การบอกเล่าถึงลักษณะของสิ่งหนึ่งสิ่งใด เราอาจบอกว่า ของสิ่งนั้นมีขนาดเท่าใด ใหญ่หรือเล็ก หนักหรือเบาเพียงใด การบอกเล่าเช่นนี้ เป็นการบอกโดยใช้สายตากะค่าโดยประมาณอย่างคร่าวๆ แต่ถ้าต้องการทราบค่าที่แน่นอนก็ต้องมีการวัด ซึ่งเป็นการปฏิบัติ โดยใช้เครื่องมือ เพื่อให้ได้ค่าตัวเลขที่แน่นอนของปริมาณที่ถูกวัด โดยมีหน่วยต่างๆ ตามที่กำหนดไว้ ที่เครื่องมือ เช่น การใช้ไม้บรรทัดที่มีหน่วยเป็นเซนติเมตร วัดความยาวของสิ่งหนึ่ง ก็จะได้ค่าเป็นตัวเลข ที่มีหน่วยเป็นเซนติเมตร ซึ่งเป็นความยาวของสิ่งนั้น
นับแต่อดีต การวัดเริ่มจากการใช้สิ่งของในธรรมชาติที่อยู่รอบๆ ตัวเรามาเทียบเป็นหน่วยของการวัด มนุษย์ในแต่ละท้องถิ่นใช้เครื่องมือ และหน่วยของการวัดแตกต่างกันออกไป สมัยก่อน คนไทยวัดความยาว โดยมีหน่วยเป็นคืบ ศอก วา ซึ่งเทียบมาจากขนาดของร่างกายมนุษย์ หรือชาวนาใช้ถังตวงข้าวใส่เกวียน เพื่อนำไปขาย เมื่อตวงครบ ๑๐๐ ถัง ได้ข้าวเต็มเกวียนพอดี ก็เรียกปริมาณข้าว ๑๐๐ ถังนั้นว่า เป็นข้าว ๑ เกวียน ซึ่งหน่วยเหล่านี้ รู้เฉพาะในหมู่คนไทยด้วยกันเท่านั้น ต่อมาเมื่อโลกเจริญขึ้น มีการติดต่อกันระหว่างประเทศต่างๆ จึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือและหน่วยของการวัดที่เหมือนกันทั่วโลก เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน และเพื่อความยุติธรรม เมื่อจำเป็นต้องค้าขายต่อรองกัน
ปัจจุบันการวัดมีวิวัฒนาการครอบคลุมไปทุกสาขาวิชา มีการศึกษาทางด้านนี้อย่างต่อเนื่อง วิชาที่ศึกษาเรื่องการวัดนี้ เรียกว่า มาตรวิทยา ซึ่งในภาษาอังกฤษใช้คำว่า Metrology (อ่านว่า เม-โทร-โล-ยี)