กองทุนเงินทดแทน แม้กฎหมายประกันสังคมจะไม่ถูกนำมาใช้ปฏิบัติ จนกระทั่งบัดนี้ แต่ในพ.ศ. ๒๕๑๕ ก็มีประกาศใช้กฎหมายแรงงาน (ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๐๓) กำหนดให้มีการจัดตั้งสำนักงานกองทุนเงินทดแทนขึ้น ในกรมแรงงาน ทำหน้าที่ เรียกเก็บเงินสมทบจากนายจ้าง และสถานประกอบการที่มีลูกจ้าง ๒๐ คนขึ้นไป เงินสมทบที่เก็บนี้ นำมาจ่ายเป็นค่าทดแทนแก่ลูกจ้าง ซึ่งประสบอันตราย หรือเจ็บป่วย เนื่องจากการทำงานให้นายจ้าง เงินทดแทนที่จ่าย ประกอบด้วย ค่าจ้าง ค่ารักษาพยาบาล ค่าสูญเสียสมรรถภาพในการทำงาน และค่าทำศพ ส่วนจำนวนเงินค่าทดแทน เป็นไปตามความร้ายแรงของความเสียหายที่ลูกจ้างได้รับ เช่น ในกรณีลูกจ้างประสบอันตราย และได้รับบาดเจ็บที่นิ้วหรือมือ ลูกจ้างก็จะได้เงินค่าทดแทนเท่ากับร้อยละ ๖๐ ของค่าจ้างตลอดระยะ เวลาที่รักษาตัว ในกรณีที่ลูกจ้างต้องสูญเสีย อวัยวะ เช่น นิ้วมือ มือ และแขนขาก็จะได้รับค่าทดแทนเป็นร้อยละ ๖๐ ของเงินเดือน ในกรณีสูญเสียมาก หรือทุพพลภาพก็ได้รับค่าทดแทนเป็น ร้อยละ ๖๐ เป็นเวลา ๑๐ ปี เงินทดแทนดังกล่าวนี้ช่วยบรรเทาความ เดือดร้อนของลูกจ้างในระหว่างที่เจ็บป่วยต้อง หยุดงาน และในกรณีทุพพลภาพ ก็สามารถมีรายได้ ไปจับจ่ายใช้สอยดูแลครอบครัว | |
สถานพยาบาลของรัฐบาลให้บริการรักษาพยาบาลแก่ประชาชน | กองทุนเงินทดแทนได้ก่อตั้งมาเป็นเวลา ๑๕ ปี และปัจจุบันนี้ สามารถคุ้มครองดูแลลูกจ้าง เป็นจำนวนหนึ่งล้านคน แต่ละปี กองทุนเงินทดแทนต้องจ่ายเงินช่วยเหลือลูกจ้าง ผู้ประสบอันตรายจากการทำงานเป็นจำนวนเงินถึง ๒๐๐ ล้านบาท นอกจากนี้ สำนักงานกองทุนเงินทดแทน ยังได้จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูคนพิการ เพื่อดูแลให้การรักษา และฟื้นฟูคนงานที่ได้รับอุบัติเหตุ และเจ็บป่วยจากการทำงาน เพื่อสามารถที่จะมีงานทำที่เหมาะสม ได้ต่อไป |
ประสบการณ์ในการที่ประเทศไทยได้ริเริ่ม กองทุนเงินทดแทนซึ่งเป็นก้าวแรกของโครงการ ประกันสังคม ทำให้เป็นที่ตระหนักกัน ทั้งในหมู่ลูกจ้าง นายจ้าง และรัฐบาลว่าประเทศไทยควร จะได้ริเริ่มโครงการประกันสังคมในรูปอื่น เช่น การประกันการเจ็บป่วยนอกงาน ซึ่งขณะนี้เป็น ปัญหาเดือดร้อนอันหนึ่งของคนงาน | |
พนักงานที่สมัครเข้าประกันหากประสบภัยบาดเจ็บ พิการหรือเสียชีวิตก็จะได้รับเงินค่าทดแทนจากผู้รับประกัน | |
ด้วยเหตุนี้ทางฝ่ายรัฐบาล นายจ้าง ลูกจ้าง และนักวิชาการกำลังพิจารณาเสนอกฎหมาย เพื่อที่จะให้มีการประกันสังคมในรูปการประกันการเจ็บป่วยนอกงาน และรูปอื่นๆ เป็นที่หวังกันว่า ในอนาคตอันใกล้ ประเทศไทยก็จะได้มีโครงการประกันสังคมอย่างประเทศอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือ ประชาชนผู้ประสบเคราะห์กรรมต่างๆ ให้มีหลักประกัน สามารถได้รับชีวิตที่มั่นคงเป็นกำลังสำคัญ ของประเทศชาติในที่สุด |