การวัดความกดอากาศ
นักอุตุนิยมวิทยาใช้เครื่องมือ "บารอมิเตอร์" อย่างละเอียด สำหรับวัดความกดอากาศ หน่วยที่ใช้วัดความกดของอากาศนั้น อาจจะเป็นความสูง ของปรอท เป็นนิ้ว หรือเซนติเมตร ปอนด์ต่อตารางนิ้ว หรือกิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตรก็ได้ แต่ในปัจจุบัน ส่วนมากนิยมใช้หน่วยเป็น มิลลิบาร์ (millibar) เพราะเป็นหน่วยที่สะดวกกว่า ซึ่งเราจะเปรียบเทียบกันได้ ตามหลักการคำนวณต่อไปนี้ ถ้าความสูงของปรอทเท่ากับ ๗๖ เซนติเมตร เราจะคำนวณความกดของอากาศได้ดังนี้ ความกด = ความสูงของปรอท x ความหนาแน่นของปรอท x อัตราเร่งของโลก = ๗๖ ซม. x ๑๓.๖ กรัม/ซม.๓ x ๙๘๐.๔ ซม./วินาที๒ = ๑,๐๑๓,๓๔๑ ไดน์/ซม.๒ จากมาตรา ๑ บาร์ (bar) = ๑,๐๐๐,๐๐๐ ไดน์ต่อตารางเซนติเมตร ๑ บาร์ = ๑,๐๐๐ มิลลิบาร์ ๑ มิลลิบาร์ = ๑,๐๐๐ ไดน์ต่อตารางเซนติเมตร ฉะนั้น ความกดสูง ๗๖ เซนติเมตรของปรอท = ความสูงของปรอท ๒๙.๙๒ นิ้ว = ๑,๐๑๓,๓๔๑ ไดน์ต่อ ๑ ตารางเซนติเมตร = ๑๔.๗ ปอนด์ต่อ ๑ ตารางนิ้ว = ๑,๐๑๓.๓ มิลลิบาร์ นอกจากบารอมิเตอร์ปรอทแล้ว นักวิทยาศาสตร์ยังใช้เครื่องวัดความกดอากาศอีกชนิดหนึ่ง เรียกว่า "บารอมิเตอร์แบบแอนิรอยด์" (aneroid barometer) คำว่า "แอนิรอยด์" แปลว่า ไม่เปียก (คือ แห้ง) หลักของแอนิรอยด์บารอมิเตอร์ก็คือ การใช้กล่องโลหะ ซึ่งดูดอากาศออกเป็นบางส่วน เป็นเครื่องวัดความกดของอากาศ เมื่อความกดของอากาศเปลี่ยนแปลง ก็จะทำให้กล่องโลหะนั้นขยายหรือหดตัว เราสามารถ ใช้คานต่อจากกล่องโลหะไปที่หน้าปัด เพื่อเป็นเครื่องแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของความกดอากาศได้ | ||
| ||
ถ้าเรามีความประสงค์จะบันทึกการเปลี่ยนแปลงความกดของอากาศ ตลอดชั่วโมง ตลอดวัน หรือตลอดเดือน ก็สามารถทำได้ โดยใช้แขนปากกาต่อกับกล่องโลหะ ซึ่งถูกดูดอากาศออกเป็นบางส่วน แล้วใช้แผ่นบักทึกความกดม้วนรอบกระบอก ซึ่งหมุนด้วย ลานนาฬิกา เครื่องบันทึกความกดอากาศนี้เรียกว่า "บารอกราฟ" (barograph) |