เล่มที่ 23
การทำงานใต้น้ำ
สามารถแชร์ได้ผ่าน :
การบาดเจ็บจากการกดดัน หรือการบีบกดของอวัยวะต่างๆ

            การบาดเจ็บนี้ เกิดขึ้นจากการที่ไม่สามารถปรับความดันของอากาศภายในโพรงอากาศ หรือช่องอากาศปิดในร่างกายให้เท่ากับความกดดันของน้ำภายนอกได้ เนื่องจากขณะดำน้ำ จะมีการเปลี่ยนแปลงความดันตลอดเวลา จึงเกิดอาการบาดเจ็บ เนื่องจากมีการทำลายเนื้อเยื่อรอบโพรงอากาศ หรือช่องอากาศปิดภายในร่างกาย สาเหตุจากการหดตัว และขยายตัว เพื่อปรับความดัน ภายในช่อง หรือโพรงอากาศเหล่านี้กับภายนอก การบาดเจ็บนี้เกิดขึ้นได้ ทั้งขณะดำลง และลอยตัวขึ้น โดยไม่ขึ้นกับความลึก ขณะดำน้ำลึกลงไป ควรเพิ่มปริมาณอากาศ ในโพรงอากาศให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดความสมดุลกับความดันของน้ำรอบๆ และเมื่อลอยตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ ต้องถ่ายเทอากาศจากโพรงอากาศเหล่านี้ ให้เท่ากับภายนอก ถ้าไม่สามารถปรับได้ จะทำให้เกิดการฉีกขาด และบอบช้ำของเนื้อเยื่อรอบโพรงอากาศ หรือช่องอากาศปิดเหล่านี้ อวัยวะหรือส่วนของร่างกายที่เป็นช่องอากาศปิดภายในร่างกาย ได้แก่ หู ปอด ระบบทางเดินอาหาร จมูก ฟัน

อาการและอาการแสดงที่พบจะแตกต่างกันไปตามอวัยวะที่เกิด ดังนี้

การบีบกดของหูชั้นกลาง

            เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด แต่ไม่รุนแรงมาก

สาเหตุ
  • ดำน้ำขณะที่ท่อยูสเตเชี่ยนภายในหูชั้นกลางถูกอุดตัน 
  • ไม่สามารถดันอากาศเข้าหูได้ขณะดำลง ทำให้หูชั้นกลางไม่สามารถปรับความดัน ให้สมดุลกับแรงดันจากหูชั้นนอก แรงกดดันภายนอกจึงดันเยื่อแก้วหูฉีกขาด
ปัจจัยเสริมให้หูชั้นกลางมีปัญหา

  • ทางเดินหายใจส่วนบนอักเสบ
  • การแพ้อากาศ 
  • เนื้องอกของท่อยูสเตเชี่ยน 
  • การไม่ปรับความกดดันในหูชั้นกลางหรือป๊อบก่อน หรือดำลงเร็วเกินไป
  • การสูบบุหรี่
อาการและอาการแสดง
  • ปวดภายในหูขณะดำลง และหายปวดทันทีถ้าเยื่อแก้วหูขาด แต่จะมีอาการคลื่นไส้และอาเจียนแทน
  • เยื่อแก้วหูบวมและแดง
  • มีเลือดออกเข้าไปในเยื่อแก้วหู หรือหูชั้นกลาง
  • น้ำลายมีเลือด
  • มีเลือดออกมาภายนอก ถ้าเยื่อแก้วหูฉีกขาด 
การบีบกดของหูชั้นนอก

สาเหตุ
  • การบีบกดของเครื่องแต่งกาย
  • ใช้เครื่องอุดหู หรือมีวัสดุปิดหูชั้นนอก
  • การแพ้อากาศ การเป็นหวัด
  • ไม่ปรับความกดดันในหูชั้นกลางหรือป๊อบก่อน
อาการและอาการแสดง
  • คล้ายการบีบกดของหูชั้นกลาง
  • มักพบเห็นตุ่มพองมีเลือดบนเยื่อแก้วหู หรือรอบเยื่อแก้วหู หรือในช่องหู
  • ถ้าเยื่อแก้วหูทะลุอาการปวดจะหายไป มีอาการเวียนศีรษะ และทรงตัวไม่อยู่ชั่วขณะหนึ่ง
  • หูอื้อ การได้ยินเสียงลดลง
  • เยื่อแก้วหูอาจทะลุ 
การบีบกดโพรงอากาศในกระดูก (ไซนัส)

