สารานุกรมไทย สำหรับเยาวชน
เมนู ๓๑
|
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ / เล่มที่ ๓๑ / เรื่องที่ ๑ ตู้พระธรรม / การกำหนดอายุสมัยตู้พระธรรม
การกำหนดอายุสมัยตู้พระธรรม
การกำหนดอายุสมัยตู้พระธรรม
การศึกษาลวดลายซึ่งตกแต่งประดับอยู่ตามส่วนต่างๆ
ของตู้พระธรรม ทำให้เกิดความรู้
และสามารถวิเคราะห์ลักษณะเฉพาะของลวดลายที่มีความแตกต่างกันในเชิงช่าง
ส่งผลให้สามารถกำหนดอายุสมัยตู้พระธรรมที่มีอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร
และหอสมุดแห่งชาติ ในความดูแลของกรมศิลปากร โดยแบ่งได้เป็น ๓ สมัย คือ
สมัยอยุธยา สมัยธนบุรี และสมัยรัตนโกสินทร์

ตู้พระธรรมสมัยอยุธยา ซึ่งสามารถกำหนดอายุสมัยได้จากลักษณะเฉพาะของลวดลาย ลักษณะสำคัญที่ใช้เป็นข้อสังเกตเพื่อแยกสมัยของลายไทย
คือ ความอ่อนช้อยของเส้น โดยเฉพาะปลายเส้นกระหนก
หากเป็นลวดลายสมัยอยุธยา จะดูอ่อนช้อย สะบัดปลายพลิ้ว เหมือนเปลวไฟต้องลม
ถ้าเป็นสมัยธนบุรี ปลายเส้นกระหนกจะดูแข็งขึ้นเล็กน้อย
ถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ปลายเส้นกระหนกดูแข็งมากยิ่งขึ้นอีก
จนดูเหมือนกับว่าลากปลายเส้นออกไปตรงๆ เท่านั้น |  ตู้ฐานสิงห์ ลายกระหนกเปลว สมัยอยุธยา ฝีมือครูวัดเชิงหวาย
| การเขียนลายไม่ว่าจะเป็นการออกลายหรือออกเถา
ช่างสมัยอยุธยามักแสดงความรู้ความสามารถให้เห็นเด่นชัด
กล้าที่จะเขียนภาพและลวดลายอย่างมั่นใจ มีอิสระ
โดยไม่ต้องใช้ต้นแบบหรือต้นร่าง ด้วยเหตุนี้
ลวดลาย และองค์ประกอบลาย ในแต่ละด้านของตู้พระธรรมสมัยอยุธยาตู้หนึ่งๆ
จึงมีทั้งที่เหมือนกันและแตกต่างกัน
โดยเฉพาะเถากระหนกมักเริ่มต้นจากขอบล่างของตู้
พุ่งยอดพลิ้วขึ้นสู่เบื้องบน
ทำให้ดูอ่อนช้อยได้สัดส่วนกลมกลืน และงดงามอย่างยิ่ง
หากเป็นตู้ลายรดน้ำสมัยธนบุรี
ความพิถีพิถันในการเขียนลายมีน้อยกว่าสมัยอยุธยา
ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะสถานการณ์บ้านเมืองยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นฟื้นฟูให้เข้าสู่ภาวะปกติ
หลังจากสิ้นสุดสมัยอยุธยา และการสงครามเริ่มลดน้อยลง
ส่วนในสมัยรัตนโกสินทร์นั้น ช่างนิยมสร้างงานศิลปะที่มีแบบอย่าง
หรือมีต้นแบบที่ร่างไว้ เพื่อเป็นแบบฉบับสำหรับการเขียนลาย
จึงทำให้ลวดลายของตู้พระธรรมสมัยรัตนโกสินทร์ โดยเฉพาะลายกระหนก
มีลักษณะเหมือนกันตลอดทั้งตู้
ซึ่งทำให้ดูเหมือนกับว่าถูกบังคับให้เขียนลายอย่างเดียวกัน นอกจากนั้น
ปลายเส้นกระหนกก็ไม่อ่อนช้อยเหมือนสมัยอยุธยา
ลักษณะโดยรวมของลวดลายจึงดูค่อนข้างแข็งกระด้าง ขาดความเป็นอิสระในตัวเอง
แม้กระนั้น ก็ยังให้ความรู้สึกว่างดงามอีกแบบหนึ่ง | ตู้พระธรรมลายรดน้ำที่จัดว่ามีความงดงามเป็นเอกคือ
ตู้ที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยา
นริศรานุวัดติวงศ์ ทรงเรียกว่า ตู้ฝีมือครูวัดเซิงหวาย
ปัจจุบันพบว่ามีอยู่ ๒ ตู้
เป็นตู้ฐานสิงห์ตกแต่งด้วยลายกระหนกเปลวเครือเถาตู้หนึ่ง
และอีกตู้หนึ่งตกแต่งด้วยลายกระหนกรวงข้าว ความงดงามของลวดลายทั้ง ๒ ตู้
กล่าวได้ว่าเป็นแบบฉบับของลายกระหนกที่สวยงามที่สุด
เพราะนอกจากลายกระหนกที่อ่อนช้อย ดุจเปลวเพลิงต้องลมแล้ว
ยังมีภาพสัตว์จำพวกนก กระรอก และแมลง เป็นต้น
ที่คละเคล้าอยู่ตามกิ่งก้านของเถากระหนก
ด้วยท่าทางที่แสดงอาการเคลื่อนไหว
อย่างมีชีวิตตามธรรมชาติอันแท้จริงของสัตว์เหล่านั้น
บังเกิดเป็นความงามประการหนึ่ง ที่สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของลายกระหนก
แสดงให้เห็นถึงความคิดอิสระของช่างไทยสมัยอยุธยา
ที่สามารถใช้จินตนาการของตน
สร้างงานศิลปะขึ้นด้วยความกล้าและความสามารถอย่างอัจฉริยะ
โดยไม่เกรงว่าจะกระทบกระเทือน ถึงระเบียบแบบแผน
หรือข้อเท็จจริงแห่งกฎเกณฑ์ตามธรรมชาติ
ผลงานที่ปรากฏจึงสมควรนับเป็นศิลปะชิ้นเอก ที่มีค่าควรเมืองทีเดียว |
|