นกเงือกไทย
ในบรรดานกเงือกเอเชีย ๓๑ ชนิด ประเทศไทยมีนกเงือกถึง ๑๓ ชนิด และเป็นนกเงือกป่าทั้งสิ้น เรียงลำดับตามวิวัฒนาการดังนี้
๑. นกเงือกหัวหงอก (White-crowned Hornbill, Berenicornis comatus)
๒. นกชนหิน (Helmeted Hornbill, Rhinoplax vigil)
๓. นกเงือกดำ (Black Hornbill, Anthracoceros malayanus)
๔. นกแก๊ก (Oriental Pied Hornbill, Anthracoceros albirostris)
๕. นกเงือกปากดำ (Bushy-crested Hornbill, Anorrhinus galeritus)
๖. นกเงือกสีน้ำตาลคอขาว (White-throated Brown Hornbill, Ptilolaemus austeni)
๗. นกเงือกสีน้ำตาล (Brown Hornbill, Ptilolaemus tickelli)
๘. นกเงือกหัวแรด (Rhinoceros Hornbill, Buceros rhinoceros)
๙. นกกก (Great Hornbill, Buceros bicornis)
๑๐. นกเงือกคอแดง (Rufous-necked Hornbill, Aceros nipalensis)
๑๑. นกเงือกปากย่น (Wrinkled Hornbill, Rhyticeros corrugatus)
๑๒. นกเงือกกรามช้างปากเรียบ (Plain-pouched Hornbill, Rhyticeros subruficollis)
๑๓. นกเงือกกรามช้าง (Wreathed Hornbill, Rhyticeros undulatus)
นกเงือกไทย ๑๓ ชนิด อาจแบ่งกลุ่มย่อยตามลักษณะของปากและโหนกได้เป็น ๔ กลุ่ม คือ
๑. กลุ่มโหนกใหญ่ ได้แก่ นกชนหิน นกเงือกหัวแรด และนกกก
๒. กลุ่มโหนกขนาดกลาง ได้แก่ นกเงือกดำ และนกแก๊ก
๓. กลุ่มโหนกเล็กเป็นลอนหรือหยัก ปากมีรอยย่นหรือเป็นร่อง ได้แก่ นกเงือกคอแดง นกเงือกปากย่น นกเงือกกรามช้างปากเรียบ และนกเงือกกรามช้าง
๔. กลุ่มโหนกเป็นสัน ได้แก่ นกเงือกหัวหงอก นกเงือกปากดำหรือนกกาเขา นกเงือกสีน้ำตาล และนกเงือกสีน้ำตาลคอขาว
๑. ความสัมพันธ์ระหว่างนกเงือกไทยและนกเงือกอื่นๆ
นกเงือกไทย ๑๓ ชนิด มีความสัมพันธ์ในระดับพันธุกรรมจากบรรพบุรุษร่วม ซึ่งอาจสันนิษฐานได้ดังนี้
๑. นกเงือกหัวหงอก เป็นนกเงือกเก่าแก่มากที่สุดของนกเงือกเอเชีย ถือกำเนิดมาประมาณ ๔๗ ล้านปี สันนิษฐานว่า มีบรรพบุรุษ ร่วมกับนกเงือกขนาดเล็กของอินเดียสกุล Ocyceros และนกเงือกป่าแอฟริกาสกุล Tropicranus, Ceratogymna และ Bycanistes โดยนกเงือกหัวหงอกยังมีความสัมพันธ์ห่างๆ กับนกเงือกป่าเอเชียสกุล Aceros, Rhyticeros และ Penelopides ซึ่งเพศเมียมีลำตัวและปีกสีดำ
๒. นกชนหิน ถือกำเนิดมาประมาณ ๔๕ ล้านปี มีบรรพบุรุษร่วมกับกลุ่มนกเงือกโหนกใหญ่ คือ นกเงือกสกุล Buceros ซึ่งได้แก่ นกกก และนกเงือกหัวแรด รวมทั้งยังมีนกเงือกสกุล Buceros ในประเทศฟิลิปปินส์
