ป่าชายเลนบริเวณอ่าวไทย
ป่าชายเลนในบริเวณอ่าวไทย ส่วนมากอยู่ในสภาพที่เสื่อมโทรม โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม การเสื่อมสภาพของป่าชายเลนในบริเวณนี้ เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ผลผลิตการประมงตามธรรมชาติลดลง และเกิดปัญหามลพิษ ป่าชายเลนในบริเวณปากแม่น้ำท่าจีน จังหวัดสมุทรสาคร ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพเสื่อมโทรม และเหลือเป็นแนวแคบๆ มีพรรณไม้เด่นเพียง ๒ ชนิดคือ แสมขาว และแสมทะเล พื้นที่ป่าชายเลนที่เหลืออยู่มีเพียงร้อยละ ๑๐ ของพื้นที่ป่าชายเลนที่เคยมีอยู่ในอดีต แต่อย่างไรก็ตาม บริเวณนี้ก็ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย และแหล่งอาหาร สำหรับสัตว์น้ำหลายชนิด โดยเฉพาะกุ้งแชบ๊วย กุ้งกะต่อม กุ้งตะกาด กุ้งหัวมัน และพวกเคย ส่วนปลาทะเลพบทั้งสิ้น ๗๗ ชนิด ถึงแม้ว่า ความหลากหลาย และปริมาณของสัตว์ทะเลหน้าดิน ที่พบในป่าชายเลนบริเวณนี้ ค่อนข้างต่ำกว่าที่พบในบริเวณอื่นก็ตาม แต่ก็พบว่า การฟื้นฟ ูและปลูกป่าชายเลนในบริเวณนี้ มีผลต่อความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ทะเลหน้าดินในบริเวณนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลผลิตประมงชายฝั่งในที่สุด
พื้นที่ป่าชายเลนในอีกจังหวัดที่อยู่ติดกับจังหวัดสมุทรสาครคือ จังหวัดสมุทรสงคราม พื้นที่ป่าชายเลนในจังหวัดสมุทรสงคราม ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงช่วงสำคัญมา ๓ ช่วง คือ ช่วงแรก ก่อน พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นสภาพป่าชายเลนธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ จัดเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ช่วงที่ ๒ นับตั้งแต่พ.ศ. ๒๕๑๘ - พ.ศ. ๒๕๓๓ จัดเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพป่าชายเลนมากที่สุด โดยเฉพาะการทำนากุ้ง ที่ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของป่าชายเลนในบริเวณนี้ ช่วงที่ ๓ เป็นช่วงของการฟื้นฟู และการปลูกป่าชายเลน ที่เริ่มดำเนินการอย่างจริงจังตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๓ จนถึงปัจจุบันพบว่า มีแพลงก์ตอนสัตว์รวมทั้งสิ้น ๒๗ กลุ่มจากไฟลัม โดยโคพิปอด ซึ่งเป็นพวกที่ดำรงชีพเป็นแพลงก์ตอนอย่างถาวร จะมีปริมาณมาก และพบได้บ่อย โคพิปอดเหล่านี้ จะเป็นอาหารที่ดี สำหรับแพลงก์ตอนสัตว์ขนาดใหญ่ และสัตว์ทะเลที่มีการกินแบบกรองอาหารจากน้ำ นอกจากนี้ ยังมีพวกตัวอ่อนของสัตว์ทะเลหน้าดิน เช่น หอย ปู กุ้ง และไส้เดือนทะเล เป็นต้น พบปลาวัยอ่อนในบริเวณนี้รวมทั้งหมด ๑๕ ครอบครัว ซึ่งทำให้สรุปได้ว่า บริเวณป่าชายเลนจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นแหล่งเลี้ยงตัวอ่อนของปลาทะเลหลายชนิด และได้พบสัตว์ทะเลหน้าดินรวมทั้งสิ้น ๑๒๒ ชนิด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหอยฝาเดียว หอยสองฝา ไส้เดือนทะเล ปูชนิดต่างๆ และแมลง จึงจัดได้ว่า บริเวณนี้เป็นบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์มากแห่งหนึ่ง