เล่มที่ 17
การตั้งถิ่นฐานของมนุษย์
สามารถแชร์ได้ผ่าน :
ปัญหาสิ่งแวดล้อมในเขตเมือง

๑. ภาวะมลพิษ

ก. อากาศเสีย

            อากาศเสีย หมายถึง สภาวะอากาศที่มีสารมลพิษเจือปนอยู่ในปริมาณมาก จนเป็นอันตรายต่อชีวิตผู้คน สัตว์ พืช ตลอดจนทำความเสียหายให้เกิดขึ้นกับสภาพบ้านเรือน และทรัพย์สิน สารมลพิษเหล่านี้ ได้แก่ ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ละอองตะกั่ว ไฮโดรคาร์บอน ฝุ่นละออง และเขม่าควัน เป็นต้น

            ปัญหาอากาศเสียในประเทศไทย ส่วนใหญ่เกิดในเขตชุมชนเมือง โดยมีสาเหตุมาจากยานพาหนะต่างๆ ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง เช่น รถยนต์ รถบรรทุก รถจักรยานยนต์ การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงจะทำให้สารพิษหลายชนิดถูกปล่อยออกมาทางท่อไอเสีย โดยจะมีปริมาณสารมลพิษออกมามากที่สุดในขณะที่เครื่องยนต์เดินในเกียร์ว่าง ซึ่งมักเกิดในช่วงการจราจรติดขัด นอกจากนี้ โรงงานอุตสาหกรรรม ก็เป็นแหล่งสำคัญอีกแห่งหนึ่งที่ทำให้เกิดอากาศเสียสำหรับกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองที่มีปัญหาด้านการจราจรมาก รวมทั้งมีโรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่โดยรอบ พบว่าในพื้นที่หลายแห่งมีค่าปริมาณสารพิษในอากาศสูงมาก ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนที่อาศัยในบริเวณนั้นๆ ได้

โรงงานอุตสาหกรรม ก่อให้เกิดภาวะมลพิษทางอากาศ

ข. น้ำเสีย

            การตั้งถิ่นฐานของชุมชนเมืองในประเทศไทย จะมีการพัฒนาอยู่ในพื้นที่ริมแม่น้ำลำคลอง โดยอาศัยน้ำในแหล่งน้ำ ทั้งในการอุปโภค บริโภค การคมนาคม ตลอดจนใช้เป็นแหล่งรองรับน้ำเสียด้วย ในอดีตที่ผ่านมา ประชาชนมีจำนวนไม่มากนัก ปริมาณความสกปรกที่เกิดจากน้ำเสียจึงมีปริมาณน้อย แหล่งน้ำต่างๆ จึงสามารถรองรับน้ำเสียที่ปล่อยทิ้งลงไปได้ ไม่เกิดการเน่าเสีย แต่เมื่อประชากรมีจำนวนมากขึ้น ทำให้มีการปล่อยน้ำทิ้งลงสู่แม่น้ำลำคลองมากขึ้น จนถึงระดับเกินกว่าที่แหล่งน้ำมันจะรองรับต่อไปได้ น้ำจึงได้เกิดการเน่าเสียไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ดังเดิม เช่นที่กำลังเกิดขึ้นในแม่น้ำลำคลองหลายสายในประเทศไทย

            การระบายน้ำทิ้งจากบ้านเรือนที่พักอาศัย โรงงานอุตสาหกรรม และการเกษตรกรรม เช่น ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ลงสู่แม่น้ำ ลำคลอง โดยไม่มีการบำบัด หรือลดความสกปรกของน้ำทิ้งเสียก่อน เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาดังกล่าว ดังเช่นปัญหาน้ำเสียในแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่า ความสกปรกที่ระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยานั้น ส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ ๗๐ เป็นน้ำเสียที่มา จากกิจกรรมในชุมชนเมืองต่างๆ ของลุ่มแม่น้ำ เจ้าพระยา ที่เหลือประมาณร้อยละ ๒๕ เป็น น้ำเสียที่มาจากโรงงานอุตสาหกรรม และร้อยละ ๕ มาจากพื้นที่เกษตรกรรมและกิจกรรมอื่นๆ

ปัญหาขยะมูลฝอยในชุมชน 

ค. มูลฝอย

            มูลฝอยเป็นสิ่งของที่เหลือทิ้งจากการอุปโภค บริโภค ของมนุษย์เรา ซึ่งในอดีตนั้น การทิ้งขยะมูลฝอย โดยไม่มีการจัดการใดๆ ไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาต่อสังคมเท่าใดนัก เนื่องจากจำนวนประชากรยังมีน้อย และการตั้งบ้านเรือนยังไม่หนาแน่น พื้นที่ดินยังมีมากพอให้นำมูลฝอยไปทิ้งและปล่อยให้ย่อยสลายไปได้เองตามธรรมชาติ แต่เมื่อจำนวนประชากรมีมากขึ้นและมีการตั้งบ้านเรือนหนาแน่นขึ้น ปริมาณมูลฝอยก็จะเพิ่มมากขึ้นไปด้วย ในขณะที่ที่ดินที่จะรับมูลฝอยมีน้อยลง จึงจำเป็นต้องมีการจัดการกับมูลฝอยที่เกิดขึ้นให้เป็นที่เรียบร้อย

            ในชุมชนที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว มักจะมีปัญหาปริมาณมูลฝอยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกินกว่าขีดความสามารถของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ในการเก็บและกำจัดจะดำเนินการได้ทัน ทำให้ชุมชนขาดความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อย และยังก่อให้เกิดปัญหา อื่นๆ ตามมาอีกหลายประการ เช่น ปัญหา น้ำเสีย อากาศเสีย เป็นแหล่งเพาะพันธุ์และ แพร่กระจายของเชื้อโรค เป็นต้น ชุมชนที่มี ปัญหามูลฝอยอย่างเด่นชัดในขณะนี้ ได้แก่ ชุมชนเมืองที่มีประชากรหนาแน่น และเป็นเมือง ศูนย์กลางความเจริญหรือเป็นเมืองท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพมหานคร เมืองเชียงใหม่ เมือง หาดใหญ่ เมืองภูเก็ต และเมืองพัทยา เป็นต้น

ชุมชนแออัด เป็นปัญหาสังคมเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

๒. ปัญหาทางสังคม

ก. ชุมชนแออัด

            ชุมชนแออัดเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชนเมือง มีการสร้างบ้านพักอาศัยรวมกันอยู่อย่างแออัด ส่วนใหญ่สร้างจากเศษวัสดุที่หาได้ง่าย และตั้งหลักแหล่งใกล้แหล่งงาน ที่มีการคมนาคมขนส่งสะดวก หรือในบริเวณที่ไม่มีใครแสดงตนเป็นเจ้าของที่ดินอย่างเด่นชัด เมื่อเพิ่งพักหลังแรกถูกสร้างขึ้น หลังต่อๆ ไป ก็เกิดตามขึ้นมาในเวลาอันรวดเร็ว ลักษณะทางกายภาพที่เห็นได้ชัดของชุมชนแออัดคือ บ้านเรือนที่อยู่อาศัยปลูกติดกัน หนาแน่นแออัด ไม่ถูกสุขลักษณะ ทางเท้าหรือทางเดินจะมีลักษณะแคบส่วนใหญ่เป็นไม้ หากได้รับการปรับปรุงแล้วก็จะเป็นคอนกรีต ขาดแคลนท่อระบายน้ำ สำหรับไฟฟ้าและประปาก็เป็นปัญหาเช่นเดียวกัน เนื่องจากส่วนใหญ่จะไม่มีทะเบียนบ้าน ทำให้ไม่มีการจ่ายน้ำให้อย่างเป็นทางการ นอกจากนั้นลักษณะที่เด่นชัดอีกอย่างหนึ่งคือ ขยะมูลฝอย เนื่องจากผู้คนในชุมชนแออัดมักจะไม่มีที่ทิ้งขยะเป็นสัดส่วน ทำให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมปัญหาสุขภาพอนามัย ปัญหาทางด้านสังคม เช่น ความมั่นคงในการทำงาน ความไม่ปลอดภัยในทรัพย์สิน และเด็กขาดการศึกษา เป็นต้น

ข. การขาดแคลนพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เพื่อการนันทนาการ

            สำหรับพื้นที่ในเมืองนั้น จะมีประชาชนอยู่กันอย่างหนาแน่นแออัด ที่ดินส่วนใหญ่ใช้ประโยชน์ เพื่อการอยู่อาศัย และการประกอบอาชีพ ฉะนั้น พื้นที่สีเขียว และพื้นที่เพื่อการนันทนาการ อันได้แก่ สวนหย่อม สนามเด็กเล่น สนามหญ้า สวนสาธารณะ และสนามกีฬา จึงมีน้อย ไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนยกตัวอย่าง กรุงเทพมหานครในปัจจุบันมีพื้นที่สีเขียวประมาณ ๖,๒๑๓ ไร่ หรือ ประมาณ ๑.๑ ไร่ต่อประชากรจำนวน ๑,๐๐๐ คน ซึ่งนับว่าเป็นสัดส่วนที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานที่ตั้งไว้ว่าควรจะมีพื้นที่ ๑๐ ไร่ต่อประชากร ๑,๐๐๐ คน นับเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญปัญหาหนึ่งในเขตเมือง

ค. แผ่นดินทรุด น้ำท่วม

            การสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ เพื่อการอุปโภคบริโภคในปริมาณมาก จะทำให้เกิดปัญหาการทรุดตัวของพื้นดิน เนื่องจากน้ำบาดาลตามธรรมชาติ ไม่สามารถไหลทดแทนเข้าไปในชั้นดินที่ถูกนำน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ได้ทัน ซึ่งจะทำให้ระดับและแรงดันของน้ำบาดาลในชั้นนั้นๆ ลดลง เมื่อแรงดันน้ำบาดาลที่อยู่ใต้พื้นดินลดลงน้ำหนักของดินส่วนบนและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ จะสามารถกดอัดชั้นดินระดับล่างให้แน่นขึ้นและมีช่องว่างลดลง ทำให้ชั้นดินส่วนบนทรุดตัวตามลงไปด้วย

            เมืองขนาดใหญ่ หรือพื้นที่อุตสาหกรรม ที่มีการสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ทดแทนน้ำประปา มักจะพบว่า มีการทรุดตัวของพื้นดิน เนื่องจากสาเหุตดังกล่าวข้างต้น ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาคือ ปัญหาน้ำท่วม เนื่องจากบริเวณที่ตั้งของเมืองจมต่ำลงไปเมืองเปรียบเทียบกับระดับน้ำทะเล ตลอดจนทำให้เกิดปัญหาระดับน้ำบาดาลลดลงอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถสูบน้ำขึ้นมาใช้ได้ หรือที่สูบมาได้ก็มีคุณภาพต่ำ จนไม่สามารถนำไปใช้ในการอุปโภคและบริโภคได้ ในเขตวิกฤติการณ์น้ำบาดาลและแผ่นดินทรุดของกรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียงบางแห่ง เช่น เขตพระโขนง เขตบางกะปิ อำเภอพระประแดง และอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ อาจจะมีระดับของพื้นดินอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลในอ่าวไทย