กรรมสิทธิ์ในป่าไม้
กรรมสิทธ์ในพื้นที่ป่าไม้ นับว่าเป็นข้อมูลที่แสดงให้ทราบถึงสภาวะทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศต่างๆ เท่าที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติได้สำรวจไว้ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๖ (ดูตารางที่ ๖) ปรากฏว่า ในจำนวนพื้นที่ป่า ๓,๑๐๐ ล้านเฮกตาร์ หรือประมาณร้อยละ ๗๕ ของพื้นที่ป่าของโลกที่ประเทศต่างๆ รายงานมา เป็นป่าของรัฐหรือป่าสาธารณะ (Public Forests) เสียร้อยละ ๗๗ และเป็นป่าของเอกชน (Private Forests) เพียงร้อยละ ๒๓ ในทวีปยุโรปโดยส่วนรวม มีป่าสาธารณะอยู่ร้อยละ ๔๗ แต่ ผลเฉลี่ยทางยุโรปตะวันออกกลับเป็นป่าสาธารณะถึงร้อยละ ๙๔ ส่วนยุโรปตะวันตกเป็นป่าสาธารณะเพียงร้อยละ ๓๔ เท่านั้น ยิ่งในทวีปเอเชียด้วยแล้ว ป่าที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเอกชนมีน้อยมาก หากนับรวมเอาป่าของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้ามาด้วย ในสหรัฐอเมริกาแม้จะมีป่าที่ปลูกขึ้นโดยโรงงานอุตสาหกรรม หรือชาวไร่ชาวนามาก แต่ป่าไม้ก็ยังเป็นป่าสาธารณะ ถึงร้อยละ ๗๓ ส่วนในสหภาพโซเวียตรุสเซีย ซึ่งปกครองด้วยลัทธิสังคมนิยม เช่นเดียวกับผืนแผ่นดินใหญ่ จีน มีป่าสาธารณะถึงร้อยละ ๑๐๐ ทีเดียว ในทวีป แอฟริกาก็นับว่ามีป่าสาธารณะมากถึงร้อยละ ๗๙ ส่วนในประเทศไทย ป่าไม้เป็นของรัฐแทบทั้งหมด เว้นแต่ป่าตามหัวไร่ปลายนาและป่าไม้โกงกางที่ประชาชนปลูกขึ้น ซึ่งนับวันแต่จะเพิ่มขึ้น เช่น ป่ายางพารา ป่าสน ประดิพัทธ์ ป่ากระถินยักษ์ ป่ายูคาลิปตัส ฯลฯ
ตารางที่ ๖ แสดงกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ป่าไม้ของโลก สำรวจเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๖
บทความและภาพประกอบที่อยู่ในเว็บไซต์ของมูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ นี้ใช้สำหรับเพื่อสนับสนุนการผลิตหนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ
เป็นการเผยแพร่วิชาการให้แก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป โดยจะนำไปแจกจ่ายให้โรงเรียนทั่วประเทศ และจำนวนหนึ่งนำออกจำหน่ายเพื่อนำเงินมาสมทบทุนในการจัดพิมพ์ต่อไป
ซึ่งเป็นการใช้สิทธิโดยสุจริต ทั้งนี้มูลนิธิได้รับอนุญาตทั้งบทความและภาพประกอบจากผู้เขียนแล้ว หากมีประเด็นขัดข้องสงสัยในเรื่องลิขสิทธิ์อย่างใด ขอได้โปรดแจ้งให้
มูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ ทราบเพื่อพิจารณาแก้ไขความขัดข้องสงสัยนั้นต่อไป จะเป็นพระคุณยิ่ง
ลิขสิทธิ์เป็นของมูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ
ห้ามนำข้อความและรูปภาพไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต