การปฏิบัติรักษา
๑. การปรังปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดิน
ถ้าที่ดินเป็นป่าเปิดใหม่และความอุดมสมบูรณ์ของดินยังสูงอยู่ การใส่ปุ๋ยยังไม่จำเป็น เมื่อปลูกข้าวโพดติดต่อกันไป ๔-๕ ปี ควรจะเริ่มปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดินบ้าง อาจใส่ปุ๋ยพืชสด ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์ก็ได้
การปลูกพืชตระกูลถั่ว เช่น ปอเทือง (Crota laria juncea) และโสนไต้หวัน (Sesbania swsban) เพื่อไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสด เป็นวิธีเพิ่มอินทรียวัตถุและอาหารพืชลงในดินที่ดีและประหยัดวิธีหนึ่ง ถ้ามีปุ๋ยมูลวัวควายใส่ด้วยไร่ละประมาณ ๓-๔ ต้น/ปี ยิ่งดี
สำหรับการใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์นั้น ในแหล่งปลูกข้าวโพดทั่วๆ ไปควรใช้ปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจน (N) และฟอสฟอรัส ประมาณ ๘-๑๖ กิโลกรัม/ไร่ และมีธาตุโพแทสเซียม ประมาณ ๔-๘ กิโลกรัม/ไร่ สำหรับระยะเวลาในการใส่ปุ๋ยนั้น อาจใส่ปุ๋ยผสมทั้งหมดก่อนปลูก หรืออาจใส่ปุ๋ยไนโตรเจนครึ่งหนึ่งรวมกับปุ๋ยผสมฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมทั้งหมดก่อนปลูก แล้วใส่ปุ๋ยไนโตรเจนครึ่งที่เหลือ เมื่อข้าวโพดอายุประมาณ ๒-๓ สัปดาห์
๒. การปราบวัชพืช
วัชพืชเป็นศัตรูสำคัญของข้าวโพด ยิ่งถ้าเตรียมดินไม่ดี วัชพืชจะขึ้นมาแย่งอาหารในดินของข้าวโพดทำให้ได้ผลไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย การกำจัดวัชพืช ควรกระทำอย่างน้อย ๑ ครั้ง หลังจากปลูก อาจจะใช้วิธีไถพรวนระหว่างแถวหรือจะใช้จอบถากก็ได้ การใช้สารเคมีพวกอะทราซีน (atrazine) พ่นก่อนปลูกข้าวโพดนับว่าควบคุมการงอกของวัชพืชได้ดี วิธีการใช้คือละลายเนื้อยาแท้ประมาณ ๕๐๐-๑,๐๐๐ กรัม/น้ำ ๔๐-๘๐ ลิตรพ่นในเนื้อที่ ๑ ไร่ ก่อนหรือหลังจากปลูกเสร็จอย่างไรก็ตาม ยา |