การจัดกระบวนพยุหยาตราชลมารคในสมัยอยุธยา การจัดกระบวนเรือพระราชพิธีตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นต้นมานั้น มักจะเป็นกระบวนพุหยาตราชลมารค ในการบำเพ็ญพระราชกุศลกรานกฐิน หรือถวายผ้าพระกฐินเป็นสำคัญกับการเสด็จไปนมัสการ พระพุทธบาทที่สระบุรี สำหรับเรือพระที่นั่งที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยานั้น มีปรากฏว่า ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง (พ.ศ. ๒๑๗๓-๒๑๙๘)ทรงสร้างเรือพระที่นั่งกิ่งขึ้น กับทรงตั้งกฐินบกพยุหยาตราใหญ่เป็นครั้งแรกในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์ มหาราช (พ.ศ. ๒๑๙๙-๒๒๓๑) พระองค์ได้โปรดเกล้าฯ ให้มีการเขียนริ้วกระบวนเสด็จไว้ ทั้งกระบวนพยุหยาตราสถลมารคและกระบวนพยุหยาตราชลมารค ซึ่งหนังสือนี้มีชื่อว่า "ริ้ว กระบวนแห่พยุหยาตราชลมารค สมเด็จพระนารายณ์มหาราช" หนังสือนี้เข้าใจว่า ได้คัดลอกมาจากภาพเขียนฝาผนัง ที่วัดยมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภาพเขียนตัวจริงนั้น ปัจจุบันถูกทำลายไปหมดแล้ว เหลือแต่ฉบับคัดลอก จากหนังสือริ้วกระบวนแห่พยุหยาตราชลมารคสมเด็จพระนารายณ์มหาราช นี้ ได้ทราบชื่อเรือในริ้วกระบวนเรือ เรียงตามลำดับจากต้นกระบวนถึงท้ายกระบวนมีว่า ต้นกระบวนมีเรือไชยของกรมต่างๆ เช่น กรมช้าง กรมม้า กรมอาสา กรมเขนทอง กรมเวียง กรมวัง กรมคลัง และกรมนา ตามด้วยเรือโขมดยาของทหารอาสาต่างๆ เรือตำรวจเรือทองแขวนฟ้า นำหน้าเรือพระที่นั่งศรีสมรรถไชย คั่นด้วยเรือนาคแล้ว จึงถึงเรือพระที่นั่งไกรสรมาศ เรือพระที่นั่งไกรแก้วจักรรัตเรือพระที่นั่งศรพรหมไชย ตามด้วย เรือครุฑ เรือเอกไชย เรือพระที่นั่งไกรสรมุข เป็นเรือพระที่นั่งรอง เรือพระที่นั่งศรีสุนทรไชยเรือแซ และเรือรูปสัตว์ต่างๆ อาทิ เรือโต เรือสิงห์ เรือนก เรือม้า เรือคชสีห์ เรือราชสีห์ เรือเลียงผา เรือมกร และเรือนาค เป็นต้น การจัดกระบวนพยุหยาตราชลมารค ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่กล่าวมานี้ จัดได้ว่า เป็นริ้วกระบวนใหญ่แสดงความมั่งคั่งโอ่อ่าของราชสำนักไทยในครั้งนั้น ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับริ้วกระบวนเรือในสมัยต่อมาจะพบว่า ค่อยๆตัดทอนลงไปเรื่อยๆ เพราะเรือชำรุดไปตามกาลเวลาบ้าง ไม่มีผู้รู้จักทำขึ้นใหม่ให้ถูกต้องตามแผนโบราณบ้างจึงเหลืออยู่เท่าที่ พอจะรักษาไว้ได้เท่านั้น |
ภาพเรือพระราชพิธี (จากสมุดภาพริ้วกระบวนแห่พยุหยาตรา ชลมารค สมเด็จพระนารายณ์มหาราช) |
ในรัชกาลพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (พ.ศ. ๒๒๗๕ - ๒๓๐๑) นั้น ปรากฏว่าใน พ.ศ. ๒๒๗๕ พระองค์ทรงแต่งทูตานุทูตไปเจริญทางพระราชไมตรีกับเมืองพม่า มีเครื่องราชบรรณาการต่างๆ มากมาย ในบรรดาเครื่องราชบรรณาการนี้ มีเรือพระที่นั่งกิ่งลำหนึ่งด้วย ลักษณะเรือครุฑคู่ชักและเรือชลพิมานไชย จากริ้วกระบวนเรือในตำราเพชรพวงพยุหยาตรา และบทเห่เรือของเจ้าฟ้ากุ้งนั้น เมื่อเปรียบเทียบแล้วมีที่ต่างกันคือ ตำแหน่งที่ตั้งของเรือ ตรงที่เป็นหัวเรือ เดิมเป็นเรือกันและที่เรือดั้ง เดิมจะมีเรือนำหน้า เรือพระที่นั่ง ซึ่งตรงที่เป็นเรือนำในสมัยหลังเป็น เรือดั้ง ลำซ้ายตั้งผ้าไตรหรือพานพุ่มดอกไม้ ซึ่งมี หลายลำเรียงกัน (เรือดั้งแต่เดิมอยู่นำหน้าเรือ พระที่นั่ง) ริ้วกระบวนเรือจัดเห่ออกเป็น ๕ สาย คือ ๑. สายกลาง เป็นริ้วเรือพระที่นั่ง เรียกว่า สายพระราชยาน ๒. สายในซ้าย และสายในขวา เป็นริ้ว เรือแห่ เรียกว่า สายคู่แห่ ๓. สายนอกซ้าย และสายนอกขวา เป็น ริ้วเรือกัน เรียกว่า สายกัน ระเบียบกระบวนนั้นจัดแบ่งออกเป็น ๕ ตอน ตอนหน้าเรียกว่า กระบวนนอกหน้า ได้แก่ ทหารกองนอก ถัดมาเป็นกระบวนในหน้า ได้แก่ ทหารรักษาพระองค์ ตอนกลางเป็นกระบวนเรือ พระราชยาน ตอนหลังชั้นในเรียกว่า กระบวนใน หลัง ได้แก่ ทหารรักษาพระองค์ ตามด้วย กระบวนหลังนอก ได้แก่ ทหารกองนอก ทั้ง ๕ ตอนนี้ มีเรือประตูคั่นทุกตอน |