การคัดเลือกม้า
การคัดเลือกม้า เพื่อเอาไว้ขี่ หรือเอาไว้ขาย ต้องเป็นไปตามคุณลักษณะของผู้ที่ต้องการ หรือผู้ซื้อ
การพิจารณาในการคัดเลือกม้าเพื่อขี่
๑. ผู้เริ่มเล่นม้าใหม่ๆ ควรขอความรู้ คำแนะนำ จากผู้ที่มีความชำนาญแล้ว
๒. ม้าต้องมีความสมบูรณ์ ไม่มีตำหนิ ขาและเท้าทั้งสี่จะต้องแข็งแรงได้รูป
๓. มีรูปร่างดี และลักษณะเป็นไปตามพันธุ์
๔. จะต้องเลือกม้าที่มาจากตระกูลที่ดี และมีประวัติพันธุ์อย่างละเอียดสำหรับใช้ประกอบการ ตัดสินใจ
๕. ม้าที่มีประวัติชนะเลิศการแข่งขัน สามารถใช้เป็นปัจจัยในการคัดเลือกได้
ลักษณะของม้า การเลือกม้า เพื่อจะเลี้ยงไว้ดูเล่นหรือเลี้ยงไว้ด้วยเหตุผลอื่นก็ตาม วิธีเลือก (ของไทย) ที่ยอมรับกันมาแต่โบราณจนถึงปัจจุบันก็คือ การดูลักษณะม้า โดยพิจารณาลักษณะดังต่อไปนี้
๑. ผิวม้า
ม้ามาจากตระกูลดี และม้าลักษณะดี จะต้องมีผิวหนังบาง ขนสั้น มองเห็นรอยเส้นเลือดได้ชัดเจน เรียกว่า ม้าผิวบาง
๒. อวัยวะภายนอก ม้าที่มีกล้ามเนื้อใหญ่โต ขาใหญ่ คอหนา ศีรษะโต ม้าที่มีลักษณะเช่นนี้ เป็นม้าแข็งแรง แต่ไม่ว่องไว เรียก ม้าทึบ
๓. นิสัย
ม้าที่มีลักษณะหงอย ไม่ปราดเปรียว ส่วนมากมักจะแข็งแรง เรียกว่า ม้าเลือดเย็น ม้าที่มีลักษณะปราดเปรียว ส่วนมากนิสัยดี และมีสายเลือดดี เรียก ม้าเลือดร้อน
๔. ส่วนศีรษะ
แบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือ ส่วนหน้า จากตาถึงปลายจมูก ส่วนกระหม่อม จากตาถึงท้ายทอย ม้าที่ตระกูลดี ฉลาด ว่องไว และเลือดร้อน ส่วนหน้าจะเล็กกว่าส่วนกระหม่อมมาก
สันจมูก ม้าที่มีสันจมูกตรงหรือแอ่นงอน แสดงว่า เป็นม้าเลือดเย็น ม้าที่มีสันจมูกโค้ง และนูนตรงกลางแสดงว่า เป็นม้าเลือดร้อน
รูจมูก ม้าที่มีรูจมูกกว้าง มักจะเป็นม้าที่ แข็งแรง
ปาก ม้าปากกว้าง (มุมปากอยู่ใกล้แก้ม) เป็นม้าที่แข็งแรง ม้าปากเล็ก มุมปากเล็ก (มุมปากตื้น) มักจะเป็นม้าว่าง่าย สอนง่าย
ตา ม้าตากลมโตจะเป็นม้าเลือดเย็น สอนง่าย ม้าตาเล็กจะเป็นม้านิสัยโกง
ขากรรไกร ม้าขากรรไกรหนา และม้าขากรรไกรโต มักจะมีนิสัยขี้โกง เกียจคร้าน
