วิธีการพ่นสารเคมี
การพ่นสารเคมี เพื่อป้องกัน และกำจัดแมลง มีวิธีที่จะปฏิบัติได้ ๒ วิธี คือ
๑.วิธีการพ่นสารเคมีตามตารางที่กำหนด ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย แต่อาจต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายสูง อันตรายจากพิษของสารเคมีมาก แต่ก็เป็นวิธีที่เหมาะสมกับผู้ไม่คุ้นเคยกับแมลง และไม่มีกำลังคนพอในการตรวจไร่
๒.วิธีการพ่นสารเคมี เมื่อมีแมลงระบาด เป็นวิธีที่นิยมใช้กันทั่วไป เป็นการลดค่าใช้จ่าย และลดอันตรายจากพิษของสารเคมีฆ่าแมลงลงได้มาก เหมาะสำหรับผู้รู้จักแมลงดีพอสมควร และมีกำลังคนที่จะคอยตรวจดูไร่อยู่เสมอ
๑. วิธีการพ่นสารเคมีตามตารางที่กำหนด
การพ่นยาตามตารางกำหนดนั้น หมายถึง การ กำหนดวันที่จะพ่นสารเคมีอะไร อัตราเท่าไร สำหรับ ป้องกันและกำจัดแมลงชนิดใดไว้แน่นอน เหมาะสำหรับ การปลูกฝ้ายที่มีแมลงระบาดรุนแรง และติดต่อกันนาน ตลอดฤดู และเหมาะกับกสิกรที่ไม่คุ้นเคยกับแมลง และผู้ที่ไม่มีเวลาจะทำการสำรวจไร่ วิธีพ่นสารเคมี แบบนี้ต้องสิ้นเปลืองสารเคมีมาก จากผลการค้นคว้า ทดลองวิธีพ่นสารเคมีมาหลายปี ได้กำหนดวิธีการและ ตารางการพ่นสารเคมีไว้ดังนี้
๑. ตอนต้นฤดูกาล ใช้สารเคมีประเภทน้ำกับแมลง จำพวกปากดูด ปกติใช้พ่น ๒-๓ ครั้ง เมื่อฝ้ายอายุ ประมาณ ๗,๑๔ และ ๒๑ วัน หลังงอก ในกรณีที่เพลี้ย อ่อนและโรคใบหงิกไม่ระบาด แต่อาจจะต้องพ่น ๔-๕ ครั้ง ในเขตที่มีโรคใบหงิกระบาดและมีเพลี้ยอ่อนลงรุน แรง
๒. ตอนกลางและปลายฤดู ใช้สารเคมีป้องกัน และกำจัดหนอนเจาะสมอฝ้าย และแมลงจำพวกกินใบ ชนิดใดชนิดหนึ่งดังกล่าวมาแล้ว พ่นติดต่อกันไปจนกว่า ฝ้ายเริ่มแตกสมอแล้วเป็นส่วนใหญ่จึงหยุดพ่น จำนวนครั้งที่พ่นอาจจะมากหรือน้อยกว่าที่กำหนดไว้นี้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับการระบาดของแมลง การยืดระยะเวลาหรือ ร่นระยะเวลาของการพ่นสารเคมีโดยปกติทุก ๗ วัน อาจจะเว้น ๕-๖ วัน หรือ ๘-๙ วันแล้วแต่เหมาะสม แต่จะเว้นเกิน ๑๐ วันไม่ได้
พ่นครั้งที่ | อายุฝ้าย (วัน) หลังงอก | ปริมาณน้ำยาที่ผสมแล้ว ต่อเนื้อที่ ๑ ไร่ |
ตอนต้นฤดูฝน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ | ๑-๒ ๖-๗ ๑๒–๑๔ ๑๘–๒๑ ๒๔–๒๘ | ๒ ปีบ (๔๐ ลิตร) ๒ “ (๔๐ “ ) ๒ “ (๔๐ “ ) ๒ “ (๔๐ “ ) ๒ “ (๔๐ “ ) |