            มนุษย์มีโพรงกระดูก (ไซนัส) ที่มีช่องทางติดต่อกับโพรงจมูก แต่ภาวะบางอย่าง ทำให้ช่องทางติดต่อนี้อุดตัน เช่น หวัด การแพ้อากาศ ไซนัสอักเสบ จึงทำให้โพรงดังกล่าวไม่มีช่องทางติดต่อกับโพรงจมูก

สาเหตุ

            เกิดจากภาวะถูกอุดกั้นของช่องเปิดจากจมูกไปสู่โพรงอากาศในกระดูก เมื่อดำน้ำลงไป ทำให้ความดัน ในโพรงจมูกมีมากกว่าความดันของอากาศในโพรงอากาศที่อยู่ในกระดูก เป็นสาเหตุ ให้เกิดการฉีกขาดของเนื้อเยื่อในโพรงอากาศ

อาการและอาการแสดง
  • มีอาการปวดบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะที่โหนกแก้ม และเหนือหัวคิ้วข้างเคียง หรือทั้งสองข้าง ระหว่างการดำน้ำลงไป
  • มีน้ำมูกและเลือดออกจากจมูก เมื่อลอยตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ
  • กดเจ็บบริเวณเหนือโพรงอากาศในกระดูกเหล่านั้น 
การบีบกดปอด/ภาวะปอดฉีก

            เป็นการบาดเจ็บที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงความกดดัน ชนิดที่มีอันตรายรุนแรงมากสำหรับนักดำน้ำ

สาเหตุ

การบีบกดเกิดขึ้นเมื่อก๊าซในปอดถูกบีบอัดให้เล็กลงกว่าปริมาตรของปอดเกิดขึ้นในขณะที่
  • มีการดำน้ำลงลึกเกินไประหว่างการดำน้ำตัวเปล่า
  • กลั้นหายใจระหว่างการดำลงไป และขณะใช้เครื่องอุปกรณ์ดำน้ำ
  • อุปกรณ์ดำน้ำชนิดถังติดตัวเสีย หรือการส่งอากาศขัดข้องขณะดำลง
  • เกิดร่วมกับการบีบกดทั่วไปในชุดดำน้ำลึก และบางครั้งเกิดร่วมกับการบีบกดหน้ากากดำน้ำ เมื่อดำขึ้น มีการระบายของอากาศหรือก๊าซไม่เท่ากับการขยายของเนื้อเยื่อปอด อากาศในปอดขยายตัวเพิ่มมากขึ้น โดยที่ปอดไม่ได้ขยายปริมาตรตาม จนถุงลมปอดฉีกขาด เกิดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อปอด มีฟองอากาศหลุดเข้าเส้นเลือด ไปอุดตันหลอดเลือดของอวัยวะสำคัญอื่นๆ เช่น สมอง นอกจากนี้ ฟองอากาศบางส่วน ไปอยู่ใต้ผิวหนัง เยื่อหุ้มหัวใจ และเยื่อหุ้มปอด เป็นต้น
ปัจจัยเสริมที่ทำให้เกิดอาการ

การอุดตันของช่องทางเดินอากาศภายในร่างกาย โรคปอดต่างๆ เช่น หอบหืด ปอดอักเสบ เนื้องอกในปอด

อาการและอาการแสดง
  • มีความรู้สึกว่า มีการบีบอัดทรวงอกระหว่างดำลง
  • ปวดแน่นหน้าอก
  • หายใจลำบาก ในขณะที่กลับขึ้นสู่ผิวน้ำ
  • เสมหะเป็นฟอง และมีเลือดปน 
ภาวะฟองอากาศอุดหลอดเลือด

