เล่มที่ 2
มหาราชในประวัติศาสตร์ไทย
สามารถแชร์ได้ผ่าน :

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

            สมัยราชอาณาจักรศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรได้ทรงกู้ชาติไทยให้กลับมีอิสรภาพพ้นจากอำนาจพม่าเมื่อ พ.ศ. ๒๑๓๕ (ซึ่งเดิมลงมติกันแล้วว่าตรงกับวันที่ ๒๕มกราคม) นับว่าเป็นชัยชนะอันเยี่ยมยอดในรัชสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผลแห่งชัยชนะที่ทรงมอบให้แก่ชาติไทยครั้งนี้ ทำให้พม่าไม่กล้ายกมาย่ำยีประเทศไทยอีกเป็นเวลานาน สมเด็จพระนเรศวรได้ทรงใช้เวลาต่อมาจากนั้นยกทัพไปปราบถึงพม่าจนเป็นที่เกรงขามทั่วไป ทรงปราบปรามเขมรซึ่งมักประพฤติตนเป็นศึกสองหน้าแทรกแซงอยุธยาขณะมีศึกพม่าอยู่บ่อยๆ



ภาพเขียนสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเล่นชนไก่กับมังสามเกียด (จิตรกรรมฝาผนังในวิหารวัดสุวรรณดาราราม เขียนโดยพระยาอนุศาสตร์จิตรกร)

            ขณะเมื่อสมเด็จพระนเรศวรมีพระชันษาเพียง ๙ ปี ประทับอยู่ ณ เมืองพิษณุโลกกับสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช พระบิดานั้น พระเจ้าบุเรงนองแห่งประเทศพม่า ได้ยกทัพมาตีราชอาณาจักรศรีอยุธยา ยึดได้เมืองพิษณุโลก บีบบังคับสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชไว้ในอำนาจ และขอองค์สมเด็จพระนเรศวรไปไว้ที่กรุงหงสาวดี โดยอ้างว่า จะเลี้ยงดูในฐานะพระราชบุตรบุญธรรม ทั้งที่โดยแท้จริงคือ ยึดพระองค์ไว้ในฐานะตัวประกัน แต่การก็กลับเป็นประโยชน์แก่สมเด็จพระนเรศวร ที่ได้ทรงศึกษาถึงนิสัยใจคอภาษา และการทหารของชาวพม่าและมอญ จนได้ทรงใช้เป็นประโยชน์ ในการกู้บ้านเมืองในเวลาต่อมา

            ครั้นกรุงศรีอยุธยาตกอยู่ใต้อำนาจพม่า และพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง ยกสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ไทยแล้ว สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชจึงทูลขอสมเด็จพระนเรศวร กลับมาช่วยปกครองกรุงศรีอยุธยา นับแต่นั้นมา สมเด็จพระนเรศวรก็ได้ทรงแสดงพระบารมี และพระปรีชาสามารถในการทหาร ให้ปรากฏแก่ชาวไทย มอญ พม่า และเขมร หลายครั้งหลายครา เช่น ทรงต่อต้านกองทหารเขมร ซึ่งพระยาจีนจันตุ ขุนนางเขมรเป็นผู้นำเข้ามารบกวนพระราชอาณาเขตไทย และทรงขับไล่ออกไปพ้นจากพระราชอาณาเขตได้ เป็นต้น

            เมื่อกรุงหงสาวดีผลัดเปลี่ยนแผ่นดินใหม่ พระเจ้าบุเรงนองแห่งหงสาวดี สิ้นพระชนม์ พระเจ้านันทบุเรงขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อมา ทางพม่าได้แจ้งข่าวเปลี่ยนรัชกาลไปยังประเทศราชทั้งปวง ให้ผู้ครองประเทศราชไปเข้าเฝ้าตามพระราชประเพณี สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช ได้โปรดให้สมเด็จพระนเรศวรเสด็จขึ้นไปแทนพระองค์ เมื่อสมเด็จพระนเรศวรเสด็จถึงเมืองแครง บังเอิญได้ทรงทราบถึงแผนการของพม่า ซึ่งคิดประทุษร้ายต่อพระองค์จากบุคคลสำคัญทางมอญหลายคนที่สนิทสนมคุ้นเคยลอบมาทูลก่อนจะถึงเมืองพม่า สมเด็จพระนเรศวรจึงทรงถือโอกาสประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแครง ใน พ.ศ. ๒๑๒๗ แยกราชอาณาจักรศรีอยุธยาออกเป็นอิสระจากอำนาจพม่า และเมื่อทางการพม่าจัดทัพใหญ่ให้พระมหาอุปราชา พระรัชทายาทเสด็จนำเข้ามาปราบปรามไทย สมเด็จพระนเรศวรซึ่งเสด็จขึ้นครองราชบังลังก์ใหม่ๆ ได้เสด็จนำทัพออกไปจากกรุงศรีอยุธยารับทัพข้าศึก ณ แขวงเมืองสุพรรณบุรี ทรงทำสงครามยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาจนได้ชัยชนะ


ภาพเขียนสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงคาบพระแสงดาบนำทหารเข้าตีค่ายพม่า
(จิตรกรรมฝาผนังในวิหารวัดสุวรรณดาราราม เขียนโดยพระยาอนุศาสตร์จิตรกร)

            ด้วยเหตุนี้ พระเกียรติยศแห่งสมเด็จพระนเรศวร และชาติไทยยุคนั้น จึงเป็นที่เลื่องลือ ยังความเคารพยำเกรงให้เกิดแก่บุคคลผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือได้รู้จัก ทั้งภายใน และภายนอกพระราชอาณาจักร สมเด็จพระนเรศวรจึงได้รับการถวายพระราชสมัญญา เป็น มหาราช



ภาพเขียนสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงประกาศอิสรภาพ(จิตรกรรมฝาผนังในวิหารวัดสุวรรณดาราราม)

            พระบรมราชานุสาวรีย์เฉลิมพระเกียรติของพระองค์ท่าน ยังคงมีปรากฏอยู่ ณ อนุสรณ์ดอนเจดีย์ แขวงจังหวัดสุพรรณบุรี อันเป็นสมรภูมิครั้งนั้นสืบต่อมา