พรีออน - อนุภาคก่อโรคติดเชื้อประหลาด
ในช่วงระยะเวลาประมาณ ๑๐ ปีที่ผ่านมานี้ มีคำที่ได้บ้ญญัติขึ้นมาใหม่คำหนึ่งคือ "พรีออน" (PRION)
"พรีออน" เป็นอนุภาคที่มีขนาดเล็กมาก แต่ไม่ใช่จุลชีพ เพราะพบแต่เพียงส่วนประกอบที่เป็นโปรตีนเท่านั้น ถึงแม้จะมีกรดนิวคลิอิก ก็มีเพียงเล็กน้อย เนื่องจากถูกห่อหุ้มไว้อย่างแน่น หนาด้วยโปรตีน ทำให้ไม่สามารถตรวจพบกรด นิวคลิอิกดังกล่าวได้ ศาสตราจารย์พรูซิเนอร์เป็น ผู้เสนอให้ใช้คำใหม่นี้โดยใช้คำเต็มว่า Proteinaceous infectious particle (แปลว่า อนุภาคที่เป็น โปรตีนที่ทำให้ติดเชื้อได้ หรือบัญญัติคำให้เรียกสั้นๆ ว่า PRION และท่านให้อ่านว่า พรีออน ไม่ได้ให้อ่านว่า ไพรออน ศาสตราจารย์พรูซิเนอร์ ได้รับรางวัลโนเบลจากงานวิจัยเรื่อง พรีออน เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๔๐) โปรตีนชนิดนี้สามารถทำให้เกิด การติดเชื้อต่อไปได้ และทนต่อความร้อนและ สารเคมี หรือสารทางกายภาพต่างๆ
ปฐมเหตุที่มีการบัญญัติคำว่า "พรีออน" ขึ้น เนื่องมาจากมีการศึกษาค้นคว้าวิจัยโรคๆ หนึ่ง ที่มีการเสื่อมของระบบประสาทส่วนกลาง และทำให้เกิดโรคนี้ขึ้น ทั้งในสัตว์ และในมนุษย์
คนและสัตว์ที่เป็นโรคที่เกิดจากพรีออนนั้น จะต้องตายทุกคน บางคนเรียกชื่อโรครวมๆ ว่า โรคสมองเสื่อมเป็นฟองน้ำ (Spongiform encephalopathies) เพราะว่าเนื้อสมองจะเสื่อม เปราะ และเป็นรูพรุน เหมือนฟองน้ำ ระยะฟักตัวของโรคจะนานมาก เป็นเวลาหลายๆ ปี ระยะฟักตัวของโรคในคน อาจจะนานเป็นสิบๆ ปี จึงทำให้เรียกโรคกลุ่มนี้ว่า slow infection
สำหรับโรคที่พบในสัตว์ที่ระบาดบ่อย ในหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแกะและแพะ ในยุโรปคือ โรคสเครปี (scrapie) แพะและแกะ ที่เป็นโรคนี้ อวัยวะจะเสียการประสานงาน เช่น การก้าวเดิน ซึ่งตามปกติขาทั้งสี่จะต้องประสานกัน แต่สัตว์พวกนี้ก็ทำไม่ได้ เมื่อเป็นมากขึ้น แม้ กระทั่งจะยืนก็ไม่สามารถทำได้ ที่สำคัญอีกอย่าง คือจะมีอาการอยู่นิ่งไม่ได้ ลุกลี้ลุกลน คันตามตัว ทำให้สัตว์เกาและครูด (Scrape) ตัวเองจนขนร่วง ไปหมด ด้วยเหตุนี้เอง จึงได้ชื่อว่า scrapie นอกจากนี้ ยังมีโรคของมิ๊งค์ กวาง แมว และโค สำหรับโคที่เป็นโรคเรียกว่า โรควัวบ้า (mad cow disease) ซึ่งมีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า bovine spongiform encephalopathy-BSE
โรควัวบ้าได้มีรายงานว่า เกิดระบาดขึ้น ในประเทศอังกฤษ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๙ โดยการตรวจสอบโรคพบว่า มีการนำเนื้อแกะ กระดูกแกะ เครื่องในโค และสมองโค ไปบดเป็น อาหารเสริมเลี้ยงโค ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๑ ทางราชการจึงสั่งห้ามการผสมอาหาร ในลักษณะ ดังกล่าวให้แก่โค
สำหรับโรคที่เกิดในคนนั้นเรียกชื่อว่า "คูรู" หรือบางทีเรียกว่า โรคสำรวลมรณะ (laughing death) คนที่บรรยายโรคไว้ก็คือ วินเซนต์ ซิกาส์ แห่งกระทรวงสาธารณสุขของออสเตรเลีย ร่วม กับ คาร์ลตัน กัจดูเช็ค นักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งภายหลังได้รับรางวัลโนเบล จากงาน ที่ทั้งสองท่าน ได้รายงานโรคนี้ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๐
คำว่า "คูรู" คือ โรคของชนเผ่าหนึ่ง ที่อาศัยอยู่บนที่ราบสูงของปาปัวนิวกินี เป็นชนเผ่ากินเนื้อมนุษย์ ชนเผ่านี้จะป่วยเป็นโรคประหลาดคือ จะเดินสะเปะสะปะ เพราะอวัยวะขาดการประสานกัน และต่อมา จะมีอาการสมองเสื่อม ความจำเสื่อม และเสียชีวิตในที่สุด ชนเผ่านี้ จะมีประเพณีกินสมองของคนที่ตาย โดยถึอว่า เป็นการคารวะผู้ตาย เด็ก และผู้หญิง จะเป็นโรคนี้กันมากกว่าผู้ชาย เพราะผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ จะออกล่าสัตว์หาอาหาร ถ้ามีคนตายในหมู่บ้าน ผู้หญิงและเด็ก ก็จะมีโอกาสได้ลิ้มรสสมองของคนตายก่อนผู้ชาย เพราะต้องรีบบริโภคสดๆ หลังจากนั้น เป็นเวลานานนับสิบปี จึงจะเกิดเป็นโรคดังกล่าวขึ้น เมื่อค้นพบสาเหตุของโรค ประเพณีกินเนื้อมนุษย์ ก็เลิกไป จึงไม่พบโรคนี้อีก
อีกโรคหนึ่งเรียกชื่อว่า "คร็อยซเฟลด์จาค๊อบ" (Creutzfeldt-Jakob's disease) โรคนี้พบได้ทั่วโลก โดยจะมีอาการสมองเสื่อม ความจำเสื่อม มักจะเป็นเมื่ออายุประมาณ ๖๐ ปี โดยประมาณ ร้อยละ ๑๐ ถึง ๑๕ จะเป็นโรคจากการที่ "หมอทำ" (โรคที่เกิดจากการกระทำของหมอ โดย ศาสตราจารย์ นายแพทย์อวย เกตุสิงห์ บัญญัติ ว่า "โรคหมอทำ") โรคคร็อยซเฟลด์-จาค็อบ ที่หมอทำนั้น ได้แก่ การติดโรคจากการผ่าตัด เปลี่ยนกระจกตา การปลูกเยื่อหุ้มสมอง ซึ่งจะติดโรคจากเนื้อเยื่อที่เอามาใช้ หรือจากเครื่องมือแพทย์ที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่นั่นเอง เหตุนี้จึงเรียกว่า เป็นโรคประเภท "หมอทำ" (Iatrogenic disease) โรคนี้เกิดจากการอยู่ใกล้ชิดกับโรควัวบ้าก็ได้
โรคทางสมองมนุษย์มีอีกสองโรคที่เกิดจากพรีออน ได้แก่ กลุ่มอาการแกร์สมานน์- สตร๊อยเลอร์ (Gerstmann-Straussler's syndrome) และกลุ่มอาการเฟตัล แฟมิเลียล อินซอมเนีย (fatal familial insomnia syndrome; โรคนอนไม่หลับ ที่เป็นกันภายในครอบครัว และมักเสียชีวิต)