            เป็นกระบวนการขยายตัวของอากาศที่อยู่ภายในปอด อาจเป็นอากาศที่หายใจ หรืออากาศที่เป็นก๊าซผสม ระหว่างการลอยตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ โดยการกลั้นหายใจ อากาศในปอดจะขยายตัวขณะที่ความดันภายนอกรอบๆ ตัวลดลง เมื่อขยายตัวมากจนเต็มปอด หรือจนเกินความสามารถของถุงลมปอดที่จะเก็บอากาศไว้โดยไม่มีการระบายออก แต่คนนั้นยังคงกลั้นหายใจอยู่ ความดันภายในถุงลมปอดจะสูงกว่าความดันที่อยู่ในส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ปอดมีการขยายตัวเกินกว่าปกติ เมื่อถึงจุดหนึ่งถุงลมปอดฉีกขาดและมีอากาศรั่วออกมา แล้วเข้าไปในหลอดเลือดรอบถุงลมปอด หรือเข้าไปในเนื้อเยื่อรอบๆ หรือทั้งสองอย่าง ถ้าปริมาณฟองอากาศมากพอภายใต้ความกดดันสูงจะแทรกผ่านเนื้อเยื่อไปที่คอเยื้อหุ้มหัวใจ เยื่อหุ้มปอด และไปปรากฏเป็นฟองก๊าซใต้ผิวหนังส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งไปตามกระแสโลหิต ในที่สุดไปอุดตันหลอดเลือดเล็กๆ ของอวัยวะต่างๆ ถ้าเป็นอวัยวะสำคัญ เช่น เส้นเลือดสมอง หรือเส้นเลือดหัวใจ แล้วไม่สามารถนำผู้ป่วยเข้าห้องปรับบรรยากาศความกดดันสูงได้อย่างรวดเร็ว จะทำให้เกิดอันตรายถึงตายได้ทันที อาการที่เกิดขึ้นมักเกิดตอนใกล้จะถึงผิวน้ำ หรือภายใน ๑๐ นาที ก่อนจะถึงผิวน้ำ

สาเหตุ
  • การกลั้นหายใจ โดยตั้งใจ ขณะลอยตัวขึ้น เช่น นักดำน้ำสมัครเล่นขึ้นสู่ผิวน้ำ โดยการกลั้นหายใจ
  • โรคต่างๆ ของปอดที่มีโพรง หรือกระเปาะที่มีอากาศค้างอยู่ ทำให้จำกัดการไหลเวียนของอากาศจากบริเวณต่างๆ ภายในปอด เช่น ปอดบวม มีแผลเป็นในเนื้อเยื่อปอด
  • ความดันที่เปลี่ยนแปลงในความลึกที่ตื้นมาก เป็นภาวะที่เกิดขึ้นบ่อยในการดำน้ำที่ความลึกน้อยกว่า ๓๖ ฟุต
อาการและอาการแสดง
  • อ่อนเพลีย มึนงง เวียนศีรษะ
  • ชา แขนขาอ่อนแรง
  • รู้สึกแน่นในลำคอ เสียงมีการเปลี่ยนแปลง
  • เจ็บในทรวงอก มีความรู้สึกปวดใต้กระดูกหน้าอกเหมือนถูกทุบ
  • หายใจขัด มีน้ำลายเป็นฟองปนเลือด
  • มีอาการเขียวของผิวหนัง ริมฝีปาก เล็บมือ
  • เคลื่อนไหวผิดปกติ เดินโซเซ ทรงตัวลำบาก
  • พูดไม่รู้เรื่อง มองไม่เห็น หรือเห็นไม่ชัด
  • หมดสติทันทีเมื่อถึงผิวน้ำ อาจมีการชักและหยุดหายใจ 
การรักษา

