ประวัติความเป็นมาของเจดีย์
ระยะเวลากว่าพันปีมาแล้ว
ที่ดินแดนไทยรวมทั้งดินแดนใกล้เคียงในภูมิภาคแถบนี้
ได้เข้าสู่วัฒนธรรมศาสนาภายใต้ระบบกษัตริย์
ซึ่งแผ่ขยายจากประเทศอินเดียโบราณ ทำให้แบบแผนด้านงานช่างหรือที่เรียกว่า "ศิลปกรรม"
อันเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่ง ในการเผยแผ่คติความเชื่อและการศรัทธาในศาสนา
ได้ก้าวผ่านพัฒนาการมาเป็นลำดับ
จนมีลักษณะเฉพาะเป็นลำดับยุคสมัยของดินแดนเหล่านั้น
ซึ่งการติดต่อไปมาหาสู่กัน ทำให้เกิดการถ่ายรับแรงบันดาลใจด้านรูปแบบ
และคติความเชื่อระหว่างดินแดนทั้งใกล้และไกลอีกด้วย
แรกเริ่มของวัฒนธรรมศาสนา
ดินแดนไทยทางภาคกลางคงมีงานก่อสร้างอาคารของเทวสถานหรือวัดในพระพุทธศาสนา
เช่น วิหาร ที่มีหลังคาเป็นเครื่องไม้
อาคารประเภทหลังคาคลุมมักชำรุดเสียหายไปตามกาลเวลา
ยิ่งเก่าแก่ยิ่งไม่ค่อยหลงเหลือเป็นตัวอย่าง แต่หากเป็น "พระเจดีย์" หรือเรียกอย่างสั้นๆ ว่า "เจดีย์" มักก่อด้วยวัสดุคงทนมากกว่า เช่น อิฐ หรือศิลา แม้อยู่ในสภาพชำรุดมาก ก็ยังอาจมีประเด็นให้ศึกษาตรวจสอบได้มากกว่า |
เจดีย์ประธาน ๓ องค์ วัดพระศรีสรรเพชญ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
|
เจดีย์เรียกอีกอย่างว่า สถูป คำว่า "สถูป" หรือ "เจดีย์"
ในพระพุทธศาสนา ตามความหมายเดิมหมายถึง
สิ่งก่อสร้างสำหรับการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ หรือหมายถึง
สถานที่สำคัญอันศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนา
ชาวไทยคุ้นเคยกับคำว่าเจดีย์ในความหมายที่นอกจากประดิษฐานพระบรมธาตุแล้ว
ยังเป็นเครื่องเตือนใจให้ระลึกถึงพระพุทธองค์
ตลอดจนพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์
เรื่องเล่าเสริมศรัทธาที่เกี่ยวกับเจดีย์จากนิทานพุทธประวัติมีว่า
เมื่อถวายเพลิงพระบรมสรีระของพระศาสดาแล้ว พระอินทร์ได้อัญเชิญพระทันตธาตุ
(พระเขี้ยวแก้ว) ไปประดิษฐานไว้ใน เจดีย์จุฬามณี
ที่อยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งก่อนหน้านั้น
เจดีย์อันศักดิ์สิทธิ์องค์นี้เป็นที่ประดิษฐานพระเกศโมลีของเจ้าชายสิทธัตถะ
(สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) ที่ทรงตัดพระเกศโมลี แล้วโยนขึ้นไปบนท้องฟ้า
เพื่ออธิษฐานเสี่ยงทายการตรัสรู้ในคราวออกผนวช
และพระอินทร์ได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ก่อนแล้ว
|
พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครปฐม |
เจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า บางครั้งเรียกว่า
พระบรมธาตุ พระมหาธาตุ พระศรีมหาธาตุ หรือพระศรีรัตนมหาธาตุ
ในศิลาจารึกสมัยสุโขทัยเมื่อกล่าวถึงเจดีย์ มักอิงอยู่กับความเป็น พระธาตุ
หรือ พระศรีมหาธาตุ เช่น ในศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง
มีข้อความตอนหนึ่งกล่าวว่า พ่อขุนรามคำแหง "...ให้ขุดเอาพระธาตุออกทั้งหลายเห็นกระทำบูชาบำเรอแก่พระธาตุได้เดือนหกวัน
