น้ำเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อสิ่งมีชีวิต ต้นไม้น้อยใหญ่เจริญงอกงามดีในฤดูฝน เพราะมีน้ำมากพอตามที่ต้นไม้ต้องการ
เมื่อฝนไม่ตก หรือในฤดูแล้ง ต้นไม้ขาดน้ำจะเหี่ยวเฉา และไม่เจริญงอกงามตามที่ควร
เราจึงจำเป็นต้องจัดหาน้ำให้กับต้นไม้ในเวลาที่ฝนไม่ตก
การจัดหาน้ำให้กับต้นไม้ หรือพื้นที่เพาะปลูกนั้น เรียกว่า เราทำการชลประทาน เช่น เราตักน้ำไปรดต้นไม้ ที่ปลูกในกระถางหรือที่สวนครัว ชาวนาวิดน้ำเข้านาด้วยระหัด ชาวสวนวิดสาดน้ำรดต้นไม้ ชาวไร่ชาวนารับน้ำจากคลองส่งน้ำ ของโครงการชลประทานส่งเข้าไปยังแปลงเพาะปลูก เป็นต้น เหล่านี้ล้วนเป็นการชลประทานทั้งสิ้น
การชลประทาน มีประโยชน์ต่อการเพาะปลูก พื้นที่เพาะปลูกแห่งใดมีการชลประทานดี ย่อมมีน้ำให้พืชที่ปลูก ในเวลาที่ฝนไม่ตก หรือเวลาที่พืชต้องการน้ำได้เสมอ ไม่ต้องพึ่งฝนธรรมชาติเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ทำให้พืชที่ปลูก เจริญงอกงามดีตลอดปี
การชลประทาน เป็นกิจการที่เราจัดทำขึ้น เพื่อประโยชน์ต่อการเพาะปลูก ด้วยการเพิ่มเติมน้ำให้กับพื้นที่เพาะปลูก ในเวลาที่น้ำ ซึ่งได้จากธรรมชาติมีน้อย หรือไม่มีเลย