เล่มที่ 5
ไม้ผล
เล่นเสียงเล่มที่ 5 ไม้ผล
สามารถแชร์ได้ผ่าน :

            วิชาการทางผลไม้ เป็นสาขาหนึ่งในสี่สาขาของวิชาการทางพืชสวน อีกสามสาขา คือ วิชาการสวนผัก วิชาการไม้ดอกไม้ประดับ และวิชาการตบแต่งสถานที่

ทับทิม

            ไม้ผลที่ปลูกกันอยู่ อาจแบ่งออกโดยอาศัยความร้อนเย็นของอากาศ ที่พืชสามารถเจริญเติบโตได้ เป็น "ไม้ผลเมืองหนาว" "ไม้ผลเมืองร้อน" และ "ไม้ผลกึ่งเมืองร้อน" ไม้ผล ที่ปลูกกันในบ้านเรา ส่วนมากเป็นไม้ผลเมืองร้อน เพราะประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนของโลก ไม้ผลที่สำคัญ ได้แก่ กล้วย มะพร้าว มะม่วง มะม่วงหิมพานต์ น้อยหน่า มะละกอ สับปะรด ทุเรียน เงาะ ลางสาด กระท้อน ละมุด ขนุน มังคุด ฝรั่ง ฯลฯ

            ไม้ผลกึ่งเมืองร้อนก็มีการปลูกกันในเมืองไทยเช่นกัน ได้แก่ ลำไย ลิ้นจี่ ส้มชนิดต่างๆ มะเดื่อ ฝรั่ง ทับทิม องุ่น ฯลฯ บางท้องถิ่นที่มีอากาศเย็น เช่น แถบภูเขาสูงในภาคเหนือของประเทศไทย มีการปลูกไม้ผลเมืองหนาวบางชนิด เช่น ท้อ พลับ สาลี่ สตรอว์เบอร์รี บ๊วย แอปเปิล เป็นต้น

ท้อ

            พันธุ์ปลูกเป็นเรื่องที่สำคัญมากเรื่องหนึ่ง เพราะการทำสวนผลไม้เป็นการลงทุนในระยะยาว และไม้ผลส่วนมากเป็นพืชที่มีอายุยืนนาน ถ้าเลือกพันธุ์ที่ไม่ดีปลูกลงไปแล้ว ก็จะทำให้เสียเวลาเปล่า แต่ก่อนนี้ เรามักนิยมใช้เมล็ดเพาะทำพันธุ์ แต่เนื่องจาก มีโอกาสทำให้พันธุ์กลายไปจากเดิมได้ เดี๋ยวนี้จึงไม่นิยมอีกต่อไป ยกเว้นไม้ผลบางชนิดที่จำต้องขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด เพราะใช้วิธีอื่นไม่ได้ผล ในขณะนี้ ชาวสวนจึงนิยมใช้วิธีที่ดีกว่าการใช้เมล็ด เช่น ใช้กิ่งตอนปลูก ซึ่งจะให้ผลเหมือนต้นเดิม อย่างไรก็ตาม บางทีต้นผลไม้ที่ปลูกด้วยกิ่งตอนนี้ โค่นล้มได้ง่าย เพราะมีระบบรากแผ่กระจายอยู่ในชั้นดินตื้นๆ หรือเป็นพันธุ์ที่มีรากอ่อนแอ ถูกศัตรู หรือโรคในดินทำลายได้โดยง่าย เราก็อาจใช้วิธีติดตาต่อกิ่ง หรือทาบกิ่งแทน โดยปลูกพันธุ์ที่ให้รากแข็งแรงทนทานเป็นต้นตอ แล้วเอาพันธุ์ดีมาติดตาต่อกิ่ง หรือทาบกิ่งเข้ากับต้นตอนั้น เราก็จะได้ผลไม้ที่ดีพร้อม คือ มีรากแข็งแรง และออกลูกเป็นพันธุ์ดี

            ก่อนที่จะปลูกต้นไม้ลงในแปลง มีความจำเป็นต้องวางแผนผังสวน เพื่อให้ไม้ผลที่โตเต็มที่แล้วอยู่ห่างกันพอเหมาะเป็นแถวเป็นแนว และเพื่อสะดวกในการปฏิบัติงานในสวน ตลอดจนสะดวกในการชลประทาน และการปลูกไม้บังลมภายในสวน สวนที่ไม่มีการวางแผนนั้น ต้นไม้จะเบียดบังกัน และอยู่ระเกะระกะ ทำให้กีดข้างการทำงานในสวนเป็นอย่างยิ่ง
ไร่สับปะรด

            ไม้ผลที่เป็นไม้ยืนต้นนั้น จะมีอายุยืนนาน และมีลูกดกยิ่งขึ้นถ้ามีการตัดแต่งกิ่งให้ถูกต้อง ต้นไม้ผลที่ถูกปล่อยปละละเลย จะมีกิ่งหนาแน่น และเบียดกัน ไม้ผลที่ดีควรจะมีทรงต้นแข็งแรงที่ประกอบไปด้วยกิ่งที่ดีอยู่กระจายกันอย่างพอเหมาะ ทำให้กิ่งไม่หักหรือฉีกได้ง่าย และมีความโปร่งเพียงพอที่จะทำให้ใบและผล ได้รับแสงแดด และอากาศอย่างทั่วถึง ต้นเช่นนี้ จะมีสุขภาพดี ผลไม้ที่ออกมาก็จะสมบูรณ์มีคุณภาพดีและดกเป็นเวลานานปี

