ผลกระทบทางด้านแรงงาน ผลกระทบทางด้านแรงงานนั้นจะมีต่อประเทศประเทศในระยะยาว คือ ลักษณะงานของผู้บริหารระดับสูง จำเป็นที่จะต้องมีผู้บริหารที่มีประสบการณ์สูง สามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลที่เป็นจริงเป็นพื้นฐาน นักบริหารระดับสูงที่มีเพียงประสบการณ์จึงจำเป็นต้องศึกษาเรื่องสารนิเทศ ไม่เช่นนั้นแล้ว หน่วยงานของตนเองจะไม่สามารถพัฒนาทันหน่วยงานอื่น | |
ผู้บริหารระดับสูงใช้ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ในการทำงาน | |
ลักษณะแรงงานความชำนาญทางด้านออกแบบ เช่น ออกแบบเสื้อผ้า ออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ออกแบบบ้าน ออกแบบถนน ออกแบบรถยนต์ การวิจัยการเขียน การวิเคราะห์ และวางระบบงาน เพื่อการออกแบบ เป็นต้น เหล่านี้ยังมีความจำเป็น และมีความต้องการมากขึ้น ลักษณะแรงงานความชำนาญทางด้านการเขียนแบบ เช่น เขียนแบบเสื้อผ้า เขียนแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเขียนแบบบ้าน เป็นต้น ความจำเป็นจะมีน้อยลง เพราะคอมพิวเตอร์จะสามารถช่วยได้ จึงไม่จำเป็นต้องใช้คนมีความสามารถมากนัก คนเหล่านี้จะได้เงินเดินมากขึ้น ทำงานน้อยลง แต่ได้ผลงานมากและดีกว่าเขียนด้วยมือ ลักษณะการใช้เครื่องแบบนี้ จะช่วยให้ผู้ที่มีโอกาสได้เรียนรู้วิธีการใช้ และฝีมือทักษะด้วยตนเอง โดยไม่เสียเวลามากนัก | |
การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบบ้าน | |
ลักษณะงานที่ใช้ความชำนาญทางด้านการพิมพ์ การสื่อสาร การประกอบอุปกรณ์ เช่น การพิมพ์ดีด การเรียงพิมพ์ การจัดพิมพ์หนังสือ การไปรษณีย์ การประกอบรถยนต์ และการประกอบเครื่องไฟฟ้า เป็นต้น เหล่านี้จะลดความสำคัญลงทุกที เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์จะเข้ามาแทนที่ทุกอย่าง จะมีลักษณะเป็นไปด้วยเครื่องอัตโนมัติ ใช้ง่าย สามารถดำเนินการได้ โดยไม่ต้องใช้ความชำนาญมาก แต่ค่าแรงสูงขึ้น ลักษณะงานที่ใช้แรงงาน เช่น การปลูกบ้าน ปลูกต้นไม้ ปลูกพืชผัก จะยังอยู่เหมือนเดิม นอกจากประเภทที่ใช้แรงงานสัตว์ อาจจะมีเครื่องมือมาทดแทน | |
การใช้คอมพิวเตอร์วิเคราะห์วิจัยธุรกิจการเงิน | ด้วยเหตุที่ลักษณะแรงงานเปลี่ยนแปลงไปดังกล่าวข้างต้น ธุรกิจทางด้านวิเคราะห์วิจัย เช่น วิจัยการตลาด วิจัยเศรษฐกิจ และการให้บริการ ได้แก่ กิจการท่องเที่ยว กิจการโรงแรม กิจการสารนิเทศ กิจการการเงิน กิจการขนส่ง และกิจการทำข่าวสาร เหล่านี้จะเป็นธุรกิจ ที่จะขยายตัว และใช้แรงงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจาก ผลผลิตต้องการมาตรฐานที่ดีขึ้น ทั้งปริมาณ และอัตราการผลิต |
