ในโลกนี้มีสัตว์น้ำที่เป็นอาหารของมนุษย์มากมาย หอยเป๋าฮื้อเป็นสัตว์ทะเลอีกชนิดหนึ่งที่นิยมใช้เป็นอาหาร นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เปลือกทำเป็นเครื่องประดับที่มีค่า ทำให้หอยเป๋าฮื้อเป็นสัตว์ทะเลที่มีราคาแพง จึงได้มีการศึกษาค้นคว้า เพื่อเพิ่มจำนวนหอยเป๋าฮื้อในธรรมชาติ และได้มีการเพาะเลี้ยง เพื่อให้มีปริมาณเพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค ที่มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ไต้หวัน และอีกหลายประเทศในแถบยุโรปและอเมริกา รวมทั้งประเทศไทย ต่างก็นิยมบริโภคหอยเป๋าฮื้อ หอยเป๋าฮื้อที่พบทั่วโลกมีประมาณ ๑๐๐ ชนิด แต่ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตอบอุ่นและเขตร้อน โดยเฉพาะในประเทศแถบทวีปเอเชียและอเมริกาเหนือ ในประเทศไทยพบหอยเป๋าฮื้อที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติเพียง ๓ ชนิด และบางชนิดก็มีการเพาะเลี้ยงด้วย
หอยเป๋าฮื้อเป็นหอยฝาเดียว คือ มีเปลือกเดียว มีขนาด รูปร่าง และสีของเปลือกแตกต่างกันไปตามสภาพถิ่นที่อยู่และชนิด ซึ่งจะมีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ หอยเป๋าฮื้อขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยพบมีความยาวเปลือก ๒๗ เซนติเมตร และมีน้ำหนักตัว รวมทั้งเปลือกถึง ๑.๗ กิโลกรัม
หอยเป๋าฮื้อทั้งเปลือกมีรูปร่างค่อนข้างแบน มีรูปทรงตั้งแต่ค่อนข้างกลมไปถึงยาวรี ยอดเตี้ยคล้ายจาน เปลือกมีหลายสี เช่น สีเขียวมะกอก สีแดง สีส้ม เมื่อจับหงายขึ้นมา เปลือกมีลักษณะคล้ายใบหู มีรูเป็นแนวตามขอบด้านบนของเปลือก
คนไทยจึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “หอยร้อยรู” แต่จะไม่มีฝาปิดด้านล่างของเปลือก เมื่อจับหอยเป๋าฮื้อที่มีชีวิตอยู่หงายขึ้น ก็จะเห็นเท้าของหอย ซึ่งประกอบด้วยกล้ามเนื้อที่หนาและแข็งแรง เท้าเป็นส่วนที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของหอยเป๋าฮื้อ และเป็นส่วนที่มีราคาแพงที่สุด เพราะเป็นที่นิยมของผู้บริโภค กล้ามเนื้อเท้ามีหลายสี เช่น สีขาว สีครีม สีส้ม สีดำ