เล่มที่ 36
มะคาเดเมีย
สามารถแชร์ได้ผ่าน :
พื้นที่ปลูกและผลิตผล

            ในประเทศไทย พื้นที่ปลูกมะคาเดเมียส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เชิงเขาหรือปลูกบนภูเขา โดยมีพื้นที่ปลูกทั้งหมดประมาณ ๘,๐๐๐ ไร่ ซึ่งอยู่ในจังหวัดเลยและเชียงรายเป็นพื้นที่หลัก รองลงมาคือ พื้นที่ในจังหวัดตาก เชียงใหม่ น่าน ลำปาง แม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ แพร่ พิษณุโลก ตามลำดับ มะคาเดเมียเริ่มให้ผลิตผลเล็กน้อยเมื่อปลูกได้ ๔-๕ ปี โดยให้ผลิตผล ๑-๓ กิโลกรัม/ต้น และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงอายุระหว่าง ๑๒-๑๔ ปี ผลิตผลจึงจะคงที่ คือ ๒๕-๓๕ กิโลกรัม/ต้น และให้ผลิตผลไปจนอายุไม่น้อยกว่า ๕๐ ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา การปลูกต้องปลูก ๒ พันธุ์ร่วมกัน ปริมาณผลิตผลมะคาเดเมียแตกต่างกันอย่างมาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ สถานที่ ภูมิอากาศ ดิน ระบบชลประทาน และการแพร่กระจายของน้ำฝน มะคาเดเมียที่ปลูกที่รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา สามารถให้ผลิตผลสูงที่สุด คือ ประมาณ ๔๕ กิโลกรัม/ต้น เมื่อมีอายุ ๑๐ ปี สำหรับปริมาณผลิตผลมะคาเดเมียของไทย และออสเตรเลีย อยู่ในระดับใกล้เคียงกันคือ ประมาณร้อยละ ๖๗-๗๐ ของผลิตผลที่รัฐฮาวาย ส่วนคุณภาพของผลิตผล พบว่า มะคาเดเมียที่ปลูกในพื้นที่สูงจะให้ผลิตผลที่มีสัดส่วนของน้ำหนักเปลือกนอกลดลง และสัดส่วนน้ำหนักของกะลาต่อเนื้อใน ขึ้นอยู่กับชนิดของพันธุ์ เช่น พันธุ์ # H2 เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่ราบโดยจะมีสัดส่วนของกะลาลดลง เมื่อปลูกในพื้นที่ราบ และพันธุ์ # ๗๔๑ จะมีสัดส่วนของกะลาลดลง เมื่อปลูกในพื้นที่สูง


เมล็ดมะคาเดเมียแต่ละพันธุ์มีขนาดไม่เท่ากัน