            มีวิธีเดียวเท่านั้น คือ นำกลับไปสู่ความกดดันอีกครั้ง โดยใช้ห้องปรับบรรยากาศ

ฟองอากาศอุดตันในหลอดเลือดแดง
ภาวะพร่องออกซิเจน

            คือ ภาวะที่นักดำน้ำมีออกซิเจนไม่เพียงพอต่อความต้องการของเซลล์ ในร่างกาย

สาเหตุ

  • ขาดการส่งอากาศจากพื้นดินลงไปให้ใต้น้ำ หรือมีอากาศไม่เพียงพอ
  • ปริมาณออกซิเจนหมด โดยเฉพาะในถังอากาศที่มีก๊าซผสมโดยที่ไม่ได้ใช้ออกซิเจนบริสุทธิ์ หรือความเข้มข้นของก๊าซออกซิเจนในก๊าซผสมที่ต่ำเกินไป
  • หายใจไม่พอ เนื่องจากประหยัดอากาศ โดยการตั้งอัตราการไหลของก๊าซต่ำเกินไป หรือปริมาณออกซิเจนส่วนหนึ่งถูกดึงไปใช้ในปฏิกิริยาการเกิดสนิมของถังอัดอากาศแบบถังเหล็ก
  • กลั้นหายใจดำน้ำ ทำให้ปริมาณออกซิเจนลดลงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์มีไม่พอถึงจุดกระตุ้นให้เกิดการหายใจ นักดำน้ำจึงหมดสติก่อนโดยไม่มีอาการเตือนให้ดำขึ้น เป็นการหมดสติขณะดำน้ำขึ้น 
อาการและอาการแสดง
  • สูญเสียการคิด หรือการทำงานที่ละเอียดไป
  • มีปฏิกิริยาตอบสนองช้าลง สับสน เชื่องช้า งุ่มง่าม
  • อารมณ์เปลี่ยนแปลง ตัดสินใจผิดพลาด
  • การยืน หรือเดินลำบาก แต่มักรู้สึกตัวดี ไม่หมดสติ
  • มีอาการตัวเขียว
  • หมดสติ หยุดหายใจ เสียชีวิตได้ ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือทันที 
อาการเมาไนโตรเจน

            เกิดจากการได้รับก๊าซไนโตรเจน ซึ่งเป็นส่วนผสมของอากาศที่ใช้หายใจจากอุปกรณ์ช่วยหายใจใต้น้ำ เมื่อบรรยากาศใต้น้ำมีความกดดันสูง จะทำให้เกิดอาการผิดปกติได้ อาการที่เกิดขึ้นมีมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับความลึก และความทนทานของแต่ละบุคคล อาการมักเริ่มที่ความลึกประมาณ ๑๐ เมตร (๓๓ ฟุต) อาการเมาไนโตรเจนเหมือนกับอาการเมาสุราเกือบทุกอย่าง ที่แตกต่างคือ ไม่มีอาการเมาค้างเมื่อลอยตัวกลับขึ้นมาสู่ที่ตื้น อาการเมาจะหายไป ไม่มีอาการปวดศีรษะ เวียนศีรษะ หรือคลื่นไส้ และเมื่อระดับความลึกเพิ่มขึ้น จะมีฤทธิ์เหมือนยาสลบ ทำให้สติสัมปชัญญะของนักดำน้ำเสียไปความจำเสื่อมลง การตัดสินใจเชื่องช้า การตอบสนองต่อสิ่งเร้าช้า ประสาทหลอนและอาจหมดสติ

ต่อไปนี้เป็นอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามความลึกของการดำน้ำ
  • ๓๓-๙๙ ฟุตน้ำทะเล มีอาการครึ้มอกครึ้มใจ
  • ๙๙-๑๖๕ ฟุตน้ำทะเล รู้สึกเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป การคำนวณผิดพลาด
  • ๑๖๕ ฟุตน้ำทะเล ง่วงนอน ประสาทหลอน สูญเสียความสามารถในการตัดสินใจ
  • ๑๖๕-๒๓๑ ฟุตน้ำทะเล พูดมาก พูดไม่หยุด หัวเราะคล้ายบ้าคลั่ง
  • ๒๓๑-๒๙๗ ฟุตน้ำทะเล ตอบสนองต่อสิ่งเร้าช้า ขาดความสนใจ จิตใจสับสน ความจำเสื่อม
  • ๒๙๗ ฟุตน้ำทะเล ประสาทหลอน หมดสติ เสียชีวิต
การช่วยเหลือ

            นำผู้ป่วยขึ้นสู่ผิวน้ำ อาการเมาจะหายไป

ข้อสังเกต

            การดำน้ำ โดยใช้อากาศผสมที่มีก๊าซไนโตรเจนเป็นส่วนประกอบ ต้องจำกัดไว้ที่ความลึกไม่เกิน ๒๐๐ ฟุต (๖๐ เมตร) เท่านั้น

