การสร้าง ระบบเตือนภัยและการให้ความรู้แก่ประชาชน
จากผลของพิบัติภัยคลื่นสึนามิที่เกิดขึ้นอย่างร้ายแรงและรวดเร็ว เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ เป็นสิ่งบ่งบอกให้ทราบว่า ประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ที่มีชายฝั่งติดต่อกับทะเลอันดามันอยู่ในข่าย ที่อาจได้รับพิบัติภัยเช่นนี้อีกเมื่อใดก็ได้ในอนาคต การจะป้องกันมิให้เกิดคลื่นสึนามินั้นคงจะกระทำมิได้แต่การลดความสูญ เสียต่อชีวิตและทรัพย์สินมีทางเป็นไปได้ ถ้าหากมีการใช้มาตรการที่ดี โดยอาจแยกมาตรการ ออกเป็น ๒ ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่การสร้างระบบเตือนภัย และการให้ความรู้แก่ประชาชน
การ สร้างระบบ เตือนภัย
บรรดาประเทศต่างๆ ที่ได้รับพิบัติภัยจากคลื่นสึนามิในทะเลอันดามัน มีความเห็นพ้องร่วมกันว่า ควรมีการสร้างระบบเตือนภัยเหมือนอย่างในมหาสมุทรแปซิฟิก แต่จากผลการประชุมระหว่างประเทศ ที่ดำเนินไปหลายครั้งได้มีมติว่า ให้แต่ละประเทศสร้างระบบเตือนภัยของตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีศูนย์ควบคุมใหญ่อยู่ในประเทศใดโดยเฉพาะ และให้มีการแจ้ง และแลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูลกันอย่างรวดเร็ว เมื่อเกิดคลื่นสึนามิขึ้น ณ จุดใดจุดหนึ่งในทะเลอันดามัน
ระบบเตือนภัยคลื่นสึนามิที่ประเทศไทยกำลังดำเนินการจัดสร้างอย่างรีบ ด่วนประกอบด้วยอุปกรณ์เครื่องมือ และมาตรการต่างๆ ดังนี้

หอเตือนภัย (Warning Tower) ซึ่งติดตั้งไว้ที่บริเวณหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต
ก. การติดตั้งอุปกรณ์เครื่องมือ
อุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ในระบบเตือนภัยคลื่นสึนามิประกอบด้วยฐานเก็บ บันทึกข้อมูลใต้ท้องทะเล และทุ่นลอย ส่งสัญญาณที่พื้นผิวทะเล รวมเรียกว่า DART ย่อมาจาก Deep - ocean Assessment and Reporting of Tsunamis System ฐานเก็บบันทึกข้อมูลใต้ท้องทะเลจะส่งสัญญาณข้อมูลต่างๆ ทั้งในด้านความดันของน้ำทะเล การสั่นสะเทือนของเปลือกโลกและการเปลี่ยนแปลงของคลื่นทะเล ไปยังทุ่นลอยบนพื้นผิวน้ำ ในขณะเดียวกันทุ่นลอยบนพื้นผิวน้ำก็จะเก็บวัดข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติม เช่น ความเร็วของกระแสลม อุณหภูมิ และความกดของอากาศ แล้วส่งข้อมูลทั้งหมด เป็นสัญญาณผ่านดาวเทียม ไปยังฐานรับส่งข้อมูลคลื่นสึนามิที่อยู่บนฝั่งต่อไป จากนั้นนักวิชาการที่เชี่ยวชาญในแขนงต่างๆ ทั้งด้านสมุทรศาสตร์ อุทกศาสตร์ และธรณีวิทยา จะประเมินและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับผ่านดาวเทียม โดยใช้คอมพิวเตอร์จำลองรูปแบบเพื่อทำนายแนวโน้มของการเกิดคลื่นสึนามิ หากผลการวิเคราะห์พบว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดคลื่นสึนามิ ก็จะแจ้งไปให้ศูนย์เตือนภัยตามชายฝั่งต่างๆ ทราบทันที เพื่อส่งสัญญาณเตือนภัยให้ประชาชนในท้องถิ่นเตรียมตัวอพยพหนีภัยได้ทัน เวลา
ข. การวางระบบเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารเตือนภัยระหว่างหน่วยงานต่างๆ
