ในตอนเช้าตรู่ ฟ้าเริ่มสาง เมื่ออยู่กลางแจ้งเราเห็นดวงอาทิตย์ ขึ้นจากทิศทางหนึ่ง ซึ่งเรียกกันว่า ทิศตะวันออก เงาของเราทอดยาว พอเวลาสาย ดวงอาทิตย์เลื่อนขึ้นสูง เงาก็สั้นลง ตอนเที่ยงวันเราเห็น ดวงอาทิตย์อยู่สูงสุด และเงาของเรา ก็สั้นที่สุด แล้วดวงอาทิตย์ก็เลื่อนต่ำลง ไปอีกทิศทางหนึ่งซึ่งเรียกว่า ทิศตะวันตก เมื่อดวงอาทิตย์ลับไปแล้ว เงาก็หายไป ท้องฟ้ามืด เราเรียกว่าเป็น เวลากลางคืน
บางคืน เราเห็นดวงดาวระยิบระยับทั่วท้องฟ้า
บางคืน เราเห็นควงจันทร์ทอแสงสว่างนวลตา
กลางคืนเปลี่ยนเป็นกลางวันอีก เราเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก ไปตกทางทิศตะวันตกอย่างวันก่อน ทั้งนี้ เพราะโลกหมุนไปอย่างสม่ำเสมอ
ช่วงเวลาตั้งแต่ดวงอาทิตย์ขึ้น ตอนเช้าตรู่จนถึงเช้าตรู่อีกครั้งหนึ่ง เรียกว่า หนึ่งวัน แต่ช่วงกลางวัน และกลางคืนนานไม่เท่ากัน เราสังเกตได้ว่า ฤดูร้อน กลางวันนานกว่าฤดูหนาว
เรากำหนดเวลาจากดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ได้ แต่เมื่อมีเมฆหมอก เรามองเห็นดวงอาทิตย์ไม่ชัดเจน
เราจึงมีเครื่องมืออย่างหนึ่ง เรียกว่า นาฬิกา ใช้บอกเวลา ซึ่งแบ่งเวลาในหนึ่งวันออกเป็นช่วงเวลาเท่าๆ กันทุกวันโดยเฉลี่ย
เมื่อเราดูดวงจันทร์ในคืนหนึ่ง เราเห็นดวงจันทร์เสี้ยวนิดเดียวทางทิศตะวันตก คืนต่อๆ มา เราเห็นดวงจันทร์ใหญ่ขึ้น เป็นจันทร์ครึ่งดวง และจันทร์เต็มดวง
เราเรียกกลางคืน ที่เราเห็นดวงจันทร์เต็มดวงว่า คืนวันเพ็ญ
ดวงจันทร์เต็มดวงลอยเด่น อยู่สูงสุดกลางฟ้าในตอนเที่ยงคืนวันเพ็ญต่อจากนั้น เราจะเห็นดวงจันทร์เว้าลงทีละน้อยในแต่ละคืน จนเหลือเพียงเสี้ยวเดียว และมืดมิดหมด
โลกหมุนไป เราก็จะเริ่มเห็นดวงจันทร์เสี้ยวนิดเดียวทางทิศตะวันตกอีกครั้งหนึ่ง
ช่วงเวลาที่เราเห็นดวงจันทร์ ครั้งแรกจนเต็มดวง แล้วเว้าลงจนมืดหมดดวงนี้ นับเวลานานเกือบ ๓๐ วัน หรือ ๑ เดือน
เมื่อเรานับช่วงเวลา ๑ เดือน นี้ได้ ๑๒ ครั้ง เราเรียกว่า ๑ ปี