การทำเหมืองแร่ทองคำ
การทำเหมืองแร่ทองคำโดยทั่วไปมี ๒ วิธีคือ
๑. เหมืองเปิด
การทำเหมืองแร่ทองคำแบบเหมืองเปิดเหมาะสำหรับแหล่งแร่ทองคำที่อยู่ไม่ลึกจากผิวดินมากนัก การทำเหมืองเริ่มจาก การเปิดหน้าดินลงไปเรื่อยๆ จนถึงแหล่งแร่ทองคำ ซึ่งต้องใช้พื้นที่หน้าเหมืองมาก ถ้าแหล่งแร่อยู่ในระดับที่ลึก หน้าเหมืองจะต้องเปิดให้กว้างขึ้น เพื่อให้สะดวกและปลอดภัยในการทำเหมืองและการนำแร่ขึ้นมา การทำเหมืองแร่แบบนี้ ต้องใช้เครื่องมือหนัก เช่น เครื่องเจาะ รถขุด รถตัก รถขนแร่ขนาดใหญ่ ตลอดจนต้องมีการระเบิดบริเวณหน้าเหมือง เพื่อเข้าถึงแหล่งแร่ และทำเป็นขั้นบันไดวนลงไปหาแหล่งแร่ที่อยู่ลึกลงไป รวมทั้งใช้เป็นเส้นทางลำเลียงแร่ขึ้นมา เพื่อเข้าสู่กระบวนการแต่งแร่ต่อไป
การขุดตักและขนย้ายหินที่มีแร่ทองคำ เพื่อเข้าสู่กระบวนการแต่งแร่
๒. เหมืองใต้ดิน
การทำเหมืองแร่ทองคำแบบเหมืองใต้ดิน เหมาะสำหรับแหล่งแร่ทองคำที่อยู่ลึกจากผิวดินมาก การทำเหมืองจะใช้พื้นที่หน้าเหมืองน้อย โดยเริ่มจากการเปิดหน้าดิน เพื่อเจาะช่องทางสำหรับเครื่องมือหนักทำงานเข้าหาแหล่งแร่ หรือทำเป็นอุโมงค์ทางเข้า หรือเส้นทางลงสู่แหล่งแร่ที่อยู่ในระดับลึก เพื่อการนำแร่ขึ้นมา เมื่อถึงแหล่งแร่ในระดับลึกแล้ว พื้นที่การทำเหมืองจะขยายกว้างออกไปทั้งในแนวราบและแนวดิ่ง การทำอุโมงค์ เพื่อเข้าสู่แหล่งแร่โดยทั่วไปมี ๓ แบบ คือ อุโมงค์แนวราบ อุโมงค์แนวเอียง และอุโมงค์แนวดิ่ง
การเจาะทำเป็นอุโมงค์ เพื่อเข้าสู่แหล่งแร่ของการทำเหมืองใต้ดิน
ปัจจุบันเหมืองแร่ทองคำในประเทศไทยเปิดดำเนินการอยู่ ๒ เหมือง คือ แหล่งแร่ทองคำชาตรี ของบริษัทอัคราไมนิ่ง จำกัด และแหล่งแร่ทองคำภูทับฟ้า ของบริษัททุ่งคำ จำกัด โดยทั้ง ๒ เหมืองทำเหมืองแร่ทองคำแบบเหมืองเปิด