วิวัฒนาการของท่าอากาศยาน
การสร้างท่าอากาศยานไม่ว่าจะเป็นในอดีต หรือปัจจุบัน มีปัจจัยหลักคือ ต้องมีอุปสงค์ และอุปทาน กล่าวคือ ความต้องการของการขนส่งทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็นความต้องการทางด้านเศรษฐกิจ หรือทางด้านสังคม และการเมือง เป็นตัวกำหนดที่สำคัญในการสร้างท่าอากาศยาน และการจัดองค์ประกอบต่างๆ สำหรับท่าอากาศยานทุกแห่ง วิวัฒนาการของท่าอากาศยานจากอดีตถึงปัจจุบัน สามารถจัดลำดับขั้นตอนที่สำคัญโดยสรุป ได้ดังนี้
ขั้นที่ ๑
เริ่มจากการมีองค์ประกอบ ๒ สิ่ง ที่สัมพันธ์กันคือ มีเครื่องบิน และพื้นที่ สำหรับให้เครื่องบินขึ้นลง
ขั้นที่ ๒
เริ่มมีผู้โดยสารเครื่องบินเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ขั้นที่ ๓
เมื่อมีผู้โดยสาร ก็เริ่มมีสิ่งปลูกสร้าง เพื่อใช้เป็นสำนักงาน และที่พักรอของผู้โดยสาร
ขั้นที่ ๔
สิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเป็นสำนักงานในขั้นที่ ๓ ส่วนหนึ่ง พัฒนาเป็นหอบังคับการบิน เพื่อทำหน้าที่ให้ข้อมูลสำหรับการขึ้นลงของเครื่องบิน
ขั้นที่ ๕
เมื่อกิจการต่างๆ ขยายตัวมากขึ้น มีคนต้องการเดินทางโดยเครื่องบินขึ้นลงมากขึ้น ดังนั้น จึงมีการจัดสถานที่สำหรับจอดเครื่องบินหลายๆ เครื่อง พื้นที่ดังกล่าวนี้เรียกว่า ลานจอดอากาศยาน
ขั้นที่ ๖
เป็นขั้นการพัฒนา เมื่อมีผู้โดยสารมาขึ้นเครื่องบินมากขึ้น จึงต้องมีการจัดช่องทางเข้าออก สำหรับผู้โดยสาร ที่จะขึ้นเครื่องบิน เรียกว่า ทางออกขึ้นเครื่องบิน และทางเข้าจากเครื่องบิน
ลำดับวิวัฒนาการของท่าอากาศยาน
ในระยะเวลาต่อมา ท่าอากาศยานได้รับการพัฒนาเป็นลำดับ ตามความเจริญเติบโตของกิจการขนส่งทางอากาศ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าท่าอากาศยานแต่ละแห่ง จะมีรูปแบบอย่างไร สิ่งสำคัญก็คือ ผู้บริหารท่าอากาศยานจะคำนึงถึงเรื่องของความ สะดวกสบาย และความปลอดภัยของผู้มาใช้ ท่าอากาศยานเป็นสำคัญ
สำหรับประเทศไทย ท่าอากาศยาน ก็มีวิวัฒนาการตามลำดับขั้นตอนข้างต้นคือ ระหว่าง วันที่ ๒-๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๕๔ นายฟัน เดน บอร์น ชาวเบลเยี่ยม ได้นำเครื่องบินแบบ ฮอร์วิลไรท์ ปีก ๒ ชั้น มาแสดงการบินเป็นครั้งแรก ในประเทศไทย ที่สนามม้าราชกรีฑาสโมสร ปทุมวัน ต่อมาอีกสองปี คือ พ.ศ. ๒๔๕๖ กระทรวงกลาโหม ได้ใช้พื้นที่สนามม้าราชกรีฑาสโมสรส่วนหนึ่ง เป็นสนามบิน เรียกว่า สนามบินประทุม จึงกล่าว ได้ว่า สนามบินสระปทุมได้เป็นสนามบินแห่ง แรกของประเทศไทย ตั้งแต่ปีนั้นเป็นต้นมา ต่อมา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๗ ได้มีการพิจารณากันว่าที่ตั้งของ สนามบินถาวรควรจะเป็นที่ดอน น้ำไม่ท่วม ดังนั้น จึงมีการย้ายสนามบินไปอยู่ ณ สถานที่ ซึ่งเป็นที่ดอน ตอนเหนือของอำเภอบางเขน และต่อมาเรียกกันว่า สนามบินดอนเมือง สนามบินของประเทศไทย ในระยะแรก ใช้ในกิจการของทหารเป็นหลัก และได้เริ่มมีบทบาทด้านอื่นๆ มากขึ้น ตามลำดับ กล่าวคือ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๒ มีการทดลองใช้เครื่องบิน บินนำถุงไปรษณีย์จากสนามบินดอนเมือง ไปส่งที่จังหวัดจันทบุรี เป็นครั้งแรก หลังจากนั้นได้มีการบินเพื่อช่วยเหลือกรมไปรษณีย์โทรเลข ในการรับส่งหนังสือทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๖๓ เป็นต้นมา และใน ปี พ.ศ. ๒๔๗๓ สายการบิน เคแอลเอ็ม รอยัล ดัชต์ แอร์ไลน์ ได้ขอแวะลง ที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งนับเป็นสายการบินพาณิชย์นานาชาติสายแรก ที่มาลงประเทศไทย กิจการการบินทางด้านพลเรือนในประเทศไทย ได้มีการพัฒนามาเป็นลำดับ และมีการเปลี่ยนชื่อสนามบินดอนเมืองเป็นท่าอากาศยานกรุงเทพ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๘