เพื่อให้การเตือนภัยและการเตรียมความพร้อมในการป้องกันภัยเป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพและรวดเร็ว จึงให้มีการเชื่อมโยงฐานข้อมูล เกี่ยวกับการเกิด และการรับภัยคลื่นสึนามิระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ศูนย์ปฏิบัติการของนายกรัฐมนตรี ศูนย์ปฏิบัติการของหน่วยงาน ทั้งในระดับกระทรวงและระดับกรม รวมทั้งให้มีกลไกในการดำเนินงาน และการวินิจฉัยสั่งการ ในพื้นที่รับผิดชอบแต่ละแห่งโดยฉับไว
ค. การติดตั้งระบบเตือนภัยในท้องถิ่น
ในท้องถิ่นต่างๆ ที่อาจได้รับภัยจากคลื่นสึนามิ ให้มีการติดตั้งระบบเตือนภัยแก่ประชาชน เช่น การส่งสัญญาณจากหอเตือนภัยที่สร้างไว้ตามจุดต่างๆ การออกข่าวด่วนทางสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ การติดตั้งป้ายบอกเส้นทางอพยพหนีภัยไปยังจุดปลอดภัยที่อยู่ใกล้ที่สุด พร้อมทั้งคำแนะนำในการหนีภัย ตลอดจนการวางแผนและซ้อมปฏิบัติการตามแผนของผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับมือกับคลื่นสึนามิ ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้

ลำดับเหตุการณ์การไหลบ่าของน้ำ เข้าท่วมบริเวณชายฝั่งอย่างรวดเร็ว เมื่อคลื่นสึนามิซัดเข้าสู่หาดกมลา จังหวัดภูเก็ต
การให้ความ รู้แก่ประชาชน
การให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องคลื่นสึนามิ จะช่วยลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินได้มาก เมื่อเกิดปรากฏการณ์คลื่นสึนามิขึ้นในพื้นที่ เนื่องจากประชาชนในท้องถิ่นจะมีการระมัดระวังตน และรู้วิธีการหนีภัยได้ทันการณ์
ความรู้เรื่องคลื่นสึนามิอาจสรุปได้เป็น ๒ ส่วน คือ ความรู้เกี่ยวกับลักษณะและธรรมชาติของคลื่นสึนามิ และความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตนเมื่อมีคลื่นสึนามิเกิดขึ้นในพื้นที่
ก. ความรู้เกี่ยวกับลักษณะและธรรมชาติของคลื่นสึนามิ
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคลื่นสึนามิที่ควรทราบ มีดังนี้
- คลื่นสึนามิเกือบทั้งหมดเกิดจากแผ่นดินไหวรุนแรงใต้ท้องทะเล หรือใกล้บริเวณชายฝั่งทะเล ดังนั้น หากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในระดับ ๘ ของมาตราริกเตอร์ขึ้นไป อาจก่อให้เกิดคลื่นสึนามิขึ้น ณ บริเวณจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว แล้วแผ่ขยายตัวออกไปโดยรอบในทะเล และมหาสมุทร ที่มีอาณาเขตต่อเนื่องกัน
- คลื่นสึนามิบางลูกมีขนาดใหญ่มากเมื่อเคลื่อนที่เข้ามาถึงบริเวณ น้ำตื้นใกล้ชายฝั่งโดยอาจมีความสูงตั้งแต่ ๕ - ๖ เมตร จนถึงกว่า ๓๐ เมตร และสามารถไหลท่วมเข้าไปภายในบริเวณชายฝั่ง ได้ไกลถึงหลายร้อยเมตร
- คลื่นสึนามิประกอบด้วยคลื่นจำนวนหลายลูกซัดเข้าสู่ฝั่งทุกๆ ๑๐ - ๖๐ นาที โดยคลื่นลูกแรก อาจไม่ใช่คลื่นลูกใหญ่ที่สุด และภัยที่เกิดจากคลื่นสึนามิอาจกินเวลายาวต่อเนื่องกันหลายชั่วโมง นับจากคลื่นลูกแรกซัดเข้าสู่ฝั่งแล้ว
- คลื่นสึนามิยังคงเคลื่อนตัวได้รวดเร็วมาก ถึงแม้จะซัดขึ้นบนฝั่งแล้ว ดังนั้น คนที่เผชิญหน้ากับคลื่นสึนามิ ซึ่งโถมขึ้นบนฝั่งจะมีโอกาสรอดชีวิตได้ยาก
- ในบางครั้งก่อนที่คลื่นสึนามิลูกแรกจะมาถึงบริเวณใกล้ชายฝั่ง น้ำที่บริเวณชายฝั่ง หรือหาดทราย จะลดระดับลงอย่างผิดปกติ จนมองเห็นพื้นทะเลได้ เป็นปรากฏการณ์เตือนให้ทราบล่วงหน้าว่า คลื่นสึนามิกำลังเคลื่อนตัวมาใกล้จะถึงชายฝั่งแล้ว
