สารานุกรมไทย สำหรับเยาวชน
เมนู 3
|
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ / เล่มที่ ๓ / เรื่องที่ ๑๐ ช้าง / สำหรับเด็กระดับกลาง (๑๒ -๑๔ ปี)
สำหรับเด็กระดับกลาง (๑๒ -๑๔ ปี)
 |
ปัจจุบันนี้เราแบ่งช้างออก
๒ ชนิด คือ
ช้างเอเชียชนิดหนึ่ง และช้างแอฟริกาชนิดหนึ่ง ช้างเอเชียเป็นช้างที่อยู่ในทวีปเอเชีย เช่น ใน
ประเทศไทย พม่า อินเดีย ศรีลังกา เขมร ลาว ญวน มาเลเซีย อินโดนีเซีย
ส่วนช้างแอฟริกามีอยู่ในทวีปแอฟริกา แม้ว่าช้างสองชนิดนี้จะมี
รูปร่างลักษณะภายนอกคล้ายๆ กันก็ตาม แต่อยู่คนละสกุลกัน เช่นเดียวกับวัว
ซึ่งอยู่คนละสกุลกับควาย ดังนั้น การที่เราจะเอาช้างเอเชียกับช้างแอฟริกามาผสมพันธุ์กัน ให้เกิดลูกหลานต่อไป จึงเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก ข้อแตกต่างของช้างเอเชีย และช้างแอฟริกา เท่าที่พอจะสังเกตจากอุปนิสัย
และลักษณะภายนอกมีดังนี้ |
ช้างเอเชีย
(Elephas maximus)
ช้างเอเชียที่สมบูรณ์เต็มที่ จะมีความสูงเฉลี่ยวัดจากพื้นดิน ตรงขาหน้าถึงไหล่ประมาณ ๓ เมตร มีงาเฉพาะช้างตัวผู้ หรือที่เรียกกันว่า ช้างพลาย
ส่วนช้างตัวเมีย หรือช้างพัง โดยปกติ ไม่มีงา บางครั้งอาจจะพบช้างพังมีงาสั้นๆ บ้าง แต่งานั้นจะไม่สมบูรณ์ และเรียกกันว่า "ขนาย"
สำหรับช้างตัวผู้ที่ไม่มีงาก็มีบ้าง แต่เป็นจำนวนน้อย เราเรียกช้างพลายที่ไม่มีงาว่า "ช้างสีดอ" หัวของช้างเอเชียเป็นโหนก เมื่อมองดูข้างหน้าจะเห็นเป็น ๒ ลอน
มีใบหูเป็นแผ่นกว้าง ขอบหูด้านบน
อยู่ในระดับใกล้เคียงกับระดับศีรษะ ปลายงวงของช้างเอเชียมีจะงอยเพียงจะงอยเดียว เล็บเท้าหลังมีระหว่าง ๔ - ๕ เล็บ
และช้างเอเชียมีหลังโค้ง เหมือนหลังกุ้ง ช้างเอเชียเป็นสัตว์ที่ชอบอากาศชุ่มชื้น และร่มเย็น ไม่ชอบแสงแดดจัด และเป็นสัตว์ที่กะโหลกศีรษะใหญ่
มันสมองจึงใหญ่ตามขนาดกะโหลกศีรษะไปด้วย เนื่องจากช้างเอเชียมีมันสมองใหญ่นี่เอง จึงทำให้ช้างเอเชียมีความเฉลียวฉลาด สามารถนำมาฝึกให้ใช้ทำงานป่าไม้ หรือใช้แสดงละครสัตว์ได้ ช้างของไทยก็อยู่
ในจำพวกช้างเอเชียด้วย |

ช้างเอเชีย
|
 ช้างแอฟริกา |
ช้างแอฟริกา (Loxodonta africana)
ช้างแอฟริกาที่สมบูรณ์เต็มที่ สูงกว่าช้างเอเชีย คือ
สูงเฉลี่ย
ประมาณ ๓,๕ เมตร ช้างแอฟริกาไม่ว่าจะเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย ล้วนแต่มีงาทั้งสิ้น ฉะนั้น การสังเกตเพศของช้างแอฟริกาโดยการดูงาจึงทำไม่ได้ หัวของช้างแอฟริกามี
ส่วนที่เป็นหน้าผากแหลมแคบ
และมีโหนกศีรษะเพียงลอนเดียว เมื่อเทียบเฉพาะส่วนหัวแล้ว ช้างแอฟริกามีหัวเล็กกว่าช้างเอเชีย
แต่ช้างแอฟริกามีใบหูใหญ่กว่า และมีขอบหูด้านบนสูงกว่าระดับศีรษะ เวลามันโกรธ จะกางใบหูออกเต็มที่ ปลายงวงของช้างแอฟริกามี ๒
จะงอย เท้าหลังมีเล็บเพียง ๓ เล็บ ช้างแอฟริกามีสันหลังตรง หรือแอ่นลงเล็กน้อย
ช้างแอฟริกาเป็นสัตว์ที่ชอบอยู่ในป่าโปร่ง และไม่กลัวแสงแดด ดังนั้น
มันจึงสามารถทนต่ออากาศร้อนของทวีปแอฟริกาได้ดี
เนื่องจากช้างแอฟริกามีกะโหลกศีรษะเล็กกว่าช้างเอเชีย มันสมองของมันจึงเล็กตามไปด้วย ทำให้ช้างแอฟริกามีความเฉลียวฉลาดน้อยกว่าช้างเอเชีย และมีความดุร้ายมาก นำมาฝึกเพื่อใช้งาน หรือให้ทำงานอื่นใดได้ยาก
จึงไม่มีผู้ใดนำช้างแอฟริกามาฝึกใช้งานในป่าไม้
หรือเล่นละครสัตว์เลย
|
นอกจากช้าง ๒ สกุล ดังกล่าวแล้ว
ยังมีช้างแอฟริกาอีกจำพวกหนึ่งมีขนาดเล็กคือ มีความสูงประมาณ ๒ เมตร เรียกว่า ช้างแคระ (pygmy elephant)
อาศัยอยู่ตามแถบลุ่มแม่น้ำคองโก ปัจจุบันนี้มีเหลืออยู่น้อย เพราะชาวแอฟริกาชอบล่าช้างชนิดนี้ เอาเนื้อไปใช้เป็นอาหารกันมาก ประเทศไทยเราก็เคยมีช้างขนาดเล็กที่เรียกกันว่า ช้างค่อม
มีขนาดเท่าควาย อาศัยอยู่ตามป่าชายทะเลสาบสงขลา มีผู้เคยพบเห็นช้างนี้
ในเมืองไทยครั้งสุดท้าย เมื่อประมาณ ๓๐ ปีมาแล้ว
ปัจจุบันทราบว่า สูญพันธุ์ไปหมด
เพราะมีคนนิยมล่าช้างชนิดนี้ เอาเนื้อไปเป็นอาหาร
จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก
มิฉะนั้นแล้ว ประเทศไทยเราก็คงจะได้ชื่อว่า
เป็นประเทศที่มีสัตว์ประหลาดอีกชนิดหนึ่งเหลืออยู่ให้ชาวโลกได้เห็น
และได้ศึกษาค้นคว้าหาความรู้กันต่อไป |
|