ตอนกลางและปลายฤดูฝน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ | ๓๓ ๔๐ ๔๗ ๕๔ ๖๑ ๖๘ ๗๕ ๘๒ ๘๙ ๙๖ ๑๐๓ ๑๑๐ ๑๑๗ ๑๒๔ | ๒ ปีบ (๔๐ ลิตร) ๒ “ (๔๐ “ ) ๒ “ (๔๐ “ ) ๒ “ (๔๐ “ ) ๔ “ (๘๐ “ ) ๔ “ (๘๐ “ ) ๔ “ (๘๐ “ ) ๔ “ (๘๐ “ ) ๔ “ (๘๐ “ ) ๔ “ (๘๐ “ ) ๔ “ (๘๐ “ ) ๔ “ (๘๐ “ ) ๔ “ (๘๐ “ ) ๔ “ (๘๐ “ ) |
แบบที่ ๑ เดินทแยงมุม | |
แบบที่ ๒ เดินซิกแซ็ก | |
แบบที่ ๓ เดินตามแถวฝ้าย | |
แบบที่ ๔ เดินเป็นเลขแปด |
วิธีการผสมสารเคมี
การผสมสารเคมี ต้องพยายามผสมน้ำยาให้ ละลายเข้ากันอย่างทั่วถึง จึงจะได้ผลดี ดังนั้นควรปฏิบัติ ดังนี้
เทน้ำลงในถังที่จะผสมสักเล็กน้อย แล้วเทสาร เคมีฆ่าแมลงที่ตวงไว้ผสมลงไปให้หมด ใช้ไม้คนให้น้ำและสารเคมีฆ่าแมลงเข้ากัน แล้วเติมน้ำที่เหลือลงไปให้ ครบตามจำนวนที่ต้องการ คนให้ทั่วจนเห็นน้ำยาที่ผสม สีเดียวกันเป็นอันใช้ได้
สำหรับสารเคมีผงก็ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกัน แต่สาร เคมีผงมักตกตะกอนนอนก้นถัง ฉะนั้น เมื่อเทลงในถัง เครื่องพ่นสารเคมีแล้ว ให้หมั่นเขย่าถังเวลาพ่นเสมอๆ และก่อนที่จะเทสารเคมีฆ่าแมลงออกจากขวดใส่เครื่อง พ่น ต้องเขย่าขวดสารเคมีฆ่าแมลงก่อนเทลงในถังผสม ก่อนเสมอ
น้ำที่ใช้ผสม ควรใช้น้ำสะอาด ก่อนที่จะเทน้ำยา ที่ผสมแล้วใส่เครื่องพ่น ควรกรองเอาเศษผงออกเสียก่อน เพื่อไม่ให้เศษผงไปอุดหัวฉีดเครื่องพ่น ควรผสมน้ำที่ ใช้ให้พอดีทุกครั้ง ไม่ควรผสมให้เหลือเก็บไว้ใช้วันอื่น
มีสารเคมีฆ่าแมลงที่แนะนำให้ใช้กับแมลงปากดูด หลายชนิดที่อยู่ในรูปผง สำหรับคลุกเมล็ด และอยู่ในรูป เม็ดสำหรับหยอดรองก้นหลุมพร้อมการปลูกฝ้าย การ คลุกยากับเมล็ดฝ้าย หรือหยอดด้วยมือ ต้องระวังเป็น พิเศษ เพราะสารเหล่านี้มีพิษสูงมาก จะต้องสวมถุงมือและ หน้ากาก ห้ามใช้มือเปล่าหยิบจับสารเคมีฆ่าแมลงหรือ เมล็ดฝ้ายที่คลุกสารเคมีฆ่าแมลงเป็นอันขาด
ข้อแนะนำในการพ่นสารเคมี
เครื่องพ่นสารเคมีมีอยู่หลายชนิด เช่น เครื่องพ่น สารเคมีอัดลมด้วยแรงคน เครื่องพ่นสารเคมีอัดลมด้วย เครื่องยนต์ เครื่องพ่นสารเคมีด้วยการเป่าลมให้น้ำยา ฟุ้งกระจาย หรือเครื่องพ่นสารเคมีฝอยละเอียด กสิกร จะใช้เครื่องพ่นสารเคมีชนิดไหนก็ตาม จะต้องปฏิบัติ ดังนี้
๑. ตรวจความเรียบร้อยของเครื่องพ่นสารเคมี ให้อยู่สภาพที่ใช้งานได้ดี
๒. พ่นสารเคมีให้ทั่วทั้งต้น แต่ไม่ควรให้เปียกใบ จนโชกเกินไป เพราะทำให้สิ้นเปลืองน้ำยามาก
๓. ในการพ่นสารเคมีตามตารางที่กำหนด ถ้า การปฏิบัติงานอยู่ในระยะที่มีมรสุมหรือมีฝนตกชุก อาจ เลื่อนการพ่นสารเคมีก่อนกำหนด แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ ได้ ก็ให้พยายามพ่นสารเคมีให้เสร็จก่อนฝนตกสัก ๒ ชั่วโมง เพราะฝนตกมาหลังจากนั้นจะไม่เสียหาย ไม่ จำเป็นต้องพ่นซ้ำ แต่ถ้าฝนตกขณะที่กำลังพ่นสารเคมีหรือพ่นสารเคมีเสร็จแล้วไม่เกิน ๒ ชั่วโมง จะต้องพ่น สารเคมีซ้ำอีก
