เครื่องมือผลิตรังสีเอกซ์ เป็นหลอดแก้วสุญญากาศรูปผลชมพู่ เรียกชื่อว่า หลอดรังสีหรือหลอดเอกซเรย์ การทำให้เกิดกระแสอิเล็กตรอนในหลอดทำโดยเผาไส้ไฟฟ้าที่ทำด้วยโลหะทังสเตนจนร้อนขาว แล้วปล่อยกระแสไฟฟ้าผ่านไส้นั้น เมื่อต้องการเร่งอิเล็กตรอนให้มีพลังสูงใช้กระแสไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงมากๆ ส่วนเป้าสำหรับให้กระแสอิเล็กตรอนชนนั้นทำด้วยโลหะหนัก เช่น ทังสเตน ในหลอดรังสีเอกซ์แบบใหม่ เป้าทำเป็นรูปจานหมุนได้รอบตัว เพื่อให้กระแสอิเล็กตรอนชนบริเวณใหม่ของเป้าเรื่อยไป หลอดรังสีเอกซ์นี้หล่อน้ำมันไว้ภายนอก เพื่อให้ดูดความร้อน แล้วบรรจุไว้ในกระบอกโลหะขนาดใหญ่อีกชั้นหนึ่ง
รังสีเอกซ์ที่มีใช้มากในทางการแพทย์ ใช้ตรวจอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายมนุษย์ เช่น ตรวจกระดูก ปอด หัวใจ กระเพาะ และลำไส้ เมื่อฉายรังสีเอกซ์ทะลุผ่านอวัยวะ จะปรากฏภาพให้เห็นได้จากฟิล์มหรือจากจอเรืองแสง นอกจากนี้ยังอาจใช้รักษาโรคบางชนิด เช่น มะเร็งในระยะเริ่มแรกได้ด้วย เพราะรังสีเอกซ์นี้ทำลายเนื้อเยื่อที่กำลังเจริญเติบโตให้หยุดชะงักลง
ไอโซโทปกัมมันตรังสี
ธาตุกัมมันตรังสี คือธาตุซึ่งแผ่อนุภาคขนาดเล็กมาก หรือที่เรียกว่า รังสี ออกมาจากภายในอะตอม ธาตุกัมมันตรังสีบางธาตุมีอยู่ในธรรมชาติ แต่บางธาตุเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ทำให้เกิดขึ้น
ส่วนคำว่า "ไอโซโทป" หมายถึง ธาตุอย่างเดียวกัน มีสมบัติทางเคมีเหมือนกัน แต่มีน้ำหนักอะตอมไม่เหมือนกัน คือภายในอะตอมจะมีจำนวนโปรตอนเท่ากัน แต่มีจำนวนนิวตรอนแตกต่างกัน เช่น คาร์บอน -๑๒ คาร์บอน -๑๓ และคาร์บอน -๑๔ คาร์บอนทั้งสามชนิดนี้ล้วนแต่มีโปรตอน ๖ ตัว แต่มีนิวตรอนเป็นจำนวน ๖, ๗ และ ๘ ตามลำดับ เราเรียกคาร์บอนทั้งสามชนิดนี้ว่าเป็น ไอโซโทปของคาร์บอน
ไอโซโทปมีสองชนิด คือ ไอโซโทปที่เสถียรกับอโซโทปที่ไม่เสถียร ไอโซโทปที่ไม่เสถียรจะสลายตัวแผ่รังสีอยู่ตลอดเวลา และได้ชื่อว่า ไอโซโทปกัมมันตรังสี (radioactive isotope หรือ radio isotope) ไอโซโทปกัมมันตรังสี เป็นธาตุที่มีอยู่ทั้งในธรรมชาติและที่นักวิทยาศาสตร์ทำให้เกิดขึ้น
รังสีที่แผ่ออกมาจากไอโซโทปกัมมันตรังสีมี ๓ ชนิด คือ
๑) รังสีแอลฟา หรืออนุภาคแอลฟา ประกอบขึ้นด้วยโปรตอน ๒ อนุภาค กับนิวตรอน ๒ อนุภาค มีประจุไฟฟ้าบวก อนุภาคแอลฟานี้คือนิวเคลียสของอะตอมของฮีเลียม ซึ่งอิเล็กตรอนถูกดึงออกไปเสีย ๒ อนุภาค อนุภาคแอลฟา มีอำนาจทะลุทะลวงน้อย ไม่อาจผ่านทะลุผิวหนังของมนุษย์ได้
๒) รังสีบีตา หรืออนุภาคบีตา ประกอบขึ้นด้วย อนุภาคอิเล็กตรอนที่ออกมาจากนิวเคลียส มีประจุไฟฟ้าลบและมีความเร็วสูงเกือบเท่าแสง มีอำนาจทะลุทะลวงมากกว่าอนุภาคแอลฟา
๓) รังสีแกมมา เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีช่วงคลื่นสั้นมาก มีอำนาจทะลุทะลวงสูงมากและเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อของสิ่งมีชีวิต รังสีแกมมา มีลักษณะเหมือนรังสีเอกซ์ แต่มีอำนาจทะลุทะลวงผ่านสารได้มากกว่า
