ได้กล่าวมาแล้วว่า
เส้นเกิดจากการเคลื่อนที่ของจุด เส้นตรงเกิดจากการที่ จุดเคลื่อนที่ไปโดยไม่เปลี่ยนทางเลย
ส่วนเส้นโค้งนั้น เกิดจากการเคลื่อนที่ของจุด ซึ่งเปลี่ยนทิศทางอยู่เสมอ |
|
แผ่นกระดาษ
และผิวหน้าของแผ่นกระดาษ เป็นตัวอย่างของส่วนหนึ่งของพื้นราบ
นักคณิตศาสตร์เรียกพื้นราบว่า ระนาบ เราอาจคิดว่า ระนาบเกิดจากการเคลื่อนที่ของเส้นตรง
โดยทิศทางของเส้นทางของเส้นตรงไม่เปลี่ยนเลยก็ได้
|
 |
ถ้าให้เส้นตรงเคลื่อนที่ไป
โดยให้ทิศทางของเส้นตรงเปลี่ยนไป อย่างมีกฎเกณฑ์ ผิวที่ได้จะเป็นผิวโค้ง
เช่น ผิวของสังกะสีแบบลูกฟูก ที่เราใช้ทำรั้วและมุงหลังคา
เกิดจากเส้นตั้งฉากเคลื่อนไปตามรอยเส้นโค้ง ที่เป็นลูกคลื่น |
 เส้นตรงเคลื่อนที่โดยทิศทางเปลี่ยนอย่างมีกฎเกณฑ์
|
รูปกรวย
และรูปทรงกระบอกเป็นตัวอย่างอีกสองแบบของผิวโค้ง
ที่ได้จากการเคลื่อนที่ของเส้นตรง
ท่านสามารถหากฎเกณฑ์การเคลื่อนที่ของเส้นตรง แล้วได้ผิวโค้งเป็นรูปกรวย
หรือรูปทรงกระบอกหรือไม่ |
 |
โดยทั่วไปเมื่อเราเคลื่อนที่เส้นโค้งไปอย่างมีกฎเกณฑ์
ก็จะได้ผิวโค้ง เราอาจจะถือว่า ระนาบเป็นกรณีเฉพาะของผิวโค้ง
และเส้นตรงก็เป็นกรณีเฉพาะของเส้นโค้ง |
 |
นักคณิตศาสตร์บางท่านกล่าวว่า เส้นตรง เกิดจากการที่ระนาบสองระนาบตัดกัน
และเส้นโค้ง เกิดจากการตัดกัน ของผิวโค้งสองผิว ในทำนองเดียวกัน
เมื่อเส้นตัดกันจะได้จุด |
เราไม่อาจหาขนาดหรือมิติของจุดได้
จึงกล่าวว่า จุดไม่มีมิติ สำหรับเส้นเราสามารถวัดความยาวของส่วนของเส้นได้ จึงเรียกว่า เส้นมีหนึ่งมิติ ระนาบมีสองมิติ
เพราะสามารถวัดความกว้าง ความยาวของส่วนของระนาบได้
สิ่งที่เราสามารถวัดความยาว ความกว้าง และความหนา หรือความลึกได้
เราเรียกสิ่งนั้นว่า มีสามมิติ สิ่งของต่างๆ รอบตัวเรา
ล้วนมีสามมิติทั้งนั้น |
 |  |