ดาวเคราะห์ ในระบบสุริยะแบ่งเป็น ดาวเคราะห์ชั้นใน อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ ลักษณะพื้นผิวเป็นหินแข็ง มี ๔ ดวง ได้แก่ ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก และดาวอังคาร ส่วน ดาวเคราะห์ชั้นนอก
อยู่ไกลดวงอาทิตย์ ประกอบด้วยดาวเคราะห์ที่เหลือ ๕ ดวง คือ ดาวพฤหัสบดี
ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส ดาวเนปจูน และดาวพลูโต ๔ ดวงแรกเป็นดาวเคราะห์ก๊าซ
มีลักษณะคล้ายดวงอาทิตย์ ขนาดใหญ่กว่าดาวเคราะห์ชั้นใน
แต่ดาวพลูโตมีขนาดเล็กประมาณ ๒ ใน ๓ ของดวงจันทร์ที่เป็นบริวารของโลก
พื้นผิวเป็นหินแข็งและปกคลุมด้วยน้ำแข็ง
|
 ภาพเรดาร์ของดาวศุกร์ ซึ่งถ่ายจากยานอวกาศแมกเจลแลน เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๒ - ๒๕๓๓ (ภาพ อนุเคราะห์ โดย NASA/JPL)
|
ดาวเคราะห์
แต่ละดวงหมุนรอบตัวเอง ใช้เวลาในการหมุนครบ ๑ รอบ เรียกว่า ๑ วัน
ซึ่งแตกต่างกันไปตามความเร็ว ในการหมุน เช่น เวลา ๑
วันของดาวศุกร์ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับโลก เท่ากับ ๒๔๓ วันของโลก ส่วน ๑
วันของดาวเสาร์ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าโลกหลายสิบเท่า เท่ากับ ๑๐.๕ ชั่วโมง
ไม่ถึงครึ่งวันของโลก
เส้นทางการเดินทางของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์
หรือที่เรียกว่า วงโคจรของดาวเคราะห์ ส่วนมากค่อนข้างกลม ยกเว้น
ดาวพลูโตเป็นรูปรี ส่วนระยะเวลาในการเดินทางครบ ๑
รอบวงโคจรของดาวเคราะห์แต่ละดวง ซึ่งเรียกว่า ๑ ปี ของดาวเคราะห์นั้นๆ
ขึ้นกับความยาวของวงโคจรและความเร็วในการเคลื่อนที่ อาทิ ๑ ปีของดาวศุกร
เท่ากับ ๒๒๕ วันของโลก น้อยกว่า ๑ ปีของโลก ซึ่งมี ๓๖๕.๒๖ วัน แต่ ๑
ปีของดาวยูเรนัสเท่ากับ ๘๔ ปีของโลก
|
 ยานอวกาศกาลิเลโอถ่ายภาพดาวศุกร์ ซึ่งมีบรรยากาศหนาทึบจากระยะห่างประมาณ ๒.๗ ล้านกิโลเมตร ขณะกำลังเดินทางไปสำรวจดาวพฤหัสบดี เมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๓ (ภาพ อนุเคราะห์ โดย NASA/JPL)
|
อุณหภูมิและบรรยากาศของดาวเคราะห์ก็ต่างกัน
อาทิ ดาวศุกร์ มีอุณหภูมิในชั้นบรรยากาศที่ห่อหุ้มดวง และบนพื้นผิวไว้
สูงประมาณ ๔๘๐ องศาเซลเซียส เพราะมีก๊าซบางชนิดและไอน้ำปริมาณสูง
อัดกันอยู่อย่างหนาทึบมาก แต่ดาวอังคาร มีอุณหภูมิพื้นผิวต่ำ เฉลี่ยประมาณ
-๔๐ องศาเซลเซียส เพราะบรรยากาศที่ห่อหุ้มดวงเบาบางมาก
ไม่สามารถเก็บความร้อนได้
ดาวเคราะห์
มีขนาดต่างกัน ดวงเล็กที่สุดคือ ดาวพลูโต มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาว ๒,๒๗๔
กิโลเมตร ขณะที่ดวงใหญ่สุดคือ ดาวพฤหัสบดี มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาวประมาณ ๑๑
เท่าของโลก ความหนาแน่นก็ต่างกันด้วย ขึ้นกับลักษณะเนื้อในของแต่ละดวง
เช่น ดาวพุธซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับดวงจันทร์ที่เป็นบริวารของโลก
แต่มีความหนาแน่นพอๆ กับโลก เพราะมีพื้นผิวเป็นหินแข็ง
และใจกลางเป็นโลหะเหล็กขนาดใหญ่คล้ายใจกลางโลก
แต่ดาวพฤหัสบดีมีความหนาแน่นน้อยกว่าโลก เพราะเนื้อในส่วนมาก เป็นก๊าซ
นอกจากนี้ ดาวเคราะห์มีบริวารจำนวนต่างๆ กัน เช่น ดาวพุธไม่มีบริวาร
โลกมีบริวาร ๑ ดวง คือ ดวงจันทร์ ดาวพฤหัสบดีมีบริวารมากที่สุด จนถึง พ.ศ.