รังสีที่แผ่ออกไปจากไอโซโทปกัมมันตรังสีจะทำ ให้โมเลกุลของก๊าซแตกตัวออกไปได้เป็นเสี่ยงๆ แต่ละเสี่ยงมีประจุไฟฟ้า ทำให้อาจตรวจวัดได้ด้วย เครื่องวัดไกเกอร์ (geiger counter)
และเนื่องจากไอโซโทปกัมมันตรังสีแผ่รังสีที่อาจ ทะลุผ่านเนื้อหนังของคนได้ดีเช่นเดียวกับรังสีเอกซ์ ในทางการแพทย์จึงใช้ไอโซโทปกัมมันตรังสีในการ ตรวจและรักษาโรค เช่น ใช้ฟอสฟอรัส - ๓๒ ตรวจ หามะเร็งในกระเพาะอาหาร ใช้โบรอนกัมมันตรังสี รักษาเนื้องอกในสมอง ใช้ไอโอดีนกัมมันตรังสีใน การรักษาโรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์
ไอโซโทปกัมมันตรังสีบางชนิด เช่น โคบอลต์ - ๖๐ ใช้ในอุตสาหกรรม แทนรังสีเอกซ์สำหรับถ่ายรูปโลหะ ตรวจดูรอยร้าว รอยหัก และรอยต่อภาย หลังการเชื่อม
นอกจากนี้ ไอโซโทปกัมมันตรังสียังมีที่ใช้ใน การเกษตร เพื่อศึกษาเกี่ยวกับดูดกินอาหาร ของพืช ใช้วิธีให้พืชดูดไอโซโทปกัมมันตรังสีทาง รากขึ้นไปเลี้ยงลำต้น แล้วถ่ายรูปตรวจดูว่าพืชดูด สารชนิดใดได้มากน้อยเพียงใด ใช้ศึกษาค้นคว้า เพื่อให้ได้พันธุ์พืชที่แข็งแรง สามารถต่อต้านโรคได้ดี กว่าเดิม และใช้ในการค้นคว้าเกี่ยวกับการถนอม รักษาอาหาร
อายุของโลกก็อาจหาได้จากไอโซโทปกัมมันตรังสี โดยวิธีนี้ นักเคมีสามารถคำนวณหาอายุของโลกได้ว่า มีอายุประมาณ ๓,๔๐๐ ล้านปี
เครื่องขยายเสียง
เราอาจขยายขอบเขตของการฟังได้เช่นเดียวกับการเห็น เพื่อต้องการทำเสียงที่เปล่งออกมาจากปากให้ดังยิ่งขึ้น วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือใช้มือป้องปาก หรือใช้โทรโข่งช่วย แต่ทั้งสองวิธีนี้มิได้ช่วยให้เสียงดังขึ้นได้มากเท่าใดนัก ในปัจจุบันเรามีเครื่องขยายเสียงที่ใช้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ช่วยทำให้เสียงดัง และฟังชัดขึ้นกว่าเดิมมากมาย วงจรอิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง วงจรไฟฟ้าที่มีหลอดวิทยุ หรือสิ่งประดิษฐ์ทางโซลิดสเตต (solid state) เป็นส่วนประกอบสำคัญ
เครื่องขยายเสียงประกอบขึ้นด้วยส่วนสำคัญ ๓ ส่วนคือ
ไมโครโฟน (mircrophone) เป็นเครื่องรับเสียงแล้วเปลี่ยนพลังงานเสียงให้เป็นพลังงานไฟฟ้า พลังงานไฟฟ้าที่เปลี่ยนมาจากเสียงที่เรียกว่า สัญญาณไฟฟ้า
แอมพลิไฟเออร์
แอมพลิไฟเออร์(amplifier) เป็นเครื่องขยายสัญญาณไฟฟ้าที่ได้จากไมโครโฟนให้มีกำลังแรงขึ้น โดยใช้วงจรทางอิเล็กทรอนิกส์
ลำโพง(speaker) เป็นเครื่องเปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้าที่ได้จาก แอมพลิไฟเออร์ให้กลับเป็นเสียง
เครื่องขยายเสียงอาจขยายเสียงพูด เสียงร้อง และเสียงทุกชนิด ให้คนฟังจำนวนมากได้ยินได้แม้ว่าผู้ฟังจะมีจำนวนถึงหมื่นคน ถ้าใช้เครื่องขยายเสียงช่วย คนฟังทั้งหมดนั้นก็อาจได้ยินเสียงที่เปล่งออกมาได้อย่างถนัดชัดเจน โดยทั่วถึงกัน นับว่าเครื่องขยายเสียงที่ใช้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ เป็นเครื่องมือที่ขยายขอบเขตในการฟังของมนุษย์ได้อย่างหนึ่ง