ผลกระทบต่อลักษณะงานดังกล่าวข้างต้นนั้น ยังมีรายละเอียดอีกมาก ดังตัวอย่างรายละเอียดในด้านการบริหารการศึกษาต่อไปนี้ ถ้าหน่วยงานการศึกษามีขนาดเล็ก ผู้บริหารอาจจะสามารถมองเห็นปัญหาต่างๆ ได้โดยง่าย พร้อมทั้งสามารถตัดสินใจแก้ปัญหา ตลอดจนเลือกวิธีการดำเนินการที่เหมาะสมกับหน่วยงานได้ทันท่วงที แต่ถ้าเป็นหน่วยงานการศึกษาขนาดใหญ่ เช่น มีอาจารย์มากกว่า ๒๐๐ คน มีนักศึกษามากกว่า ๒,๐๐๐ คน มีห้องเรียนมากกว่า ๑๐๐ ห้อง และมีการเปิดสอนวิชาต่างๆ มากกว่า ๓๐๐ ตอน โดยที่นักศึกษามีอิสระในการเลือกลงทะเบียนเรียนวิชาเหล่านี้ได้ ผู้บริหารจะไม่สามารถมองเห็นปัญหาต่างๆ ได้ครอบคลุมทั่วถึงทุกประเด็น และขาดสารนิเทศที่จำเป็นต้องใช้ประกอบการบริหารที่ดี งานบางอย่างก็จำเป็นต้องใช้ผู้ดำเนินการ และเวลามากเกินไป เป็นอุปสรรคต่อการปรับปรุงวิธีดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด | |
การเรียนการสอนในแบบเดิม | |
ในกรณีดังกล่าวข้างต้น การนำคอมพิวเตอร์มาช่วยงาน จะทำให้สามารถสรุปสารนิเทศในรูปแบบที่เหมาะสมได้โดยง่าย ช่วยให้ผู้บริหารสามารถเห็นปัญหาต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้น เป็นประโยชน์ประกอบการวินิจฉัย เพื่อแก้ปัญหา และพัฒนาระบบงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้นว่า แต่เดิม การสรุปผลการลงทะเบียนเรียนของนักศึกษาใช้เวลานาน และไม่สามารถเสนอให้ผู้บริหารทราบรายละเอียดที่แท้จริง ได้ทันต่อการนำไปประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ และบุคลากรได้อย่างเหมาะสม และเที่ยงธรรม เช่น ผู้บริหารทราบอย่างคร่าวๆ ว่า วิชาภาษาอังกฤษมีนักศึกษาลงทะเบียนมากกว่าวิชาภาษาไทยมาก จึงอนุมัติให้เพิ่มจำนวนอาจารย์ในกลุ่มวิชาภาษาอังกฤษ ตามข้อเสนอของหน่วยวิชาภาษาอังกฤษ แต่เมื่อนำคอมพิวเตอร์มาช่วยในการลงทะเบียนเรียนของนิสิต จึงเห็นได้ว่า มีการเปิดสอนวิชาภาษาอังกฤษจำนวน ๓๐ กลุ่ม มีอาจารย์จำนวน ๑๐ คน ส่วนวิชาภาษาไทยมีการเปิดสอน ๑๐ กลุ่ม มีอาจารย์ ๒ คน ดังนั้นโดยเฉลี่ยอาจารย์ที่สอนภาษาอังกฤษจึงสอนคนละ ๓ กลุ่ม ส่วนอาจารย์ภาษาไทยสอนคนละ ๕ กลุ่ม เนื่องจากอาจารย์สอนภาษาอังกฤษเห็นว่า การสอนภาษาอังกฤษคนละ ๓ กลุ่ม เป็นงานหนักเกินไปจึงขอบุคลากรเพิ่ม แต่อาจารย์สอนภาษาไทยมิได้ร้องเรียนว่างานหนัก จึงไม่ได้บุคลากรเพิ่ม เมื่อพิจารณาดูแล้วเห็นว่า มีความไม่เหมาะสมเกิดขึ้น และเป็นเหตุให้อาจารย์ที่สอนภาษาไทยไม่มีเวลาว่างจากการสอน พอที่จะใช้พัฒนาวิชาภาษาไทยได้ดีขึ้น ซึ่งอาจเป็นผลให้ขาดวิวัฒนาการในการศึกษาภาษาไทย ทั้งๆ ที่ภาษาไทยมีความสำคัญต่อประเทศเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้การใช้คอมพิวเตอร์ยังทำให้ได้รายละเอียดเพิ่มเติมด้วยว่า อาจารย์ที่สอนภาษาอังกฤษนั้นบางคนสอนถึง ๕ กลุ่ม และบางคนสอนเพียง ๑ กลุ่ม ส่วนอาจารย์ภาษาไทยสอนคนละ ๕ กลุ่มทุกคน แสดงว่า หน่วยภาษาอังกฤษไม่ได้กระจายงานให้แก่บุคลากรอย่างเหมาะสม เป็นเหตุให้ใช้ทรัพยากรด้านบุคลากรไม่ได้เต็มที่ และมีบุคลากรเพียงพออยู่แล้ว ผู้บริหารอาจจำข้อมูลเหล่านี้ มาพิจารณาประกอบกับหลักการด้านบริหาร เพื่อวางแผนดำเนินการหาทางปรับปรุงให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เช่น อาจกำหนดเป็นนโยบายอาจารย์ภาษาไทยไม่ควรสอนเกินคนละ ๔ กลุ่ม และอาจารย์ภาษาอังกฤษไม่ควรสอนน้อยกว่า ๔ กลุ่ม เป็นต้น |