เล่มที่ 10
โรคหู คอ จมูก
สามารถแชร์ได้ผ่าน :
สิ่งแปลกปลอมในหู

            สิ่งแปลกปลอมในหูพบในช่องหูชั้นนอกทั้งหมด เพราะแก้วหูป้องกันไม่ให้เข้าหูชั้นกลาง ยกเว้นผู้ที่แก้วหูทะลุ สิ่งแปลกปลอมอาจเข้าหูชั้นกลางได้ สิ่งแปลกปลอมที่เข้าหูแบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ

๑. สิ่งที่มีชีวิต

            ได้แก่ แมลงตัวเล็กๆ มักจะคลานเข้าไป หรือบินเข้าหูโดยบังเอิญ เช่น มด ลูก แมลงสาบ ยุง หมัด เห็บ ไรจากสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ผู้ที่นอนตามพื้นที่มีแมลงมาก แมลงอาจคลานเข้าไป ผู้ที่เลี้ยงสุนัขบนบ้านให้ขึ้นบนที่นอน หมัดตกอยู่บนที่นอนเข้าหูได้ ในระหว่างที่อุ้มสุนัขหรือแมวพาดบ่า หมัดจะคลานออกมาเข้าหู หมัดสุนัขเข้าหูนับว่า มีอันตรายได้มาก เพราะจะคลานเข้าสู่ส่วนลึกของหู ใช้ปากที่มีเขี้ยวคมกัดช่องหู หรือแก้วหูไว้แน่นมาก และดูดเลือดเป็นอาหาร สามารถมีชีวิตอยู่ในหูได้นาน ซึ่งจะพบมีสิ่งขับถ่ายออกมาติดเต็มแก้วหู บางรายมีลูกหมัดตัวเล็กๆ ออกมาจำนวนมาก เท่าที่พบ หมัดสุนัขเป็นสิ่งที่มีชีวิตชนิดเดียว ที่เกาะดูดเลือดอยู่ในหู ส่วนชนิดอื่นๆ เมื่อเข้าไปแล้ว พยายามดิ้นหาทางออก

๒. สิ่งที่ไม่มีชีวิต

            ส่วนมากพบในเด็ก ซึ่งชอบหยิบสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ใกล้มือใส่เข้าหู เช่นเมล็ดผลไม้ เศษอาหาร เศษกระดาษ ยางลบ เศษ ก้อนดิน ก้อนหิน ลูกปัด ชิ้นส่วนของเล่นที่หัก ฯลฯ ในผู้ใหญ่มักเกิดจากอุบัติเหตุ เช่น แคะหู แล้วมีเศษไม้ เศษสำลีติดในหู ปั่นหูด้วยขนนก จะมีเศษติดอยู่ แคะหูลึกเกินไป อาจจะแทงทะลุแก้วหู มีเศษไม้หักติดอยู่ในหูชั้นกลาง เศษเหล็กจากการเชื่อมเหล็ก เศษลูกระเบิด และเศษลูกปืน ซึ่งอาจฝังอยู่ในหูได้ลึกถึงหูชั้นใน

ผู้ป่วยที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าหู จะมีลักษณะอาการแตกต่างกัน แล้วแต่ลักษณะของสิ่งแปลกปลอมนั้นๆ ดังนี้

            ๑. ไม่มีอาการอะไรเลย ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิต
            ๒. พวกเศษพืช เมล็ดผลไม้ติดอยู่นานๆ ทำให้ช่องหูอักเสบ ปวด หนองไหล และหูตึง
            ๓. ชิ้นโต อุดแน่น ทำให้หูตึง
            ๔. สิ่งมีชีวิตคลานเข้าไปกระแทกช่องหูหรือแก้วหู รู้สึกรำคาญและเจ็บหมัดสุนัขที่เกาะติดแน่นจะปวดมาก
            ๕. สิงของอาจกลิ้งไปมา หรือแมลงดิ้นไปมา ทำให้มีเสียงรำคาญในหู เวลาอ้าปาก หุบปาก หรือเคี้ยวอาหาร จะมีเสียงดังขลุกขลักในหู
            ๖. เลือดออก พบในพวกที่ใส่ของแหลมเข้าไป หรือเกิดจากอุบัติเหตุ เศษเหล็ก เศษลูกระเบิดหรือลูกปืนที่เข้าในหูจะมีเลือดออกได้มาก

            ถ้าสิ่งแปลปลอมเป็นสิ่งที่มีชีวิต เช่น แมลงควรทำให้ตายเสียก่อน โดยใช้ของเหลวยอดหูให้แมลงจมน้ำตาย ของเหลวที่ใช้จะเป็นอะไรก็ได้ที่หาได้ แต่ต้องเป็นชนิดที่ไม่ระคายเคืองต่อผิวหนัง เช่น ยาหยอดหู ยาหยอดตา น้ำเกลือ น้ำสะอาด น้ำมันพืช เมื่อแมลงตายแล้ว ใช้น้ำล้างออก หรือใช้คีมคีบออก
สิ่งของที่อาจหลุดเข้าไปภายในหูได้
สิ่งของที่อาจหลุดเข้าไปภายในหูได้
            ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิต หากขนาดเล็ก เอาออกโดยใช้น้ำสะอาดล้างหู ใช้เหล็กแคะหูเขี่ยออก หรือใช้คีมคีบออก ถ้าเป็นชิ้นโตคับช่องหู และรูปร่างกลม ห้ามใช้คีม เพราะจะคีบไม่ติด และจะดันลึกเข้าไปมากขึ้น

การป้องกัน

            สิ่งแปลกปลอมเข้าหูส่วนมากพบในเด็ก จึงต้องระมัดระวังในการเลี้ยงดูเด็ก เศษของต่างๆ ต้องเก็บทิ้งไม่ให้เด็กหยิบได้ ที่นอนต้องสะอาด ปราศจากแมลงต่างๆ โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงไม่ควรให้ขึ้นบนที่นอน และต้องกำจัดหมัดหรือเห็บให้หมด เวลาอุ้มสัตว์เลี้ยงต้องระวัง ไม่ควรอุ้มพาดบ่า ถ้าจำเป็นต้องนอนบนพื้น เช่น กางเต็นท์นอนในป่า ควรใส่สำลี อุดช่องหูไว้ไม่ต้องแน่นนัก เพื่อป้องกันแมลงเดินเข้าหู แต่ยังให้เสียงผ่าน และสามารถได้ยินเสียงต่างๆ ได้