ซึ่งเป็นสารเริ่มต้นตัวสำคัญในกระบวนการสังเคราะห์ วิตามินเอ
ออกมาพร้อมกับโปรโมเตอร์ (promoter) ที่มีบทบาทในการแสดงออกของ
ยีนที่ต้องการนั้นจากต้นแดฟโฟดิล (daffodil)
พร้อมกันนั้นก็ตัดเอาหน่วยพันธุกรรมที่ต้องการจากแบคทีเรียชนิด Erwinia
uredovora จากนั้นจึงนำหน่วยพันธุกรรมต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสารบีตาแคโรทีนไปถ่ายโอนฝากไว้ในพลาสมิดของแบคทีเรียชนิด
Agrobacterium tumefaciens
ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นพาหะนำพันธุกรรมเหล่านี้ถ่ายโอน ต่อไปให้เอ็มบริโอข้าว
โดยนำแบคทีเรียพาหะนี้ไปใส่ผสมในจานเพาะเลี้ยงเอ็มบริโอข้าว
เพื่อให้แบคทีเรียพาหะนี้ติดเชื้อเข้าไปในเอ็มบริโอข้าว
ซึ่งจะนำไปสู่การถ่ายโอนตัด
ต่อหน่วยพันธุกรรมที่เราต้องการเหล่านั้นโดยกระบวนการธรรมชาติภายในเอ็มบริโอข้าวต่อไป
ส่งผลให้เกิดเอ็มบริโอข้าวที่ตัดแต่ง พันธุกรรม (genetically engineering
embryo) หรือเอ็มบริโอถ่ายโอนพันธุกรรม (transgenic embryo)
ที่มียีนควบคุมการสังเคราะห์สารบีตาแคโรทีนเรียบร้อย
และปล่อยให้เอ็มบริโอถ่ายโอนพันธุกรรมนั้นเจริญเติบโตจนเป็นเมล็ดข้าว
แล้วนำไปเพาะปลูกจนได้สายพันธุ์ข้าวที่มียีนที่ต้องการดังกล่าว
จากนั้นจึงนำพันธุ์ข้าวถ่ายโอนพันธุกรรมนี้ไปผสมพันธุ์ตามปกติกับสายพันธุ์ข้าวท้องถิ่น
ที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมของท้องถิ่น
๓. สิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม
จากความพยายามของนักวิทยาศาสตร์
และนักเทคโนโลยีชีวภาพ ที่จะแก้ไขปัญหาการขาดแคลนอาหาร
เพื่อเลี้ยงประชากรโลก ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ได้ก่อให้เกิดการพัฒนา
ด้านเทคโนโลยีชีวภาพ และการพัฒนาเทคนิคพันธุวิศวกรรม
ที่เกี่ยวกับการตัดต่อพันธุกรรม ทั้งภายในสายพันธุ์เดียวกัน
และข้ามสายพันธุ์ หรือแม้กระทั่งระหว่างสิ่งมีชีวิตต่างชนิดกัน
เพื่อสร้างสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม (Genetically Modified Organisms
ที่เรียกโดยย่อว่า GMOs หรือ Living Modified Organisms ที่เรียกว่า LMOs)
เทคโนโลยีชีวภาพที่ก้าวหน้าเช่นนี้สามารถทำได้ทั้งในจุลินทรีย์ พืช
และสัตว์ หรือแม้กระทั่งในมนุษย์
ดังกรณีตัวอย่างการโยกย้ายถ่ายโอนตัดต่อยีนที่มีสมบัติสร้างสารพิษ (toxin)
ต่อแมลงศัตรูพืชที่ได้มาจาก แบคทีเรีย Bacillus thuringiensis (เรียกกัน
โดยย่อว่า Bt) โดยการถ่ายโอนตัดต่อยีนนี้ให้เข้าไปอยู่ในจีโนมของพืช เช่น
ข้าว ข้าวโพด มะเขือเทศ ถั่วเหลือง ฝ้าย เป็นต้น
หนอนแมลงศัตรูพืชที่มากัดกินพืชดัดแปลงพันธุกรรมเหล่านี้ก็จะรับเอาสารพิษที่ผลิตโดยพืชนั้นเข้าไปด้วย
จนทำให้หนอนศัตรูพืช ถึงแก่ชีวิตได้
ยังผลทำให้ได้ลดค่าใช้จ่ายในการใช้ยาฆ่าแมลงศัตรูพืชและไม่เกิดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
อีกทั้งยังทำให้ได้ผลผลิตทางการเกษตรต่อหน่วยพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น
เมื่อเปรียบเทียบกับผลผลิตจากพืชสาย-พันธุ์ธรรมชาติ ในทำนองเดียวกัน
นักพัฒนา เทคโนโลยีชีวภาพสามารถสร้างพืชดัดแปลง
พันธุกรรมที่มีสมบัติดื้อยาฆ่าวัชพืชได้ดีในพื้นที่เพาะปลูกบางแห่ง
นอกจากนี้แล้วบริษัทยักษ์ใหญ่ในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ
ในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป ก็ได้สร้างพืช
ดัดแปลงพันธุกรรมเช่นที่ว่านี้หลายสิบชนิด
เพื่อนำไปเผยแพร่เพาะปลูกในประเทศกำลัง พัฒนาหลายๆ ประเทศ นอกจากนั้น
บริษัทที่ดำเนินธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพก็ยังได้พัฒนาสร้างสายพันธุ์พืชดัดแปลงพันธุกรรมบางชนิด
โดยการถ่ายโอนตัดต่อยีนที่เรียกว่า ยีนสิ้นสุดสายพันธุ์ (terminator gene)
เข้าไปในจีโนมพืชดัดแปลงพันธุกรรมนั้นด้วย
ซึ่งเมื่อนำเมล็ดพันธุ์พืชนั้นไปเพาะปลูกจนเจริญเติบโตและให้ผลผลิตตามที่ต้องการแล้ว
เมล็ดพันธุ์ที่ได้ในรุ่นถัดไปก็จะถูกทำลายโดย อัตโนมัติ
โดยกระบวนการทางชีวเคมีที่เกิดขึ้นภายในเมล็ดพืชนั้น
จนไม่สามารถนำเมล็ดพืชไปเพาะปลูกเพื่อให้เกิดผลผลิตต่อไป ได้
หากต้องการที่จะเพาะปลูกพืชดัดแปลงพันธุกรรมที่ต้องการนั้นต่อไป
เกษตรกรจะต้องสั่งซื้อเมล็ดพันธุ์พืชดัดแปลงพันธุกรรมที่ต้องการจากบริษัทผู้ผลิตเท่านั้น
ทั้งนี้เพื่อป้องกันการนำพันธุ์พืชดัดแปลงพันธุกรรมไปเพาะปลูกขยายพันธุ์ได้ต่อไปโดยที่ไม่ต้อง
ซื้อเมล็ดพันธุ์เพิ่มเติม
แต่สายพันธุ์พืชดัดแปลงพันธุกรรมที่มียีนทำลายเมล็ดพันธุ์แบบนี้
ยังไม่ได้นำออกมาใช้ในทางปฏิบัติ เพราะยังมีข้อด้อยอยู่หลายประการ
และมีกระแสต่อต้านสายพันธุ์พืชดัดแปลงพันธุกรรม ดังกล่าว
โดยเกรงกันว่าอาจเกิดความเสียหาย
จากการทำลายความหลากหลายทางชีวภาพในบริเวณพื้นที่เพาะปลูกนั้นได้
|
|