เล่มที่ 30
กฎหมายตราสามดวง
สามารถแชร์ได้ผ่าน :
บทนำ

            คือ ชื่อประมวลกฎหมายโบราณของไทย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้นักปราชญ์ราชบัณฑิตจำนวน ๑๑ คน นำตัวบทกฎหมายต่างๆ ที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นมาชำระ และปรับปรุงแก้ไขตัวบทกฎหมายต่างๆ ให้มีความยุติธรรมและเหมาะสมกับยุคสมัยมากขึ้น โดยโปรดเกล้าฯ ให้ชำระขึ้น และได้ประกาศใช้เมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๓๔๗ นอกจากจะนำกฎหมายเก่าที่ใช้กันในสมัยอยุธยามาชำระแล้ว ก็ยังได้ตรากฎหมายใหม่เพิ่มเติมอีกด้วย


            ประเทศไทยใช้กฎหมายตราสามดวงเป็นหลักในการปกครองบ้านเมือง ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น จนกระทั่งไทยต้องเผชิญกับลัทธิจักรวรรดินิยมตะวันตก และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ต้องทำสนธิสัญญาเบาว์ริงกับอังกฤษใน พ.ศ. ๒๓๙๘ และทำสนธิสัญญาในลักษณะเดียวกันกับชาติตะวันตกอื่นๆ ชาติตะวันตกเหล่านั้น มีระบบกฎหมายที่แตกต่างไปจากกฎหมายของไทย และมองว่า กฎหมายไทยป่าเถื่อน จึงเรียกร้องสิทธิสภาพนอกอาณาเขตจากไทย เพื่อจะได้ไม่ต้องอยู่ภายใต้บังคับ ของกฎหมายไทยและศาลไทย ต่อมาในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงต้องเร่งรีบปฏิรูปกฎหมาย และการศาลของไทย ให้เป็นที่ยอมรับของชาติตะวันตก เพื่อไทยจะได้เอกราชทางกฎหมาย และการศาลคืนมา โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจชำระกฎหมาย และจัดทำประมวลกฎหมายใหม่ขึ้น การชำระและการร่างกฎหมายใหม่นั้น ได้กระทำอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะๆ เมื่อกฎหมายลักษณะใดเสร็จ ก็ประกาศใช้ไปพลางๆ ก่อน จนใน พ.ศ. ๒๔๗๘ จึงประกาศใช้กฎหมายใหม่ได้ครบทุกลักษณะ และกฎหมายตราสามดวง ก็ได้ยกเลิกไปในที่สุด

            การนับศักราชของไทย แต่เดิมนั้นถือเดือนเมษายนเป็นเดือนแรกของปีใหม่ ดังนั้นเดือนมกราคมจึงเป็นช่วงปลายปีของ พ.ศ. ๒๓๔๗ แต่หากนับเดือนมกราคมเป็นเดือนแรกของปีใหม่ตามแบบปัจจุบัน ปีดังกล่าวจึงต้องถือเป็น พ.ศ. ๒๓๔๘ ดังนั้นกฎหมายตราสามดวงจึงจะมีอายุครบ ๒๐๐ ปี ในวันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