ประเพณี พิธีกรรม ความเชื่อที่กระทำ ณ เทวสถานทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
ในปัจจุบันคติความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์ยังมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของคนไทยอยู่ไม่น้อย เนื่องจากคติความเชื่อดังกล่าว ได้หยั่งรากฝังลึกในจิตใจของคนไทยมาช้านาน ในอดีต ประเพณี พิธีกรรม และความเชื่อที่กระทำ ณ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์นั้น จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า ส่วนใหญ่มักเป็นพระราชพิธีในพระราชสำนัก และพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบูชายัญ ซึ่งคณะพราหมณ์ราชสำนักไทยได้เลิกไปจนหมดสิ้น คงเหลือแต่การประกอบพิธีสาธยายพระเวท สร้างมงคล ล้างอัปมงคล ดำเนินงานทางศาสนาควบคู่ไปกับพระพุทธศาสนา
เทวสถานใช้เป็นที่ประกอบพิธีต่างๆ นอกเหนือจากพิธีกรรมทางศาสนา เพราะถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ - พิธีแต่งงาน ที่แทวสถาน วัดวิษณุ
พิธีสำคัญพิธีแรกที่จะต้องกระทำ ณ เทวสถานทุกเทวสถาน คือ พิธีสถาปนาเทวสถาน แต่หลักฐานทางประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับพิธีดังกล่าวเมื่อครั้งโบราณนั้น ไม่ปรากฏชัดเจน มีปรากฏเฉพาะพิธีสถาปนาเทวสถาน วัดวิษณุ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๒ ว่า มีการประกอบพิธีรวม ๑๑ วัน ประกอบด้วย การบูชาพระแม่ธรณี การอ่านพระเวท และบูชาเทพเจ้าสำคัญต่างๆ การบูชาพระอัคนีเทพ การบูชาพระนพเคราะห์ พิธีสำคัญๆ ในการสถาปนาเทวสถานนั้น ได้แก่ พิธีกรมากุฏิ คือ การทำกุฏิ พิธีชลาธิวาส คือ การรับเทวรูปจากผู้สร้างแล้วนำไปแช่น้ำ ในภาชนะขนาดใหญ่ พิธีอันนาธิวาส คือ การโปรยถั่ว งา ข้าวสาลี ข้าวสาร ให้ท่วมเทวรูป พิธีศัยยาธิวาส คือ การเชิญพระเป็นเจ้าเสด็จมาบรรทมบนพระยี่ภู่ พิธีเชิญวิญญาณพระเป็นเจ้า คือ การเชิญพระเป็นเจ้ามาสถิตในเทวรูป แล้วจึงนำไปประดิษฐาน พิธีสุดท้ายคือ พิธีปูรณหูติ เป็นพิธีที่กระทำ เพื่อแสดงแก่พระเป็นเจ้าว่า พิธีที่กระทำมาทั้ง ๑๑ วันนั้น สมบูรณ์พร้อมแล้ว จากนั้นจึงทำพิธีเปิดเทวสถาน
การทำพิธีบูชาไฟ ที่เป็นพิธีกรรมประจำวัน มีการเผาสิ่งต่างๆ เช่น เนย งาดำ กำยาน ฯลฯ เพื่อบูชาพระพิฆเนศ ที่วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม)
โดยทั่วไปแล้วเทวสถานจะใช้เป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมประจำวันและพิธีต่างๆ ที่สำคัญของศาสนาพราหมณ์ เนื่องจากเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ คือ เป็นที่สถิตของพระเป็นเจ้า สำหรับพิธีกรรมประจำวันของพราหมณ์ที่กระทำ ณ เทวสถาน มีพิธีสำคัญ ๒ ส่วน ซึ่งเป็น ๒ ใน ๕ ข้อของการบูชา ๕ ประการ ที่เรียกว่า ปัญจยชนะ หรือปัญจยัญญะ ได้แก่ พรหมยัญญะ คือ การทำพิธีบูชาตามคำสอนในคัมภีร์พระเวท หรือการศึกษาพระเวทให้แตกฉานยิ่งขึ้น ซึ่งต้องทำวันละ ๓ เวลา คือ ระหว่างเวลา ๐๔.๐๐ - ๐๘.๐๐ น. ระหว่างเวลา ๑๑.๓๐ - ๑๓.๐๐ น. และระหว่างเวลา ๑๗.๑๕ - ๒๐.๐๐ น. ก่อนทำพิธี ต้องชำระร่างกายให้สะอาดบริสุทธิ์เสียก่อน เทวยัญญะ คือ การทำพิธีบูชาไฟ โดยเผาสิ่งต่างๆ ลงไป เช่น เนย งาดำ ธูป ผงไม้จันทน์ กำยาน เพื่อบูชาเทวดา ส่วนการบูชาอีก ๓ ข้อ คือ ปิตฤยัญญะ (การบูชาบรรพบุรุษและบุพการี) มนุษยยัญญะ (การอุปการะเพื่อนมนุษย์) และภูตยัญญะ (การอุปการะสัตว์ ธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตต่างๆ) เป็นข้อปฏิบัติ ที่ไม่ใช่การประกอบพิธีกรรม
การทำพิธีบูชาไฟ ที่เป็นพิธีกรรมประจำวัน มีการเผาสิ่งต่างๆ เช่น เนย งาดำ กำยาน ฯลฯ เพื่อบูชาพระพิฆเนศ ที่วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม)
นอกจากการประกอบพิธีกรรมเฉพาะทางศาสนาพราหมณ์ดังที่ได้กล่าวมาแล้วพราหมณ์ที่เทวสถานโบสถ์พราหมณ์สำหรับพระนคร ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบพระราชพิธีหลวงในพระบรมราชานุเคราะห์ด้วย มีพิธีสำคัญๆ ทั้งพระราชพิธีประจำแต่ละเดือน ที่เรียกว่า พระราชพิธี ๑๒ เดือน และพระราชพิธีเนื่องในโอกาสสำคัญ ซึ่งมักประกอบพระราชพิธีในพระบรมมหาราชวัง เช่น
การทำพิธีบูชาไฟ ที่เป็นพิธีกรรมประจำวัน มีการเผาสิ่งต่างๆ เช่น เนย งาดำ กำยาน ฯลฯ เพื่อบูชาพระพิฆเนศ ที่วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม)
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
เป็นการพระราชพิธีสถาปนาพระเจ้าแผ่นดินขึ้นเป็นสมมติเทพปกครองแผ่นดิน เป็นใหญ่ในทิศทั้ง ๘ และเป็นการประกาศให้ประชาชนทราบโดยทั่วกัน ตามคติพราหมณ์จะทำพิธีอัญเชิญเทพเจ้า เพื่อทำการสถาปนาพระเจ้าแผ่นดินขึ้นเป็นสมมติเทพ ดำรงธรรม ๑๐ ประการ ปกครองประเทศให้อยู่ด้วยความร่มเย็น มีพิธีโดยย่อดังนี้ สรงพระมูรธาภิเษก คือ การสรงน้ำ เพื่อความเป็นสิริมงคล การถวายน้ำอภิเษก เปิดประตูศิวาลัย อัญเชิญพระอิศวรเพื่อประทานพร ถวายสังวาลพราหมณ์เพื่อแสดงว่าพระองค์เป็นพราหมณ์ ถวายพระมหาพิชัยมงกุฎ เพื่อเป็นการประกาศปกครองประเทศโดยธรรม เลียบพระนครเพื่อแสดงพระองค์แก่ทวยราษฎร์ และประทักษิณพระนคร เพื่อให้อาณาประชาราษฎร์มีสันติสุข