ภาวะการเป็นพิษของก๊าซออกซิเจน

            สาเหตุเหมือนภาวะเมาไนโตรเจน โดยมีการได้รับออกซิเจนบริสุทธิ์ที่ความดันสูงในระดับความลึกมากๆ หรือในคนที่มีปฏิกิริยาไวเกินปกติต่อการเป็นพิษของออกซิเจน

อาการและอาการแสดง

            ขึ้นอยู่กับระดับความลึก ระยะเวลาในการดำ และความทนทานของแต่ละบุคคล โดยการเป็นพิษแบ่งได้เป็น ๒ ประเภท

ประเภทที่ ๑ พิษต่อระบบประสาทส่วนกลาง มีความผิดปกติในการมองเห็น ตาพร่า ลานสายตาแคบลง มีความผิดปกติของการได้ยิน รู้สึกคลื่นไส้ มีการกระตุกของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อใบหน้าและปาก หงุดหงิด ฉุนเฉียว โกรธง่าย มึนงง วิงเวียนศีรษะ สำหรับอาการที่เป็นอันตรายต่อนักดำน้ำที่สุด คือ การชักในน้ำ เป็นสาเหตุให้จมน้ำตายได้

ประเภทที่ ๒ พิษต่อปอด มักพบในนักดำน้ำที่หายใจเอาออกซิเจน ๑๐๐% ในระดับความลึกไม่มากนัก แต่ระยะเวลาในการดำนาน อาการที่พบได้แก่ ไอ เจ็บหน้าอก เป็นมากตอนหายใจเข้า อาการไอจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ

การช่วยเหลือ

            ป้องกันอันตรายจากการชัก นำเข้าห้องปรับบรรยากาศ ให้การปฐมพยาบาลและนำขึ้นสู่ผิวน้ำ

ภาวะคาร์บอนไดออกไซด์มากเกินไป

สาเหตุ
  • ขาดการส่งอากาศ หรือส่งอากาศไม่เพียงพอ
  • ให้อากาศหายใจน้อยเกินไปในชุดประดาน้ำลึก
  • มีความล้มเหลวในการกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในถังอากาศชนิดติดตัวออก
  • ออกกำลังมากเกินไป หรือความต้องการอากาศหายใจเพิ่มขึ้น
  • มีการหายใจแบบควบคุมมากเกินไป คือ หายใจเข้า-ออกช้าลง 
อาการและอาการแสดง
  • หายใจเร็วและแรงแบบหิวอากาศ ปวดศีรษะ มึนงง อ่อนเพลีย คลื่นไส้
  • เหงื่อออกมากผิดปกติ ความคิดไม่แจ่มใส
  • ปฏิกิริยาตอบสนองช้าลง สับสน งุ่มง่าม เชื่องช้า 
การช่วยเหลือ

            หยุดการเคลื่อนไหว ให้พัก ให้หายใจด้วยออกซิเจนที่ระดับน้ำทะเลปกติ

ภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ

            เมื่อดำน้ำลึกลงไป ความดันย่อยของคาร์บอนมอนอกไซด์เพิ่มขึ้น และละลายในเลือดเพิ่มขึ้น มีการรวมตัวกับเฮโมโกลบินทำการแย่งที่ของออกซิเจน ทำให้ปริมาณออกซิเจนลดลง ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย

สาเหตุ

            มีการปนเปื้อนของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในอากาศที่ผู้ดำน้ำใช้หายใจ เนื่องจากมีน้ำมันหล่อลื่นเข้าไปในเครื่องอัดอากาศ หรือท่อรับอากาศของเครื่องอัดอากาศอยู่ใกล้ท่อไอเสียมากไป

อาการและอาการแสดง
  • รู้สึกตื้อบริเวณหน้าผาก ปวดศีรษะ มึนงง คลื่นไส้
  • อ่อนเพลีย รู้สึกสับสน
  • การเปลี่ยนแปลงภาวะทางจิตใจอย่างอื่นคล้ายภาวะพร่องออกซิเจน
  • ริมฝีปาก เล็บ และผิวหนังมีสีแดงผิดปกติ
  • หมดสติ 
การช่วยเหลือ
  • นำขึ้นสู่ผิวน้ำ ให้อยู่ในที่อากาศบริสุทธิ์ ให้ออกซิเจนถ้ามี
  • ให้ออกซิเจนต่อเนื่องในห้องปรับบรรยากาศ