เล่มที่ 13
นาฏศิลป์ไทย
สามารถแชร์ได้ผ่าน :
ท่ารำ

            ท่ารำที่ครูนาฎศิลป์โบราณได้ประดิษฐ์ไว้ ทั้งที่ตบแต่งจากท่าธรรมดา และตามความหมายอื่นๆ มีมากมาย พร้อมทั้งตั้งชื่อท่านั้นๆ ไว้ ตั้งแต่ท่าประนมมือไหว้ เรียกว่า ท่าเทพนม และอีหลายสิบท่า แต่งไว้เป็นกลอนสำหรับร้องหรือท่องให้จดจำได้ง่าย มักเรียกกันว่า "แม่บท" เพราะเป็นท่าหลักที่จะต้องเรียนรู้ให้แม่นยำ บทที่สั้น มีท่ารำน้อย ก็คือ บทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๔ แทรกอยู่ในเรื่องรามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทุก ดังนี้
รำแม่บทท่าเทพนม
รำแม่บทท่าเทพนม
เทพนมปฐมพรหมสี่หน้า
สอดสร้อยมาลาเฉิดฉิน
ทั้งกวางเดินดงหงส์บิน
กินรินเลียบถ้ำอำไพ
อีกช้านางนอนภมรเคล้า
แขกเต้าผาลาเพียงไหล่
เมขลาโยนแก้วแววไว
มยุเรศฟ้อนในอัมพร
ยอดตองต้องลมพรหมนิมิต
อีกทั้งพิสมัยเรียงหมอน
ย้ายท่ามัจฉาชมสาคร
พระสี่กรขว้างจักรฤทธิรงค์
ส่วนในตำราฟ้อนรำ เป็นบทอย่างพิสดารมีชื่อท่ารำซึ่งแต่งเป็นกลอนว่า ดังนี้

เทพประนม ปฐม พรหมสี่หน้าสอดสร้อยมาลาช้านางนอน
ผาลาเพียงไหล่ พิสมัยเรียงหมอนกังหันร่อนแขกเต้าเข้ารัง
กระต่ายชมจันทร์ พระจันทร์ทรงกลดพระรถโยนสารมารกลับหลัง
เยื่องกรายฉุยฉายเข้าวังมังกรเลียบท่ามุจลินท์
กินนรรำ ซ้ำช้างประสานงาท่าพระรามาก่งศิลป์
ภมรเคล้า มัจฉาชมวารินหลงใหลได้สิ้น หงส์ลินลา
ท่าโตเล่นหาง นางกล่อมตัวรำยั่ว ชักแป้งผัดหน้า
ลมพัดยอดตอง บังสุริยาเหราเล่นน้ำ บัวชูฝัก
นาคาม้วนหาง กวางเดินดงพระนารายณ์ฤทธิรงค์ขว้างจักร์
ช้างหว่านหญ้า หนุมานผลาญยักษ์พระลักษมณ์แผลงอิทธิฤทธิ์
กินนรฟ้อนฝูง ยูงฟ้อนหางขัดจางนาง ท่านายสารถี
ตระเวนเวหา ขี่ม้าตีคลีตีโทนโยนทับ งูขว้างฆ้อน
รำกระบี่สี่ท่า จีนสาวไส้ท่าชะนีร่ายไม้ ทิ้งขอน
เมขลาล่อแก้วกลางอัมพรกินนรเลียบถ้ำ หนังหน้าไฟ
ท่าเสือทำลายห้าง ช้างทำลายโรงโจงกระเบนตีเหล็กแทงวิสัย
กลดพระสุเมรุ เครือวัลย์พันไม้ประไลยวาต คิดประดิษฐ์ทำ
กระหวัดเกล้าขี่ม้าเลียบค่ายกระต่ายต้องแร้วแคล้วถ้ำ
ชักซอสามสายย้ายลำนำเป็นแบบรำแต่ก่อนที่มีมา

            ขอให้พิจารณาดูภาพท่ารำเปรียบเทียบกับชื่อท่ารำ จะแลเห็นว่า การรำก็คือ การแปลชื่อท่าให้เป็นการรำโดยตรง แต่ประดิษฐ์ให้มีส่วนสัดงดงาม เมื่อนำท่ารำต่างๆ ไปใช้ในการแสดง ก็ต้องเรียบเรียงท่ารำ โดยลำดับท่าให้เข้ากับจังหวะทำนอง ของเพลงและดนตรีที่บรรเลงประกอบ และตบแต่งท่ารำสำหรับเชื่อมท่าต่างๆ ให้ติดต่อกันสนิทสนม
กระหวัดเกล้า
กระหวัดเกล้า
การใช้ท่ารำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงใดๆ รวมความว่าเป็น "นาฎศิลป์" ทั้งสิ้น การแสดงที่ใช้ท่ารำมี ๒ ประเภท ที่เป็นหลักใหญ่ๆ คือ

๑. ระบำ
๒. ละคร