จึ่งเอาลงฝังในกลางเมืองศรีสัชชนาลัยก่อพระเจดีย์เหนือหกเข้าจึ่งแล้ว... "
อย่างไรก็ดี สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ยังได้ทรงสันนิษฐานไว้ว่า ในสมัยสุโขทัย
การสร้างเจดีย์เพื่อประดิษฐานพระอัฐิของพระราชวงศ์ก็มีอยู่ด้วย นอกจากนี้
ในพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐฯ ระบุว่า
กรุงศรีอยุธยาจดบันทึกใน พ.ศ. ๒๐๓๕ ว่า
มีการสร้างพระมหาสถูป สำหรับประดิษฐานพระบรมธาตุ ของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
และพระโอรส พระมหาสถูปดังกล่าวคือ เจดีย์ประธาน ๓ องค์ ของวัดพระศรีสรรเพชญ
การประดิษฐานพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์ไว้ในเจดีย์
คงอิงกับสมมติคติที่ว่า พระมหากษัตริย์ นอกจากทรงเป็นเสมือนเทวราชาแล้ว
ยังทรงเป็นพระโพธิสัตว์ หรืออีกนัยหนึ่งคือ พระอนาคตพุทธเจ้า
สมมติคตินี้ ยังรวมถึงการประดิษฐานพระอัฐิของพระราชวงศ์
ซึ่งเปรียบเสมือนหน่อพุทธางกูรด้วย
|
พระธาตุพนม อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครพนม |
ระยะเวลากว่าพันปี
รูปแบบและรูปทรงต่างๆ ของเจดีย์ที่ผ่านมาแต่ละยุคสมัย
มักสร้างกันเฉพาะภายในวัด และได้พัฒนารูปแบบมาอย่างมากมาย คำว่า "เจดีย์" จึงมีคำขยายเพื่อบ่งบอกถึงรูปแบบและลักษณะ เช่น เจดีย์ทรงระฆัง ซึ่งเป็นทรงระฆังขนาดใหญ่ (บางแห่งเรียกว่า เจดีย์ทรงลังกา) เจดีย์ทรงยอดดอกบัวตูม มียอดเป็นทรงที่ดูคล้ายรูปดอกบัวตูม บางครั้งก็เรียกกันว่า "เจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์" และเจดีย์ทรงปรางค์ ซึ่งมักเรียกกันสั้นๆ ว่า "ปรางค์"
ปัจจุบัน
ประเทศไทยยังมีการสร้างพระมหาธาตุเจดีย์สำคัญเพิ่มขึ้นเป็นกรณีเฉพาะ เช่น
พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
ที่ตั้งอยู่บนยอดดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
ซึ่งกองทัพอากาศจัดสร้างขึ้น เนื่องในมหามงคลสมัย
ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๕ รอบ
โดยลำดับ ชื่อพระมหาธาตุมิใช่ชื่อที่บ่งถึงรูปแบบหรือลักษณะ
การออกแบบเจดีย์ทั้ง ๒ องค์
ได้ผสมผสานแรงบันดาลใจจากบางลักษณะของเจดีย์ในอดีต
ให้เป็นเจดีย์ที่มีรูปแบบ และลักษณะใหม่
|
ปัจจุบันวัดบางวัดที่มีกำลังทรัพย์ได้ออกแบบสร้างเจดีย์ให้มีรูปทรงใหม่ๆ
แปลกตา แต่ยังคงมีเค้าเดิมของเจดีย์โบราณอยู่บ้างไม่มากก็น้อย
และนิยมก่อสร้างให้มีขนาดใหญ่ เพื่อสามารถใช้พื้นที่ภายใน
สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้ด้วย
ส่วนบุคคลทั่วไปอาจสร้างเป็นเจดีย์ขนาดเล็ก
ซึ่งมีพื้นที่ภายในสำหรับใช้เป็นที่บรรจุอัฐิของบรรพบุรุษ
เจดีย์ประเภทนี้จำลองแบบมาจากเจดีย์องค์สำคัญๆ เช่น พระปฐมเจดีย์
พระธาตุพนม โดยทั่วไปสูงประมาณ ๒-๓ เมตร หล่อด้วยปูนซีเมนต์ แล้วทาสี
หรือประดับกระจกหรือกระเบื้องสี
พบได้ทั่วไปในพื้นที่ที่จัดไว้เป็นสัดเป็นส่วนอยู่ภายในวัด
|