สารานุกรมไทย สำหรับเยาวชน
เมนู 32
|
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ / เล่มที่ ๓๒ / เรื่องที่ ๑ ตาลปัตร พัดยศ และสมณศักดิ์ / ข้อสันนิษฐานการใช้ตาลปัตร
ข้อสันนิษฐานการใช้ตาลปัตร
ข้อ
สันนิษฐานการใช้ตาลปัตร
จากหลักฐานทั้งที่เป็นเอกสารและภาพศิลปกรรมในสมัยต่างๆ
กล่าวได้ว่า
ธรรมเนียมปฏิบัติในการใช้ตาลปัตรนั้นไทยได้รับมาจากพระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์
ตั้งแต่เมื่อแผ่เข้ามายังดินแดนของราชอาณาจักรไทย
ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖ - ๑๗ ทั้งนี้
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ประทานความเห็นไว้ว่า
ความคิดในการให้พระสงฆ์ถือตาลปัตรคงมาจากลังกาเพราะพระพุทธศาสนาลัทธิ
ลังกาวงศ์ เป็นที่เลื่อมใสทั้งใน พม่า ไทย ลาว
และกัมพูชา
หลักฐานทางโบราณคดีที่พบในประเทศไทย ที่แสดงให้เห็นว่า
พระสงฆ์ถือตาลปัตรไปด้วย ในการแสดงธรรม เช่น ประติมากรรมสำริด
ศิลปะลพบุรีอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๗ - ๑๘ เป็นแผ่นภาพนูนต่ำทั้ง ๒ ด้าน
ด้านหนึ่งแสดงภาพพระพุทธเจ้าทรงถือตาลปัตรโปรดพระพุทธบิดา
และพระญาติอีกด้านหนึ่งแสดงภาพขณะทรงเทศนาโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดุสิต
ตาลปัตรที่ปรากฏมีลักษณะคล้ายพัดใบตาล รูปกลมมน
ขนาดเล็กแบบเดียวกับรูปตาลปัตร
ที่ปรากฏอยู่บนแผ่นใบเสมาศิลาจำหลักภาพนูนต่ำ
ศิลปะลพบุรี แสดงภาพพระพุทธเจ้าทรงถือตาลปัตรขณะกำลังสวดธรรม
นอกจากนี้ในศิลาจารึก วัดช้างล้อม พ.ศ. ๑๙๒๗
มีกล่าวถึงการถวายตาลปัตรแก่พระเถระ
โดยเรียกว่า "พัด
สวดธรรม" ด้วย
จากหลักฐานดังกล่าวเป็นเครื่องยืนยันว่า
พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาใช้พัดใบตาล หรือตาลปัตร
ในการแสดงธรรมและมีการถวายตาลปัตรแด่พระสงฆ์ด้วย
ส่วนการที่พระสงฆ์ใช้ตาลปัตรบังหน้า
ในระหว่างแสดงธรรมนั้น มีปรากฏในหนังสือ สมันตปาสาทิกา
อรรถกถาวินัยปิฎกภาค ๑ กล่าวว่า ในการทำปฐมสังคายนา
ที่ประชุมสงฆ์มีการซักถามและตอบกล่าวแก้ข้อธรรมและข้อวินัยโดยพระสงฆ์
ที่มีหน้าที่ตอบจะต้องขึ้นไปนั่งบนธรรมาสน์ท่ามกลางพระสงฆ์ที่มาประชุม
และถือพัดบังหน้าตลอดเวลาที่ชี้แจงข้อธรรมข้อวินัย |

แผ่นภาพสำริด ศิลปะลพบุรี แสดงภาพพระพุทธเจ้าทรงถือตาลปัตร
ขณะทรงเทศนาโปรดพระพุทธมารดา |
เรื่อง
ที่พระสงฆ์ใช้ตาลปัตรบังหน้ามีผู้รู้สันนิษฐานไปอีกหลายทาง
บางท่านว่า
แรกเริ่มพระสงฆ์อาจจะใช้ในพิธีปลงศพ
เมื่อจะชักผ้าบังสุกุลจากศพที่เน่าเปื่อย เพื่อนำไปทำจีวร
จึงใช้พัดใบตาลบังจมูกเพื่อกันกลิ่นเหม็น
ทำให้เกิดเป็นประเพณี ที่พระสงฆ์จะถือตาลปัตร ไปทำพิธีกรรมต่างๆ
บางท่านก็ว่า เพราะพระพุทธเจ้าทรงถือตาลปัตร
เมื่อเสด็จไปโปรดพระพุทธบิดา
แต่บางท่านว่า เนื่องจากสภาพจิตใจของผู้มาฟังธรรมมีหลายระดับ
ดังเรื่องเล่าเกี่ยวกับพระกัจจายนเถระ พระสาวกองค์สำคัญรูปหนึ่ง
ซึ่งมีรูปงามว่า ขณะที่พระกัจจายนเถระแสดงธรรมโปรดผู้มาฟังธรรม
มีสตรีบางคนเกิดหลงรักท่าน ด้วยจิตอันไม่บริสุทธิ์นี้จึงก่อให้เกิดบาป
พระกัจจายนเถระจึงอธิษฐานขอให้ท่านมีรูปร่างไม่งามเสีย
ดังที่เห็นภาพของพระกัจจายนเถระเป็นพระสงฆ์ที่มีรูปร่างอ้วนพุงพลุ้ย
ด้วยเหตุนี้ พระสงฆ์จึงต้องหาเครื่องบังหน้าในขณะสวด
เพราะประสงค์ให้ผู้มาฟังธรรมได้ฟังแต่ธรรม
ซึ่งข้อสันนิษฐานนี้นับว่าสอดคล้องกับที่มีกล่าวไว้ในหนังสือ วิมติ
วิโนทนี ฎีกาวินัยปิฎก
ซึ่งแสดงวัตถุประสงค์ของการใช้พัดบังหน้าบังตาในเวลาพระสงฆ์สวดแสดงธรรม
ว่า
เพื่อป้องกัน หัตถวิการ คือ การยกมือยกไม้ ในเวลาแสดงธรรมอย่างหนึ่ง
เพื่อป้องกัน มุขวิการ คือ อาการอ้าปากกว้าง
ซึ่งทำให้น่าเกลียดอย่างหนึ่ง
และป้องกันมิให้เป็นวิสภาคารมณ์ อันจะทำให้จิตใจฟุ้งซ่าน
ซึ่งวัตถุประสงค์ที่พระสงฆ์ต้องหาสิ่งมาบังหน้านี้
ปรากฏเป็นประเพณี ที่ยังพบเห็นได้ทางภาคเหนือ
เมื่อพระสงฆ์ต้องขึ้นไปเทศน์ยังธรรมาสน์ยอด
ซึ่งเป็นธรรมาสน์ ที่ยกสูงจากระดับพื้น
เมื่อเวลาจะเทศน์ต้องดึงม่านมาปิดไม่ให้ผู้ฟังเห็นใบหน้าพระสงฆ์
ที่กำลังเทศน์อยู่
|
|