            การบำรุงดินและการให้น้ำเป็นความจำเป็นอีกอย่างหนึ่งที่ต้องเอาใจใส่ ไม้ผลส่วนมากชอบดินร่วนที่มีอินทรีย์วัตถุในประมาณสูง และเป็นดินที่ระบายน้ำได้ดี ควรรักษาความชื้นในดินให้สม่ำเสมอ โดยการควบคุมการให้น้ำ และจำเป็นต้องใส่ปุ๋ยบำรุงดินให้ถูกต้อง เพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินไว้ตลอดไป ไม้ผลออกลูกให้เราเป็นจำนวนไม่น้อยในปีหนึ่งๆ ผลไม้เหล่านี้ ย่อมดูดเอาธาตุอาหารต่างๆ ออกไปจากดิน เราจึงจำเป็นต้องใส่ธาตุอาหารทดแทนให้ตามสัดส่วนมากน้อยตามที่ถูกใช้ไป

            ไม้ผลบางอย่างออกดอกติดผลดกเกินไป ทำให้ผลโตได้ไม่เต็มที่เพราะแย่งอาหารกัน และอาจเบียดกันจนผลบิดเบี้ยว หรือแตกเสียหาย นอกจากนั้นยังอาจเป็นสาเหตุให้ออกผลเว้นปี (alternate bearing) อีกด้วย เนื่องจากต้นทรุดโทรมเกินไป ดังนั้น เราจึงควรทำการปลิดดอก หรือปลิดผลช่วยบ้าง ให้เหลือจำนวนพอเหมาะที่ต้นจะเลี้ยงไหว นั่นคือ ให้ได้สัดส่วนกับจำนวนใบ ที่มีอยู่บนต้น ทั้งนี้เนื่องจากใบเป็นที่สร้างอาหารโดยกรรมวิธีสังเคราะห์แสง


การขนส่งสับปะรดโดยรถยนต์

            ศัตรูของไม้ผลเป็นปัญหาที่มีความสำคัญยิ่งอย่างหนึ่งในการทำสวนผลไม้ ต้นผลไม้มักจะมีโรคแมลง และศัตรูอื่นๆ มารบกวนอยู่เสมอ แม้แต่เก็บผลไม้มาจากต้นแล้วก็ยังมีศัตรูตามมาทำความเสียหายได้เช่นกัน เราจึงจำเป็นต้องหาทางป้องกัน และกำจัดการรักษาสวน และการดูแลต้นผลไม้ให้สะอาดอยู่เสมอก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยในเรื่องนี้ และการพ่นยาอย่างสม่ำเสมอ โดยมีการศึกษาเกี่ยวกับโรคแมลงที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาต่างๆ ย่อมจะได้ผลดีเป็นอย่างยิ่ง ควรใช้ยาตามความจำเป็นเท่านั้น การใช้ยามากเกินไปจะทำให้สิ้นเปลือง และเป็นอันตรายได้โดยง่าย

            เมื่อผลไม้แก่พร้อมที่จะเก็บไปใช้เป็นประโยชน์ได้แล้ว งานขั้นต่อไปในการทำสวนผลไม้ คือ การเก็บผล และการส่งตลาด เราจะต้องเก็บผลที่ถึงระยะแก่หรือสุกพอเหมาะ เพื่อให้ได้มาตรฐานสม่ำเสมอกันเป็นการรักษาชื่อเสียงของสวน สวนใดส่งผลไม้ที่แก่จัดไปบ้าง อ่อนไปบ้าง ไปขายในตลาด ย่อมจะทำให้ไม่ได้รับความเชื่อถือ และไม่ได้ราคาดี สำหรับการขายผลไม้นั้น เมื่อเก็บผลไม้มาแล้ว เรานิยมคัดผลไม้ออกเป็นพวกๆ และผลไม้ที่คัดแล้วนี้ จะขายได้เงินมากกว่า ที่จะขายปนคละกันไป การทำความสะอาดผลไม้ และการตบแต่งก็เป็นวิธีการอีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยทำให้ขายดีขึ้น ผลไม้บางอย่างอาจใช้ขี้ผึ้งเคลือบ แล้วขัดผิวเป็นมัน ทำให้ดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น ความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างขนส่งจะสามารถทำให้ลดลงได้ โดยการบรรจุหีบห่อที่ดี ไม่ให้ผลไม้ชอกช้ำ และการใช้ระบบความเย็น ตลอดจนการใช้สารเคมีบางอย่างก็สามารถช่วยให้ผลไม้สดอยู่ได้นานยิ่งขึ้น เป็นการป้องกันการระบาดของโรคเน่าของผล ทำให้ส่งไปขายได้ในที่ไกลๆ และเก็บไว้ขายได้เป็นเวลานาน

            นอกจากใช้รับประทานสดแล้ว ผลไม้ยังอาจจะใช้ทำประโยชน์อีกมากมายหลายอย่าง เช่น ทำผลไม้แห้ง ผลไม้อัดกระป๋อง ผลไม้แช่อิ่ม ผลไม้ดอง ผลไม้กวน ตลอดจนใช้ทำน้ำส้ม และสุราผลไม้ เป็นต้น