๒๕๔๙ พบว่ามีถึง ๖๓ ดวง
บริวารของดาวเคราะห์มีขนาดต่างกัน
เช่น ดวงจันทร์ของโลกมีเส้นผ่าศูนย์กลาง ๓,๔๗๖ กิโลเมตร ดวงจันทร์แกนิมีด
ของดาวพฤหัสบดี ซึ่งเป็นบริวารขนาดใหญ่ที่สุดมีเส้นผ่าศูนย์กลาง ๕,๒๖๒
กิโลเมตร ขณะที่บริวารที่พบใหม่เป็นดวงเล็กๆ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๐.๕
กิโลเมตรเท่านั้น
|
 ยานมาริเนอร์ ๑๐ ถ่ายภาพพื้นผิวดาวพุธเต็มไปด้วยหลุมอุกกาบาตจากระยะห่าง ๑๘,๒๐๐ กิโลเมตร เมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๗ (ภาพ อนุเคราะห์ โดย NASA/JPL) |
จากการศึกษาอย่างต่อเนื่อง พบวัตถุท้องฟ้าขนาดเล็กโคจรรอบดวงอาทิตย์ จำนวนมากมาย ซึ่งเรียกว่า ดาวเคราะห์น้อย
ปัจจุบันได้พบดาวเคราะห์น้อยจำนวนมากกว่า ๒๐๐,๐๐๐ ดวง
ส่วนใหญ่โคจรระหว่างวงโคจรของดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี
แต่บางดวงก็โคจรผ่านมาใกล้โลก ดาวเคราะห์น้อยแตกต่างกันทั้งขนาด รูปทรง
และระยะเวลาหมุนรอบตัวเอง เช่น ขนาดตั้งแต่เม็ดกรวดถึงขนาดใหญ่เท่าบ้าน
ขนาดที่ใหญ่มากๆ เท่ากับ ประเทศหนึ่งๆ รูปทรงไม่ค่อยเป็นทรงกลม
มีรูปร่างแปลกๆ เช่น คล้ายเมล็ดถั่ว ฝักถั่ว รูปกระดูก
และระยะเวลาหมุนรอบตัวเองมีตั้งแต่หลายชั่วโมงจนถึงหลายวัน
ดาวหาง เป็นเศษดาวเคราะห์ที่ห่อหุ้มด้วยน้ำแข็ง
คาดคะเนว่า มีดาวหางจำนวนมากในเขตที่เลยดาวเนปจูนออกไป
บางดวงมีระยะเวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์น้อยกว่า ๒๐๐ ปี
บางดวงมีวงโคจรกว้างไกลใช้เวลานานมากกว่านั้น
|
 ภาพเขียนยานอวกาศเมสเซนเจอร์เดินทางไปสำรวจดาวพุธ (ภาพ อนุเคราะห์ โดย NASA/JPL) |
อุกกาบาต ที่ตกบนผิวโลกนั้น
เชื่อว่า คงหลุดมาจากดาวเคราะห์น้อย จากการศึกษาอุกกาบาตที่รวบรวมได้
พบว่า ส่วนใหญ่เป็นชนิดหิน นอกจากนี้ มีชนิดที่เป็นโลหะ และหินผสมโลหะ
จากการศึกษาเป็นเวลายาวนาน ด้วยวิธีการและเครื่องมือ หลายประเภท
ตั้งแต่การสังเกตด้วยตาเปล่า ใช้กล้องโทรทรรศน์
ใช้วิชาคณิตศาสตร์ช่วยในการคำนวณ
การถ่ายภาพด้วยกล้องโทรทรรศน์เชื่อมต่อกับระบบคอมพิวเตอร์
การสำรวจด้วยยานอวกาศทั้งระยะไกลใกล้ต่างกัน จนถึงการลงสำรวจพื้นผิว
ทำให้ข้อมูลของระบบสุริยะเปลี่ยนแปลงและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น
หากมองด้วยตาเปล่า จะมองไม่เห็นบริวารของดาวพฤหัสบดี
แต่เมื่อใช้กล้องโทรทรรศน์จึงพบเพิ่มขึ้น นอกจากนี้
จากการสำรวจของยานอวกาศ ทำให้เราได้ข้อมูลเกี่ยวกับดาวพุธ เช่น
พื้นผิวดาวพุธเต็มไปด้วยหลุมอุกกาบาตคล้ายดวงจันทร์ วงแหวนของดาวเสาร์
ที่เคยเห็นจากกล้องโทรทรรศน์ที่คิดว่ามีเพียงไม่กี่ชั้นนั้น
แท้จริงแบ่งเป็นวงแหวนเล็กๆ หลายพันวง
อย่างไรก็ตาม
เรายังมีความรู้เกี่ยวกับระบบสุริยะไม่มากนัก จึงมีโครงการ
สำรวจสมาชิกของระบบสุริยะ เช่น ส่งยานเมสเซนเจอร์ไปสำรวจดาวพุธ
เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ กำหนดเวลาให้ยานเดินทางนาน ๖ ปี
เพื่อไปโคจรสังเกตการณ์รอบดาวพุธ ใน พ.ศ. ๒๕๕๔
การสำรวจดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ ทำให้เรารู้จักสมาชิกของระบบสุริยะบางดวงได้ดียิ่งขึ้น |