ข้อควรระวังในการพ่น
กสิกรจะปฏิบัติงานเกี่ยวกับการพ่นสารเคมี ฆ่าแมลง พึงสังวรอยู่เสมอว่า เรากำลังเกี่ยวข้องอยู่กับ ความตาย สารเคมีฆ่าแมลงทุกชนิดนั้น คือ ยาพิษ เป็น พิษต่อมนุษย์และสัตว์ ดังนั้น เมื่อจะใช้สารเคมีฆ่าแมลง จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ และปฏิบัติตามคำแนะนำ อย่างเคร่งครัด เพื่อลดอันตรายจากสารเคมีฆ่าแมลง ควรปฏิบัติดังนี้
๑. ต้องสวมหน้ากากและถุงมือยาง ใส่เสื้อผ้าปิด ร่างกายให้มิดชิด ระวังละอองสารเคมีมิให้เข้าปาก จมูกและถูกร่างกาย
๒. ต้องเดินพ่นสารเคมีให้ฟุ้งกระจายตามลมหรือ ขวางทิศทางของลม ห้ามเดินทวนลม
๓. ต้องไม่เดินผ่านฝ้ายที่พ่นสารเคมีแล้วในขณะ กำลังพ่นสารเคมี คือ ให้เดินถอยหลัง สำหรับการพ่น สารเคมีที่ต้องพ่นในแถวฝ้ายที่ใกล้ตัว
๔. ห้ามสูบบุหรี่ขณะพ่นสารเคมี และควรล้างมือ ให้สะอาดก่อนการดื่มน้ำหรือรับประทานอาหาร
๕. เมื่อหัวฉีดอุดตัน ห้ามใช้ปากเป่า ควรถอดออก ล้างน้ำให้สะอาด
๖. เมื่อพ่นสารเคมีเสร็จแล้ว ควรรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำชำระล้างร่างกาย ฟอกสบู่ให้สะอาดทุกครั้ง เสื้อผ้าที่ใช้ในการปฏิบัติงานควรซักให้สะอาดด้วยทุก ครั้ง
๗. ควรมีน้ำสะอาด สบู่หรือผงซักฟอกเตรียมไว้ ให้เพียงพอใกล้ๆ กับที่พ่นสารเคมี เพื่อจะได้ชำระล้าง ได้ทันที
๘. เมื่อมีอาการแน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ คลื่น ไส้ หรือเกิดอาการผิดปกติเกิดขึ้นในระหว่างการพ่น สารเคมี หรือหลังการพ่นสารเคมี ให้หยุดปฏิบัติงาน ทันที เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบไปปรึกษาแพทย์ที่อยู่ใกล้ที่ สุดโดยเร็ว
๙. ภาชนะทีบรรจุสารเคมีฆ่าแมลง เช่น ขวด กระป๋อง ถุง ฯลฯ เมื่อใช้หมอแล้วให้ทำลายทิ้งเสีย อาจ จะใช้วิธีฝังดินก็ได้ ห้ามนำไปบรรจุอาหารหรือน้ำดื่ม เป็นอันขาด เพราะถึงแม้จะล้างอย่างไร ก็ไม่สามารถ ทำให้สารพิษที่ติดอยู่หมดไปได้
๑๐. เก็บสารเคมีฆ่าแมลงในที่ที่มิดชิด ให้พ้นมือ เด็กและห่างจากสัตว์เลี้ยง ควรมีห้องเก็บต่างหากเพื่อ ความปลอดภัย อุปกรณ์การพ่นสารเคมีฆ่าแมลงเมื่อใช้ แล้ว ไม่ควรนำไปล้างในบ่อน้ำหรือแหล่งเก็บน้ำต่างๆ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำและผู้ใช้น้ำนั้น