พรรคการเมืองในสังคมโลก
พรรคการเมือง คือ กลุ่มบุคคลหรือองค์กรที่จัดตั้งขึ้นโดยมุ่งแสวงหาอำนาจในการปกครองรัฐ เพื่อนำอุดมการณ์ หรือแนวนโยบายของตน มาใช้ตอบสนองความต้องการของประชาชน แก้ปัญหาของสังคม และวางแนวทางในการพัฒนาประเทศ ทุกประเทศ ไม่ว่าจะมีการปกครองแบบระบอบประชาธิปไตย หรือเผด็จการ ล้วนมีการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้น เพื่อมาบริหารประเทศ
พรรคการเมืองในประเทศไทย
การจัดตั้งพรรคการเมืองในประเทศไทยมีขึ้นหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕ โดยมีการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้น เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๘ พรรคที่จัดตั้งเป็นพรรคแรก คือ พรรคก้าวหน้า ต่อมาจึงมีพรรคอื่นๆ ตามมา เช่น พรรคประชาธิปัตย์ สหชีพ แต่พรรคการเมืองไทย ที่จัดตั้งขึ้นในสมัยแรกๆ ไม่สามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้อย่างต่อเนื่อง เพราะการชะงักงันของระบอบประชาธิปไตย เนื่องจาก การยึดอำนาจรัฐโดยฝ่ายทหารหลายครั้ง มีการยกเลิกรัฐธรรมนูญที่ให้สิทธิเสรีภาพทางการเมือง และยกเลิกกฎหมายพรรคการเมือง อย่างไรก็ดี การยึดอำนาจของฝ่ายทหารบางครั้งก็ยังเปิดโอกาสให้มีพรรคการเมืองเดิมอยู่ได้ เช่น เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๐ พรรคประชาธิปัตย์สามารถจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศได้ในช่วงสั้นๆ หรือ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๐ ฝ่ายทหารได้ให้มีการเลือกตั้งขึ้น จึงมีพรรคการเมืองเกิดขึ้นใหม่ๆ อีกหลายพรรค นอกเหนือจากพรรคเก่าอย่างประชาธิปัตย์ กิจสังคม ชาติไทย พรรคที่เกิดขึ้นใหม่บางพรรค ประสบผลสำเร็จในการเลือกตั้ง เช่น พรรคประชากรไทย พรรคพลังธรรม พรรคความหวังใหม่
หลังสิ้นสุดการเข้ายึดอำนาจของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (ร.ส.ช.) เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๕ แล้ว มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกฎหมายพรรคการเมืองในระยะต่อๆ มา จนมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. ๒๕๔๐ ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน มีกฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอีกหลายฉบับ ซึ่งล้วนมีส่วนทำให้พรรคการเมืองได้พัฒนาตนเอง และมีคุณภาพขึ้น พรรคการเมืองไทยจึงมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง และมีบทบาททางการเมืองทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น
บทบาทหน้าที่ของพรรคการเมืองไทย
กิจกรรมหลักๆ ซึ่งเป็นบทบาทหน้าที่ของพรรคการเมืองมีหลายประการ ที่สำคัญคือ การจัดตั้งรัฐบาลเพื่อบริหารประเทศ การเป็นตัวเชื่อม ระหว่างรัฐกับสังคม โดยนำข้อเรียกร้อง หรือปัญหาของประชาชน ไปแจ้งให้รัฐบาลทราบ เพื่อตอบสนองข้อเรียกร้องนั้น หรือรายงาน การดำเนินงานของรัฐบาล ที่มีผลกระทบต่อประชาชน ให้ประชาชนได้ทราบ และที่สำคัญ คือ การนำเสนอประเด็นปัญหา และแนวทางแก้ไขแก่สังคม เพราะในสังคมสมัยใหม่ ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จะพิจารณาจากแนวนโยบายของพรรคมากกว่าตัวบุคคล
การดำเนินกิจกรรมรูปแบบต่างๆ ของพรรคการเมืองไทย
การจัดองค์การและการดำรงอยู่ของพรรคการเมืองไทย
กระบวนการสำคัญในการจัดองค์การของพรรคการเมือง คือ
การรับสมาชิกพรรค โดยการรับสมาชิกซึ่งต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญกำหนด เช่น มีอายุ ๑๘ ปีบริบูรณ์ และต้องจัดหาสมาชิกจากทุกภาคให้ได้ไม่ต่ำกว่า ๕,๐๐๐ คน ภายใน ๑๘๐ วัน นับแต่จดทะเบียนตั้งพรรค
การตั้งสาขาพรรค ต้องมีสาขาภาคละ ๑ สาขา เป็นอย่างน้อย
โครงสร้างของพรรค ต้องมีองค์ประกอบอย่างน้อย ๓ ส่วน ได้แก่
(๑) ที่ประชุมใหญ่ของพรรค ทำหน้าที่เลือกผู้ดำรงตำแหน่งบริหารสำคัญๆ ของพรรค เช่น หัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค โฆษกพรรค ตลอดจน ลงมติเปลี่ยนแปลงแก้ไขนโยบายหรือข้อบังคับพรรค
(๒) คณะกรรมการบริหารพรรค และ
(๓) คณะกรรมการบริหารสาขาพรรค ที่จะดำเนินงานของพรรคให้เป็นไปตามนโยบายพรรค
การหารายได้ของพรรค โดยการเรียกเก็บเงินจากสมาชิกเป็นค่าบำรุงพรรค การรับบริจาค ซึ่งต้องดำเนินการอย่างเปิดเผย การจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น ปาฐกถา และการรับเงินสนับสนุนซึ่งรัฐจัดสรรให้ตามกฎหมาย
ส่วนการยุบเลิกพรรคการเมือง จะทำได้ก็โดยเหตุใดเหตุหนึ่งใน ๕ ประการ คือ
(๑) ยุบเลิกตามข้อบังคับพรรค
(๒) มีจำนวนสมาชิกไม่ถึง ๑๕ คน
(๓) ต้องการไปรวมกับพรรคอื่น
(๔) ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบ
(๕) ไม่ดำเนินกิจการตามนโยบายพรรค
ทั้งนี้ การยุบพรรคต้องมีคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญและต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ปัจจุบันพรรคการเมืองที่รู้จักชื่อกันดี ได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถือเป็นพรรคเก่าแก่ที่สุดในขณะนี้ โดยตั้งมานาน ๖๐ ปีแล้ว พรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นพรรคที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และได้อำนาจจัดตั้งรัฐบาลอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนั้นก็มีพรรคอื่นๆ เช่น พรรคชาติไทย พรรคความหวังใหม่ พรรคพลังธรรม พรรคประชากรไทย พรรคมหาชน