นกชนหินนี้อาจนับได้ว่า มีความสัมพันธ์กับบรรพบุรุษของกลุ่มนกเงือกโหนกขนาดกลางสกุล Anthracoceros ได้แก่ นกแก๊ก และนกเงือกดำ รวมทั้งกลุ่มนกเงือกโหนกเล็กเป็นสันคือ นกเงือกปากดำ นกเงือกสีน้ำตาล และนกเงือกสีน้ำตาลคอขาว
๓. นกเงือกคอแดง ถือกำเนิดมาเมื่อประมาณ ๒๙ ล้านปี มีบรรพบุรุษร่วมกับบรรพบุรุษกลุ่มนกเงือกโหนกเล็กเป็นลอนหรือหยัก ปากมีรอยหยักหรือร่องและมีสีสัน สกุล Rhyticeros ได้แก่ นกเงือกปากย่น นกเงือกกรามช้างปากเรียบ นกเงือกกรามช้าง นกเงือกซุมบา นกเงือกปาปวน นกเงือกนาร์คอนแดม และนกเงือกฟิลิปปินส์ สกุล Penelopides spp. ซึ่งมีขนาดเล็ก
๒. วัฏจักรชีวิตของนกเงือก
ฤดูทำรังและการเสาะหาโพรงรัง
นกเงือกทำรังในโพรงไม้ โดยไม่สามารถเจาะโพรงเองได้ สำหรับฤดูทำรังของนกเงือกขึ้นอยู่กับภูมิภาคของประเทศไทย ในภูมิภาคเหนือคอคอดกระ (เหนือจังหวัดระนอง) จะเริ่มขึ้นในเดือนมกราคม ส่วนภูมิภาคใต้คอคอดกระลงไป ฤดูทำรังจะเริ่มประมาณเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูแล้ง
นกกกคู่ผัวเมียหน้าโพรงรัง
เมื่อฤดูทำรังเริ่มขึ้น นกคู่ผัวเมียจะเริ่มเสาะหาโพรงรังตามต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่ นกเงือกขนาดใหญ่มาก เช่น นกกก ใช้โพรงในต้นไม้ ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ยไม่น้อยกว่า ๑๑๐ เซนติเมตร ต้นไม้ที่มีโพรงรังของนกเงือกโดยมากเป็นต้นไม้ใน วงศ์ไม้ยาง (Dipterocarpaceae) เช่น ต้นยางเสียน (Dipterocarpus gracilis) ต้นตะเคียน (Hopea sp.) และในวงศ์ Myrtaceae เช่น ต้นหว้า (Cleistocalyx nervosum) ซึ่งมีขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามพันธุ์ไม้ที่พบว่า มีโพรงรังนกเงือกก็ขึ้นอยู่กับประเภท ของป่าถิ่นอาศัยด้วย (ตารางที่ ๑)
*วัดที่ความสูง ๑๓๐ ซม. จากพื้นดิน
การเกี้ยวพาราสี
ความพิเศษของนกเงือกเรื่องการทำรังนี้ เป็นที่กล่าวขานและเป็นที่รู้จักกันดีมาแต่โบราณ โดยเมื่อนกเงือกจับคู่แล้ว จะอยู่แบบคู่ผัวเดียวเมียเดียวไปจนตลอดชีวิต เมื่อฤดูทำรังมาถึง นกเงือกเพศผู้จะเกี้ยวพาราสีเพศเมียก่อนที่เพศเมียจะเข้าโพรงรัง ซึ่งพวกมันมักจะใช้โพรงรังที่มีอยู่เดิมหากโพรงเก่า ยังคงมีสภาพดี พฤติกรรมการเกี้ยวพาราสีนั้น จะพบในระยะต้นของการทำรัง ที่หน้าโพรงรัง เพศผู้จะป้อนอาหารซึ่งมักเป็นผลไม้ให้แก่คู่ของมัน แล้วพาเพศเมียไปดูโพรงรัง โดยบินเข้า-ออกระหว่างคอนที่เกาะ และหน้าโพรงรัง เพื่อเป็นการเชิญชวน ให้เพศเมียเข้าไปดูภายในโพรง