|
เด็กๆ
คงเคยได้เห็นภาพไดโนเสาร์ในภาพยนตร์ โทรทัศน์ หรือหนังสือการ์ตูน
เป็นสัตว์รูปร่างแปลกประหลาด คอยาว หางยาว เดิน ๔ เท้าบ้าง ๒ เท้าบ้าง
บางตัวมีขนาดใหญ่มากกว่าช้างหลายเท่า บางตัวก็มีขนาดย่อมลงมา
ในชีวิตจริงของโลกปัจจุบัน ไม่มีสัตว์ชนิดนี้หลงเหลืออยู่แล้ว
แต่นักวิทยาศาสตร์ทราบได้ว่าในยุคดึกดำบรรพ์เมื่อประมาณ ๒๐๐ ล้านปีมาแล้ว
ไดโนเสาร์ เป็นสัตว์ที่มีอยู่โดยทั่วไปในหลายทวีป
ก่อนที่มันจะสูญพันธุ์หมดสิ้นไปเมื่อประมาณ ๖๕ ล้านปีที่ผ่านมา
|
|
หลักฐานที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ทราบว่าไดโนเสาร์เคยมีชีวิตอยู่ในโลก
และมีรูปร่างลักษณะอย่างไร
ได้มาจากการศึกษา ซากของมันที่ปรากฏอยู่ในที่ต่างๆ
โดยเป็นชิ้นส่วนของโครงกระดูกบ้าง เป็นรอยเท้าที่ประทับอยู่บนแผ่นหินบ้าง
หลังจากการศึกษาอย่างละเอียดแล้ว
นักวิทยาศาสตร์สามารถกำหนดรูปร่างลักษณะของไดโนเสาร์ได้อย่างชัดเจนว่าเป็นอย่างไร
และนำมาแสดงให้เราเห็นในพิพิธภัณฑ์ทางธรรมชาติวิทยา หรือในสิ่งพิมพ์
และสื่อต่างๆ
|
|
นอกจากไดโนเสาร์
ยังมีซากของสัตว์และพืชอีกนานาชนิด ที่ครั้งหนึ่งเคยมีชีวิตอยู่บนโลก
ปัจจุบันอาจสูญพันธุ์ไปแล้ว หรือมีวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปจากเดิม
ซากของสิ่งมีชีวิตในอดีตอันยาวนาน ที่ปรากฏหลักฐาน หรือร่องรอย ให้เราเห็น อยู่ในปัจจุบัน
เรียกกันว่า ซากดึกดำบรรพ์ ถือเป็นสิ่งมีค่าในการศึกษาเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในอดีต
|
|
หากเราพบซากดึกดำบรรพ์
ไม่ว่าจะเป็นเปลือกหอย หรือกระดองของสัตว์น้ำที่แทรกอยู่ในเนื้อของหินปูน
หรือไม้กลายเป็นหิน ที่ทับถมอยู่ในชั้นหิน ควรดีใจว่า
เราได้พบสมบัติล้ำค่าของโลกแล้ว ต้องรักษาไว้ให้ดีที่สุด
และหากเราได้มีโอกาสศึกษา เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของซากดึกดำบรรพ์ต่างๆ
ด้วยแล้ว เราจะยิ่งตระหนักในคุณค่า และความสำคัญของสิ่งเหล่านั้น มากขึ้น |
|