ประวัติความเป็นมาของมันสำปะหลัง มันสำปะหลัง เป็นพืชดั้งเดิมของชาวพื้นเมืองในเขตร้อนของทวีปอเมริกา ตั้งแต่อเมริกากลาง คือ ตอนใต้ของประเทศเม็กซิโก ลงไปถึงประเทศบราซิล ซึ่งเป็นพวกอเมริกันอินเดียน ชนเหล่านี้ปลูกมันสำปะหลัง เพื่อใช้เป็นอาหาร จากหลักฐานทางโบราณคดี มีการค้นพบเครื่องปั้นดินเผาเป็นรูปหัวมันสำปะหลังที่ประเทศเปรู เครื่องปั้นนี้มีอายุประมาณ ๒,๕๐๐ ปี แสดงว่า มนุษย์เรานั้น รู้จักปลูกมันสำปะหลังมากกว่า ๒,๕๐๐ ปีมาแล้ว ในสมัยโบราณก่อนที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส สำรวจพบทวีปอเมริกาในปี พ.ศ. ๒๐๓๕ ก็มีการปลูกมันสำปะหลังอยู่เฉพาะในเขตร้อนของทวีปอเมริกาเท่านั้น ส่วนในทวีปแอฟริกา และเอเชีย ยังไม่มีมันสำปะหลังปลูก เพราะยังไม่มีการติดต่อกัน ต่อมาจึงมีผู้นำมันสำปะหลังจากทวีปอเมริกาไปยังทวีปแอฟริกา และเอเชีย ตามลำดับ | ||||||||||||||||||
เครื่องปั้นดินเผารูปหัวมันสำปะหลัง ที่พบในประเทศเปรู | ||||||||||||||||||
การนำมันสำปะหลังเข้าทวีปแอฟริกา ประมาณกลางศตวรรษที่ ๑๖ ชาวโปรตุเกสได้ นำมันสำปะหลังจากประเทศบราซิลในทวีปอเมริกาใต้เข้าสู่ทวีปแอฟริกา โดยใช้มันสำปะหลังเป็นอาหารในเรือค้าทาส ซึ่งชาวโปรตุเกสนำไปจากทวีป แอฟริกา ในปัจจุบันมันสำปะหลังก็ยังคงเป็นพืชที่ใช้เป็นอาหารหลักที่สำคัญของชาวแอฟริกันอยู่ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ของ FAO และทวีปแอฟริกาเป็นทวีป ที่มีการผลิตมันสำปะหลังมากที่สุด ดังปรากฏใน ตารางที่ ๒
การนำมันสำปะหลังเข้าทวีปเอเชีย ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ ๑๗-๑๘ ชาวโปรตุเกส ดัชท์ และสเปน ได้นำมันสำปะหลังเข้ามายังประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชีย ปัจจุบันประเทศที่ปลูกมันสำปะหลังมาก คือ อินโดนีเซีย ไทย และอินเดีย ซึ่งผลิตได้มากเป็นอันดับ ๒, ๕ และ ๖ ของโลกตามลำดับ ในตารางที่ ๓
สำหรับประเทศอินโดนีเซีย และประเทศอินเดียนั้น ใช้มันสำปะหลังเป็นอาหารหลักของพลเมือง เพราะผลิตข้าวไม่พอกับความต้องการ ส่วนประเทศไทยผลิตได้ ๗.๘ ล้านตันเป็นอันดับ ๕ ของ โลก แต่ไทยเราผลิตข้าวสำหรับบริโภค และยังเหลือส่งเป็นสินค้าออกอีกด้วย การใช้มันสำปะหลังภายในประเทศจึงมีเพียงประมาณ ๕ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่เหลือก็แปรรูปส่งออกจำหน่ายต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ประเทศไทยจึงเป็นประเทศที่ส่งผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง จำหน่ายมากที่สุดในโลก |