เล่มที่ 3
ข้าวโพด
สามารถแชร์ได้ผ่าน :
การปฏิบัติรักษา

๑. การปรังปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดิน

            ถ้าที่ดินเป็นป่าเปิดใหม่และความอุดมสมบูรณ์ของดินยังสูงอยู่ การใส่ปุ๋ยยังไม่จำเป็น เมื่อปลูกข้าวโพดติดต่อกันไป ๔-๕ ปี ควรจะเริ่มปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดินบ้าง อาจใส่ปุ๋ยพืชสด ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์ก็ได้

            การปลูกพืชตระกูลถั่ว เช่น ปอเทือง (Crota laria juncea) และโสนไต้หวัน (Sesbania swsban) เพื่อไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสด เป็นวิธีเพิ่มอินทรียวัตถุและอาหารพืชลงในดินที่ดีและประหยัดวิธีหนึ่ง ถ้ามีปุ๋ยมูลวัวควายใส่ด้วยไร่ละประมาณ ๓-๔ ต้น/ปี ยิ่งดี

            สำหรับการใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์นั้น ในแหล่งปลูกข้าวโพดทั่วๆ ไปควรใช้ปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจน (N) และฟอสฟอรัส ประมาณ ๘-๑๖ กิโลกรัม/ไร่ และมีธาตุโพแทสเซียม ประมาณ ๔-๘ กิโลกรัม/ไร่ สำหรับระยะเวลาในการใส่ปุ๋ยนั้น อาจใส่ปุ๋ยผสมทั้งหมดก่อนปลูก หรืออาจใส่ปุ๋ยไนโตรเจนครึ่งหนึ่งรวมกับปุ๋ยผสมฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมทั้งหมดก่อนปลูก แล้วใส่ปุ๋ยไนโตรเจนครึ่งที่เหลือ เมื่อข้าวโพดอายุประมาณ ๒-๓ สัปดาห์

๒. การปราบวัชพืช

            วัชพืชเป็นศัตรูสำคัญของข้าวโพด ยิ่งถ้าเตรียมดินไม่ดี วัชพืชจะขึ้นมาแย่งอาหารในดินของข้าวโพดทำให้ได้ผลไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย การกำจัดวัชพืช ควรกระทำอย่างน้อย ๑ ครั้ง หลังจากปลูก อาจจะใช้วิธีไถพรวนระหว่างแถวหรือจะใช้จอบถากก็ได้ การใช้สารเคมีพวกอะทราซีน (atrazine) พ่นก่อนปลูกข้าวโพดนับว่าควบคุมการงอกของวัชพืชได้ดี วิธีการใช้คือละลายเนื้อยาแท้ประมาณ ๕๐๐-๑,๐๐๐ กรัม/น้ำ ๔๐-๘๐ ลิตรพ่นในเนื้อที่ ๑ ไร่ ก่อนหรือหลังจากปลูกเสร็จอย่างไรก็ตาม ยาปราบวัชพืชนี้จะให้ผลดีก็ต่อเมื่อมีความชื้นในดินดีเท่านั้น
ใบข้าวโพดที่เป็นโรคราน้ำค้าง มีลักษณะใบลาย
ใบข้าวโพดที่เป็นโรคราน้ำค้าง
มีลักษณะใบลาย
๓. การป้องกันและการกำจัด โรคแมลงศัตรูข้าวโพด

            โรคข้าวโพดที่มีความรุนแรง ได้แก่ โรคราน้ำค้าง (downy mildew) ถ้าเป็นแล้ว ต้นข้าวโดดจะไม่ให้ผลิตผลปัจจุบันยังไม่มีสารเคมีชนิดใดที่กำจัดเชื้อราชนิดนี้ได้ วิธีป้องกันคือ การคัดหาพันธุ์ข้าวโพดที่ต้านทานโรคนี้ได้เท่านั้น โรคข้าวโพดอื่นๆ ไม่มีความรุนแรงนักในประเทศไทย
            แมลงที่ทำลายข้าวโพดรุนแรง คือ ตั๊กแตนปาทังกา (Patanga succincta L.) แมลงพวกนี้จะทำลายข้าวโพดตั้งแต่ระยะต้นอ่อนไปจนถึงต้นแก่เริ่มออกฝัก อาจกำจัดโดยใช้ยาดีลดริน ๒% ชนิดผง พ่นในอัตรา ๕ กิโลกรัม/ไร่ หรือถ้าเป็นยาดีลดรินชนิดน้ำ ใช้เนื้อยาแท้ ๕๐-๑๐๐ กรัม ผสมน้ำในอัตราเดียวกัน ฉีดขณะตั๊กแตนยังเป็นตัวอ่อนอยู่ และเว้นระยะการพ่นยา ๗-๑๐ วัน