เล่มที่ 30
คลื่นสินามิ
สามารถแชร์ได้ผ่าน :
การเกิด คลื่นสึนามิครั้งสำคัญๆ ในอดีต

            จากบันทึกทางประวัติศาสตร์ได้มีการกล่าวถึงคลื่นขนาดใหญ่ที่เกิดจาก ภูเขาไฟระเบิดในทะเลอีเจียน ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมื่อประมาณ ๓,๖๐๐ ปีมาแล้วในครั้งนั้นปรากฏว่า ภูเขาไฟ ที่เกาะซานโตรินี (Santorini) ซึ่งปัจจุบันเรียกชื่อว่า เกาะทีรา (Thira) อยู่ทางตอนใต้ของประเทศกรีซเกิดการปะทุอย่างรุนแรง จนทำให้ตัวเกาะหายไปเกือบหมด และเกิดคลื่นขนาดใหญ่ติดตามมา ทำให้ผู้คนล้มตาย และอาคารบ้านเรือนเสียหายผลจากพิบัติภัยในครั้งนั้นทำให้วัฒนธรรมมิโนอา (Minoan Culture) ของกลุ่มชนโบราณ ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่เกาะครีตต้องเสื่อมสลายลงการเกิดคลื่นใหญ่ดังกล่าวจึงถือได้ ว่าเป็นการเกิดคลื่นจากแผ่นดินไหว หรือคลื่นสึนามิ ที่มีการบันทึกไว้เก่าแก่ที่สุด

            ใน พ.ศ. ๒๓๙๘ ได้เกิดแผ่นดินไหว บริเวณชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรไอบีเรียในยุโรปตอนใต้ส่งผลให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ เคลื่อนที่เข้าสู่ชายฝั่งของประเทศโปรตุเกส สเปน และโมร็อกโก มีผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหว และคลื่นใหญ่ ประมาณ ๖๐,๐๐๐ คน

            วันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๒๖ ภูเขาไฟบนเกาะกรากะตัว (Krakatoa)ซึ่งอยู่ระหว่างเกาะสุมาตรากับเกาะชวา ในช่องแคบซุนดา ของประเทศอินโดนีเซีย ได้เกิดการปะทุอย่างรุนแรง และเกิดคลื่นยักษ์สูงมากกว่า ๓๐เมตร    ซัดเข้าหาฝั่งเกาะสุมาตราและเกาะชวา มีผู้เสียชีวิตประมาณ ๓๖,๐๐๐ คน ซากปะการัง เศษหิน และวัสดุต่างๆถูกคลื่นหอบขึ้นบนฝั่ง หนักประมาณ ๖๐๐ ตัน และหมู่บ้านตามชายฝั่งถูกทำลายเสียหายประมาณ ๑๖๕ แห่งนับเป็นพิบัติภัยครั้งใหญ่ที่เกิดจากภูเขาไฟระเบิดและคลื่นสึนามิ ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปเอเชีย เป็นครั้งแรก


คลื่นสึนามิที่โถมเข้าสู่บริเวณชายฝั่งเมืองฮีโล ที่เกาะฮาวาย เมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๓

            วันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๓๙ เกิดคลื่นสึนามิ ชื่อ เมจิซันริจุ (Meiji Sanriju) ที่ประเทศญี่ปุ่น เคลื่อนที่เข้าสู่ฝั่ง สูงประมาณ ๓๐ เมตร มีผู้เสียชีวิตประมาณ ๓๗,๐๐๐ คน และบ้านเรือนเสียหายประมาณ ๑๐,๐๐๐ หลัง

            วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๙ เกิดแผ่นดินไหวที่บริเวณชายฝั่งของรัฐอะแลสกา สหรัฐอเมริกา ต่อมาอีกประมาณ ๕ ชั่วโมง คลื่นสึนามิได้เคลื่อนที่ไปถึงเมืองฮีโล (Hilo) บนเกาะฮาวาย ของรัฐฮาวาย ในมหาสมุทรแปซิฟิก คลื่นสูงประมาณ ๖ เมตร ทำลายอาคารบ้านเรือน สะพานรถไฟ และถนนเลียบชายหาดเสียหายเป็นจำนวนมาก มีผู้เสียชีวิตประมาณ ๑๖๐ คน

            วันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๓ เกิดแผ่นดินไหวที่ชายฝั่งของประเทศชิลี ในทวีปอเมริกาใต้ และได้เกิดคลื่นสึนามิ แผ่ขยายไปอย่างกว้างขวางในมหาสมุทรแปซิฟิกปรากฏว่าที่รัฐฮาวายของสหรัฐอเมริกา ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวถึง ๑๐,๖๐๐ กิโลเมตร ได้รับภัยจากคลื่นสึนามิที่เคลื่อนตัวด้วยความเร็วประมาณ ๗๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีผู้เสียชีวิตที่เมืองฮีโล ๖๑ คน คลื่นสึนามิยังเคลื่อนตัวต่อไปถึงประเทศญี่ปุ่น มีผู้เสียชีวิต ประมาณ ๑๔๐ คน

            วันที่ ๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๕ เกิดคลื่นสึนามิที่ชายฝั่งของประเทศนิการากัว ในอเมริกากลาง ยอดคลื่นสูงประมาณ ๑๐ เมตร มีผู้เสียชีวิตประมาณ ๑๗๐ คน และบ้านเรือนเสียหายประมาณ ๑๓,๐๐๐ หลัง

            วันที่ ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ เกิดคลื่นสึนามิที่เกาะฟลอเรส ทางตะวันออกของประเทศอินโดนีเซีย ยอดคลื่น สูงประมาณ ๒๖ เมตร มีผู้เสียชีวิตประมาณ ๒,๑๐๐ คน

            วันที่ ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ เกิดแผ่นดินไหวบริเวณใกล้ชายฝั่งตะวันออกของเกาะนิวกินี ซึ่งอยู่ทางเหนือ ของทวีปออสเตรเลีย ทำให้เกิดคลื่นสึนามิที่บริเวณชายฝั่งของประเทศปาปัวนิวกินี ทำลายป่าชายเลน และอาคารบ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก มีผู้เสียชีวิตที่เมืองไอตาเป (Aitape) ซึ่งตั้งอยู่ที่ชายฝั่งตอนเหนือของประเทศ ประมาณ ๒๒,๐๐๐ คน

            ปรากฏการณ์คลื่นสึนามิที่นำมากล่าวไว้ข้างต้นนี้ เป็นเพียงกรณีตัวอย่างของการเกิดคลื่นสึนามิครั้งสำคัญๆ ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่ยังมีคลื่นสึนามิครั้งย่อยๆ ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในระยะเวลาต่างๆ จากการศึกษาของนักธรณีวิทยาเกี่ยวกับความถี่ของการเกิดคลื่นสึนามิในโลก ว่ามีบ่อยครั้งเพียงใด ได้มีผลงานของโซโลเวียฟ (Soloviev) ซึ่งจัดพิมพ์เผยแพร่โดยองค์การยูเนสโก สหประชาชาติ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๑ ให้ความเห็นว่า คลื่นสึนามิที่มีความรุนแรงมากมักเกิดขึ้นโดยเฉลี่ย ๑๐ ปีต่อครั้ง ส่วนคลื่นสึนามิ ที่มีความรุนแรงปานกลางเกิดขึ้น ๑ - ๓ ปีต่อครั้ง และคลื่นสึนามิที่มีความรุนแรงน้อยเกิดขึ้น ๔ - ๘ เดือนต่อครั้ง นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ศึกษาเกี่ยวกับความถี่ของการเกิดแผ่นดินไหวที่ก่อ ให้เกิดคลื่นสึนามิในประเทศอินโดนีเซียทุกๆ คาบ ๑๐ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๓๕๓ - พ.ศ. ๒๕๔๓ ซึ่งรายงานว่าในแต่ละคาบ ๑๐ ปี จะมีแผ่นดินไหว ที่ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิ ระหว่าง ๑ - ๑๒ ครั้ง แต่เมื่อครบรอบทุก ๗๐ ปีครั้งใด จำนวนจะเพิ่มขึ้นเป็น ๑๔ - ๒๑ ครั้งในคาบ ๑๐ ปีนั้น นอกจากนี้ การเกิดแผ่นดินไหวจะมีจำนวนครั้งและความรุนแรงทางด้านตะวันออกของประเทศ อินโดนีเซียมากกว่าทางด้านตะวันตก