หู ม้าตระกูลดี ได้แก่ ม้าหนู คือ หูเล็ก บางและชิดกัน ม้าตระกูลปานกลาง ได้แก่ ม้าหูกระต่าย คือ หูเล็กแต่ยาว ม้าตระกูลไม่ดี ได้แก่ ม้าหูลา หูใหญ่ยาวปลายเรียว ม้าหูวัว หูจะสั้นหนา
๕. คอ สันคอ ม้าที่มีสันคอบาง เป็นม้ามีตระกูลดี วิ่งเร็ว แต่ไม่ค่อยแข็งแรง ส่วนม้าที่มีสันคอหนา เป็นม้าตระกูลไม่ดี วิ่งไม่ค่อยเร็ว แต่แข็งแรง
ผมแผง ม้าตระกูลดี ผมแผงจะมีขนเส้นบางๆ ม้าตระกูลไม่ดี ผมแผงคอจะหยาบ เส้นหนา
รูปคอ คอม้ามีรูปร่างต่างกันออกไป ซึ่งจะเป็นลักษณะที่เป็นเครื่องสังเกตว่า ม้าจะดีหรือไม่ แบ่งออกเป็น ๒ ชนิด
- ม้าคอหงส์ คือ ลักษณะรูปคอที่โค้งตลอด ตั้งแต่ต้นคอ จนถึงปลายคอ ม้าที่มีคอลักษณะเช่นนี้ จะเป็นม้าที่วิ่งเรียบ และมีฝีเท้าเร็ว ขี่สบาย
- ม้าคอตรง คือ ม้าที่สันคอโค้ง ส่วนใต้คอตรง มีรูปคอพอเหมาะ ม้าที่มีลักษณะเช่นนี้ จะแข็งแรง ว่องไว เหมาะแก่การขี่
๖. ตะโหงก เป็นสิ่งแสดงความแข็งแรงของม้า ม้าที่ว่องไวจะมีตะโหงกสูงเด่น ส่วนม้าตะโหงกเตี้ยแสดงว่า ม้าไม่แข็งแรง
๗. ส่วนหลัง เป็นส่วนที่รับน้ำหนักของคนที่นั่ง บนหลังม้า ม้าที่มีลักษณะหลังที่ยาวและอ่อน แสดงถึงว่า ม้านั้นไม่แข็งแรง เพราะเมื่อใช้ขี่หรือบรรทุกของ จะทำให้หลังอ่อนรับน้ำหนักได้ไม่มาก ถ้าม้าที่ส่วนหลังสั้น จะทำให้ม้าเอี้ยวตัวไม่สะดวก และเป็นเครื่องชี้ให้ทราบได้ว่า ปอดม้านั้นจะไม่ใหญ่ เวลาวิ่งจะเหนื่อยเร็ว เราแบ่งลักษณะรูปส่วนหลังม้าออกเป็น :
ม้าหลังโค้ง เป็นม้าที่รับน้ำหนักได้ดีมาก และมีความอดทนต่อน้ำหนักที่รับ แต่ถ้าใช้ขี่ จะกระเทือนมาก ม้าชนิดนี้เหมาะสำหรับใช้บรรทุกสิ่งต่างๆ
ม้าหลังตรง เป็นม้าที่มีลักษณะดี เมื่อเวลาบรรทุกของ หลังจะแอ่นลงเล็กน้อย ม้าชนิดนี้รับน้ำหนักได้ดี มีความอดทน และขี่สบาย
ม้าหลังแอ่น ม้าที่มีลักษณะรูปหลังแอ่น เมื่อบรรทุกของ หรือรับน้ำหนักคนขี่ จะทำให้หลังแอ่นมากขึ้น ม้าชนิดนี้จะรับน้ำหนักมากไม่ได้ แต่ใช้ขี่ได้เรียบสบาย
๘. ส่วนก้นหรือส่วนท้ายของม้า
ม้าที่มีก้นหนาใหญ่ จะเป็นม้าที่มีกำลังมาก แข็งแรง และวิ่งได้เร็ว
๙. หาง