- คลื่นสึนามิมีพลังมากเพราะเป็นการเคลื่อนที่ของมวลน้ำขนาดใหญ่ สามารถพัดพาก้อนหินขนาดใหญ่ ที่มีน้ำหนักหลายตัน รวมทั้งเรือ รถยนต์ และซากปรักหักพังอื่นๆ ขึ้นมาบนฝั่ง ในระยะทางไกลหลายร้อยเมตร ทำลายอาคารบ้านเรือนและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ให้พังทลายลงได้ และเมื่อคลื่นถอยกลับไปก็พัดพาเอาสิ่งต่างๆ บนบกลงไปในทะเล กลายเป็นขยะอยู่ที่ใต้ทะเลใกล้ชายฝั่ง
- คลื่นสึนามิสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่เลือกเวลา ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยไม่เกี่ยวข้องกับสภาพลมฟ้าอากาศ ดังนั้นแม้ในขณะที่ท้องฟ้าแจ่มใสก็อาจเกิดคลื่นสึนามิขึ้นได้
- คลื่นสึนามิสามารถเคลื่อนที่ลึกเข้าไปจากบริเวณปากแม่น้ำหรือลำ น้ำที่อยู่ติดต่อกับทะเลได้ ภัยจากคลื่นสึนามิจึงมิได้จำกัดอยู่เฉพาะบริเวณชายฝั่งเท่านั้น

เครื่องเตือนภัยคลื่นสึนามิ
ข. ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตนเมื่อมีคลื่นสึนามิเกิดขึ้นในพื้นที่
ในกรณีที่ อยู่บนฝั่ง ให้ปฏิบัติตนดังนี้
- หากอยู่ในโรงเรียน และได้ยินเสียงเรียกเตือน ให้ฟังคำสั่งและคำแนะนำจากครูและผู้บริหารโรงเรียน
- หากได้รับสัญญาณเตือนภัยการเกิดคลื่นสึนามิ ควรเคลื่อนย้ายครอบครัว และตนเอง ออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเร็ว และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่โดยรีบด่วน
- หากอยู่ที่บริเวณชายหาด และรู้สึกได้ถึงแผ่นดินไหวตรงเท้า (เท้าสั่นสะเทือน) ให้รีบหนีไปอยู่บริเวณที่สูง และให้อยู่ห่างบริเวณชายฝั่ง และปากแม่น้ำหรือคลองที่อยู่ติดต่อกับทะเล
- หากเกิดคลื่นสึนามิในบริเวณที่อยู่ห่างไกลออกไป อาจมีเวลาเหลือพอที่จะหาบริเวณที่สูงเพื่อหลบภัย หรือจุดที่ทางการจัดเตรียมไว้ให้ แต่ถ้าคลื่นสึนามิเกิดขึ้นในบริเวณใกล้เคียง เมื่อรู้สึกถึงแผ่นดินไหว จะมีเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีที่จะหาที่หลบภัย ดังนั้นจึงต้องปฏิบัติการโดยรวดเร็วและฉับพลัน
- หากอยู่บนอาคารสูงหลายชั้นที่มีโครงสร้างที่มั่นคงแข็งแรง ชั้นบนของอาคาร ก็สามารถใช้เป็นที่หลบภัยคลื่นสึนามิได้ หากไม่มีเวลาพอในการหาที่สูงอื่นๆ เป็นที่หลบภัย
เครื่องหมายที่นำมาติดตั้งไว้ในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยสึนามิ เพื่อช่วยในการหนีภัยของประชาชน
ในกรณีที่ อยู่ในเรือ ให้ปฏิบัติตนดังนี้
- ให้นำเรือออกจากฝั่งไปยังบริเวณน้ำลึกนอกชายฝั่งทันที เพราะในบริเวณนั้น ความสูงของคลื่น และพลังทำลายยังมีไม่มาก
- ติดต่อท่าเรือ โดยเฉพาะที่อยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยราชการชายฝั่งอย่างรวดเร็ว เพื่อรับฟังสถานการณ์และคำแนะนำต่างๆ รวมทั้งแจ้งจุดที่เรือลอยลำอยู่ เพื่อขอความช่วยเหลือ ในกรณีที่ต้องการ
- อาจเกิดคลื่นสึนามิหลายลูกต่อเนื่องกันเป็นระลอก ดังนั้นก่อนกลับเข้าฝั่ง ให้ติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ชายฝั่ง เพื่อทราบสถานการณ์ และปฏิบัติตามคำแนะนำของท่าเรือ หรือเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด