เราได้ยินเสียงต่างๆ ตลอดเวลา
เสียงนกร้องจิ๊บ จิ๊บ เสียงฝนตกจั้ก จั้ก เสียงแตรรถยนต์ดัง ปี๊น ปี๊น เสียงคนพูด หัวเราะ และบางทีก็ตะโกนโหวกเหวก
บางเสียง เราชอบฟัง บางเสียงเราไม่ชอบฟัง
เสียงเหล่านี้ ไม่นับว่าเป็นเสียงดนตรี
เสียงดนตรี เป็นเสียงที่คนเราทำให้เกิดขึ้น ด้วยความตั้งใจจะให้เป็นเสียงไพเราะน่าฟัง เป็นเสียงที่แตกต่างจากเสียงนก เสียงฝน เสียงแตรรถยนต์ และเสียงคนพูด
เราได้ยินเสียงดนตรีบ่อยๆ เหมือนกัน มักมีการเล่นดนตรีในเวลาที่มีงานวัด งานกาชาด งานศพ วิทยุกระจายเสียง และโทรทัศน์ก็มีรายการดนตรีเสมอ
ถ้าเรามีโอกาสได้ดูคนเล่นดนตรี จะเห็นได้ว่า ผู้เล่นใช้เครื่องมือหลายอย่าง บางอย่างเรารู้จักดี เช่น กลอง ขลุ่ย แคน เป็นต้น เครื่องมือเหล่านี้ทำให้เกิดเสียงต่างๆ ตามความต้องการ เรียกว่า เครื่องดนตรี
เครื่องดนตรีมีหลายอย่าง และมีหลายวิธีที่จะทำให้เกิดเสียง ต่างๆ กัน เช่น กลอง ผู้เล่นต้องใช้มือ หรือไม้ตีกลอง ปี่ หรือ ขลุ่ย ใช้วิธีเป่า ซอใช้วิธีสีด้วยเส้นหางม้า จะเข้ ใช้วิธีดีดที่สายจะเข้ เป็นต้น
ดนตรีต้องมีผู้แต่ง การแต่ง คือ นำเอาเสียงต่างๆ อันเกิดจากการบรรเลงเครื่องดนตรี มาเรียบเรียงกันเข้าเป็นทำนองเพลง
เสียงดนตรีทำให้สบายใจ บางทีเรารู้สึกสนุก อยากหัวเราะ อยากกระโดดโลดเต้น หรืออยากทำท่าร่ายรำไปตามเสียงนั้น
นอกจากจะมีดนตรีในงานทำบุญต่างๆ แล้ว เราก็ใช้ดนตรี สำหรับการละเล่นบางอย่างเช่นเดียวกับชนชาติอื่น การแสดงละคร ฟ้อนรำ โขน หุ่นกระบอก หนัง (แบบโบราณ) ของเรา ล้วนแต่ ต้องใช้ดนตรีทั้งสิ้น มีเพลงต่างๆ มากมายที่มีผู้แต่งไว้สำหรับใช้ใน การแสดงดังกล่าวมาแล้ว น่าเสียดายที่เราไม่ค่อยจะทราบนามผู้แต่ง เพลง เพราะคนไทยแต่โบราณไม่นิยมออกนามของตนเอง ด้วยมี ความคิดว่า สิ่งที่ตนแต่งขึ้นนั้น สำคัญกว่าตนเอง อย่างไรก็ดี มี เพลงบางเพลงที่เราทราบได้แน่ว่าใครเป็นผู้แต่ง เช่น เพลงราตรีประดับดาว ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ หัว เพลงเขมรไทรโยค พระนิพนธ์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้า กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เป็นต้น