เล่มที่ 31
วัดญวนในประเทศไทย
สามารถแชร์ได้ผ่าน :
พิธีกรรมและความเชื่อ

            การที่วัฒนธรรมของชาวญวนเป็นวัฒนธรรมแบบเอเชียตะวันออก ซึ่งได้รับอิทธิพลความเชื่อ ทางพระพุทธศาสนาแบบอุตรนิกาย ที่เผยแผ่เข้ามายังประเทศ ทางภาคตะวันออกของทวีปเอเชีย คือ จีน ทิเบต มองโกเลีย ญี่ปุ่น และญวน อีกทั้งการที่เวียดนามตกอยู่ภายใต้การปกครองของจีน เป็นเวลานานกว่าพันปี ทำให้ลัทธิความเชื่อและพิธีกรรมทางศาสนา ของชาวญวนหรือชาวเวียดนามส่วนใหญ่คล้ายคลึงกับชาวจีน ความเชื่อและศาสนาของชาวญวนประกอบด้วย ลัทธิบูชาเทพ ที่สิงสถิตตามธรรมชาติ มีการเคารพสักการะผี และวิญญาณต่างๆ ต่อมาจึงได้รวมเอาความเชื่ออื่นๆ คือ ลัทธิขงจื๊อ และลัทธิเต๋า รวมทั้งพระพุทธศาสนานิกายมหายานจากอิทธิพลของจีนเข้าไว้ด้วย

๑. พระพุทธเจ้าตามคติมหายาน

            พุทธศาสนิกชนที่นับถือนิกายมหายาน ในหลายประเทศ เช่น จีน ทิเบต เนปาล เกาหลี ญี่ปุ่น และเวียดนาม มีความเชื่อว่า ในโลกนี้ มีพระพุทธเจ้าอยู่มากมาย อาจกล่าวได้ว่า มีจำนวนเท่ากับเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา มีพระพุทธเจ้าอยู่ทั่วไปในภาคพื้นดิน ในห้วงบรรยากาศ และในสรวงสวรรค์ ซึ่งตามคติมหายาน แบ่งพระพุทธเจ้าออกเป็น ๓ ประเภท คือ


พระโคตมะ หรือพระศรีศากยมุนีพุทธเจ้า
ซึ่งเป็นพระนามหนึ่งของพระมานุษิพุทธเจ้า
            ๑) พระมานุษิพุทธเจ้า

                        ตามคติของฝ่ายมหายาน พระมานุษิพุทธเจ้า คือ พระพุทธเจ้าที่เสด็จลงมาประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ในโลกมนุษย์ เช่น พระพุทธเจ้าในภัทรกัป ซึ่งเป็นกัปที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้มาแล้วถึง ๔ พระองค์ และจะเสด็จมาตรัสรู้ในภายภาคหน้าอีกพระองค์หนึ่ง มีพระนามตามลำดับ คือ

                        ๑. พระกกุสันโธ
                        ๒. พระโกนาคมน์
                        ๓. พระกัสสปะ
                        ๔. พระโคตมะ
                        ๕. พระศรีอริยเมตไตรย์ หรือพระศรีอารย์

            นอกจากนี้ ยังมีพระพุทธเจ้าในกัปอื่นๆ ที่ปรากฏพระนามอยู่ในมนต์พิธีของพระสงฆ์อนัมนิกาย เช่น พระทีปังกร พระวิปัสสี พระสิขี พระเวสภู


พระฌานิพุทธเจ้า

            ๒) พระฌานิพุทธเจ้า

                        คือ พระพุทธเจ้าที่สถิตอยู่ ณ สรวงสวรรค์ที่แบ่งเป็นแดนๆ ในแต่ละแดนเรียกว่า พุทธเกษตร หรือแดนแห่งพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง พระฌานิพุทธเจ้าทุกพระองค์ จะอุบัติขึ้นด้วยอำนาจฌานของพระอาทิพุทธ ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐม พระอาทิพุทธมีสภาวะเป็นองค์สยมภู (คือ พระผู้เกิดเอง เหมือนกับพระพรหม ในศาสนาพราหมณ์) ปราศจากเขตต้นและเขตปลาย

                        พระฌานิพุทธเจ้าทุกพระองค์เมื่ออุบัติขึ้นจากอำนาจฌานของพระพุทธเจ้าองค์ปฐมแล้ว จะตรัสรู้ในสรวงสวรรค์ ซึ่งเป็นที่พัก เพื่อรอการเข้าสู่พระนิพพาน จึงไม่ได้เสด็จมาตรัสรู้ในโลกมนุษย์ พระพุทธเจ้า ณ พุทธเกษตร บนสรวงสวรรค์นี้ มีปรากฏพระนามในคัมภีร์ต่างๆ เช่น พระไวโรจนพุทธเจ้า มีพระวรกายสีขาว ประทับเหนือดอกบัวสีน้ำเงิน มีสิงโตเป็นพาหนะ สถิตอยู่ ณ พุทธเกษตรเบื้องล่าง พระอักโษภัยพุทธเจ้าสถิตอยู่ ณ พุทธเกษตรทิศตะวันออก พระอมิตาภพุทธเจ้า สถิตอยู่ ณ พุทธเกษตรทิศตะวันตก พระอโมฆสิทธิพุทธเจ้า สถิตอยู่ ณ พุทธเกษตรทิศเหนือ พระรัตนสมภพพุทธเจ้า สถิตอยู่ ณ พุทธเกษตรทิศใต้


พระไภสัชยาคุรุพุทธเจ้า

            ๓) พระไภสัชยาคุรุพุทธเจ้า

                        ตามคติของฝ่ายมหายานเชื่อกันว่า ทางทิศตะวันออกไกลจากพุทธเกษตรออกไปเป็นระยะทาง ๑๐ เท่า ของเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา มีโลกอีกโลกหนึ่งที่สะอาดบริสุทธิ์ มีพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า ไภสัชยาคุรุ ผู้เป็น "พระสัมมาสัมพุทธเจ้า" ทรงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์สมบูรณ์ ทั้งจิตและกาย ทรงรอบรู้ในสัจจะ ทรงหยั่งรู้ในโลก และทรงเป็นผู้ชี้ทางให้มวลมนุษย์ด้วยความชำนาญ เช่นเดียวกับสารถีผู้ชำนาญในการบังคับม้า และทรงเป็นศาสดาของมนุษย์ และเทวดาทั้งหลาย

๒. วันสำคัญทางศาสนา

            ความเชื่อในลัทธิพิธีต่างๆ ของวัดญวนในประเทศไทยปรากฏออกมาเป็นวันสำคัญทางศาสนาที่อาจแบ่งได้ดังนี้

            ๑) วันสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้า ตามความเชื่อของฝ่ายมหายานถือว่า วันประสูติ วันตรัสรู้ และวันปรินิพพานเป็นคนละวันกัน มีการกำหนดวัน โดยยึดถือตามปฏิทินจีนเป็นหลัก กล่าวคือ

  • วันประสูติ ได้แก่ วันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๗
  • วันตรัสรู้ ได้แก่ วันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๒
  • วันปรินิพพาน ได้แก่ วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนยี่
            พิธีกรรมจะกำหนดให้มีขึ้นเฉพาะวันประสูติและวันตรัสรู้เท่านั้น