มีประโยชน์สำหรับป้องกันยุงและแมลงมารบกวน ฉะนั้นจึงไม่ควรตัดหางม้าให้สั้นเกินไป หางม้ายังบอกตระกูลของม้าได้ โดยดูตำแหน่งการติดของมัน หางติดสูง คือ ตำแหน่งของหางจะติดได้ระดับเดียวกันกับก้นของม้า แสดงว่า เป็นม้าตระกูลดี หางติดต่ำ หรือหางจุกตูด เป็นม้าตระกูลไม่ดี ไม่สวยงาม หางติดปานกลาง แสดงว่า เป็นม้าตระกูลพอใช้ได
๑๐. หน้าอก
เป็นเครื่องแสดงให้ทราบว่า ม้านั้นแข็งแรงหรือไม่ แบ่งออกเป็น
ม้าอกราชสีห์ คือ ม้าที่มีหน้าอกกว้าง มีกล้ามเนื้อมาก และกล้ามเนื้อนูนเป็นก้อนทั้งสองข้าง แสดงว่า เป็นม้าที่มีกำลังแข็งแรง มีความอดทนดี
ม้าอกไก่ คือ ม้าที่มีหน้าอกแคบ กล้ามเนื้อน้อย และอกนูนเป็นสันลงมา ตรงกลางดูคล้ายอกไก่ เป็นม้าที่ไม่ค่อยแข็งแรงนัก
ม้าอกแคบหรืออกห่อ คือ ม้าที่มีกล้ามเนื้ออกน้อย เวลายืนขาหน้าจะชิดกันมาก แสดงว่า ไม่แข็งแรง และไม่อดทน
๑๑. สวาบ
สวาบของม้าธรรมดา มักจะกว้างราว ๑ ฝ่ามือ จึงจะนับว่า พอดี ถ้าสวาบกว้างกว่านี้ ส่วนมากนับว่า ไม่แข็งแรง มักจะเป็นม้าเอวบาง หรือเอวอ่อน
๑๒. สะบัก
ม้าที่มีสะบักยาว มักวิ่งได้เร็ว เนื่องจากม้าเหยียดขาไปข้างหน้าได้มาก ก้าวขาได้ยาวและเร็ว สะบักม้าที่ดี จะมีความยาวเท่ากับส่วนศีรษะ หรือถ้ายาวกว่าส่วนศีรษะยิ่งดี สะบักควรจะเอน ประมาณ ๕๐-๖๐ องศากับลำตัวจึงนับว่าดี้
๑๓. ขาหน้า ขาหน้าจะต้องไม่โก่งหรือแอ่น ขาทั้งคู่ควรจะตั้งตรง จึงจะเป็นม้าที่วิ่งได้ดี ม้าที่ปลายเท้าแคบ หรือยืนบิดปลายเท้า หรือยืนขาถ่าง มักจะวิ่งไม่เร็ว ส่วนประกอบของขาหน้าที่ควรพิจารณา ได้แก่
โคนขา ควรจะมีกล้ามเนื้อแข็งแรง และค่อยๆ เรียวลงมาตามลำดับ และผิวหนังบาง เห็นเส้นเอ็นได้ชัดจึงจะดี
หน้าแข้ง ต้องเรียวเล็กลงตามลำดับ มีผิวหนังบาง ขนละเอียด ไม่ปุกปุยและหยาบ
กีบ ม้าที่มีกีบเล็กจะวิ่งได้เร็วกว่าม้าที่มีกีบใหญ่ กีบที่ดีจะต้องเรียบไม่เป็นลูกคลื่น หรือมีรอยแตกร้าว
๑๔. ขาหลัง เช่นเดียวกับขาหน้า คือ ตั้งได้พอเหมาะ ขาหลังทั้งสองต้องอยู่ห่างกันพอเหมาะ เวลาม้ายืนขาหลังต้องเอนเข้าข้างในตัวเล็กน้อย และข้อตาตุ่มของขาหลังโตกว่าข้อตาตุ่มของขาหน้าเล็กน้อย