คนไทยในสมัยโบราณมีชื่อเสียงว่า เป็นชาติ ซึ่งทอผ้าไหม และผ้าฝ้าย สำหรับทำเครื่องนุ่งห่มมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว การทอผ้าเป็นหัตถกรรมในครัวเรือน ส่วนใหญ่ทอผ้าใช้ในครอบครัว เมื่อทอได้มากก็จำหน่าย ผ้าเป็นสินค้าสำคัญอย่างหนึ่ง | |
เราใช้ผ้าเป็นเครื่องนุ่มห่มตามแบบไทย ผ้าซิ่นใช้นุ่ง ผ้าสไบใช้ห่ม ผ้าขาวม้าใช้สารพัดประโยชน์ ในปัจจุบันเราตัดเย็บผ้าเป็นเสื้อและกระโปรงตามแบบสากล นอกจากนี้ก็ใช้ผ้าทำประโยชน์อย่างอื่น เช่น ทำหมอน ปูที่นอน และทำธง เป็นต้น เราช่วยกันทำตั้งแต่ การปลูกต้นฝ้าย แล้วนำผลฝ้ายมาปั่นเอาใยฝ้ายออกจากเมล็ด ทำเป็นเส้นด้าย ย้อมสี ออกแบบ ลวดลาย แล้วทอจนสำเร็จเป็นผืนผ้า ถ้าต้องการใช้ผ้าไหม คนในครอบครัวจะต้องนำตัวไหมมาเลี้ยง จนตัวไหมชักใยหุ้มตัวมากพอ ที่เราจะสาวเป็นเส้นไหม นำมาย้อมสี และออกแบบลวดลาย สำหรับทอต่อไป | |
การเตรียมทอผ้าฝ้าย ผ้าไหม แต่ละผืน จึงมีหลายขั้นตอน และกินเวลานานมาก ทุกขั้นตอนดำเนินการด้วยมือ การทอก็ใช้แรงคนเรียกว่า ทอด้วยมือ แต่ละครอบครัวแสดงผีมือ และความสามารถในการออกแบบผ้าให้แตกต่างกันไป สมัยก่อนการซื้อขายมักจะมีน้อย ส่วนใหญ่ต่างคนต่างทำไว้ใช้เอง แต่ในปัจจุบันมีการใช้เครื่องจักร เพื่อผลิตผ้าให้ได้เป็นจำนวนมาก และมีการซื้อขายกันโดยทั่วไป ผ้าไทยมีแบบอย่างแตกต่างกันไปในแต่ละเมือง ผ้าที่มีชื่อเสียงของแต่ละภาค ก็คือ ทางภาคเหนือ มีผ้าไหมยกเชิงด้วยไหม ด้วยดิ้นเงิน ดิ้นทอง นอกจากผ้ายกแล้ว ภาคเหนือ ยังมีผ้าฝ้ายลวดลายงามๆ อีกมาก ผ้าทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุด คือ ผ้ามัดหมี่ฝ้ายและไหม และยังมีแพรหรือผ้าสำหรับห่มเรียกว่า แพรวา หรือผ้าวา เป็นที่นิยมกันมาก ผ้าทางภาคใต้มีชื่อคือ ผ้าพื้นสีเดียวทั้งผืน และผ้าฝ้ายลายในตัว | |
การที่จะดูออกว่า ผ้าลายอย่างไหน เป็นลักษณะเฉพาะของภาคใดนั้น ต้องศึกษาในโอกาสต่อไป |