เด็กๆ เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า ทำไมเวลาเราเจออะไรที่เป็นปุยๆ นิ่มๆ แล้ว เรามักจะเปรียบว่า เหมือนปุยฝ้าย แมว หรือสุนัข บางตัวที่มีขนปุกปุย ก็มักจะมีชื่อเรียกว่า ปุยฝ้าย นอกจากนั้นขนมชนิดหนึ่งที่มีลักษณะปุยๆ เราก็เรียกกันว่า ขนมปุยฝ้าย
แล้วปุยฝ้ายจริงๆ มันคืออะไรเล่า หลายคนอาจจะสงสัย และไม่แน่ใจ
ปุยฝ้ายจริงๆ นั้นเป็นเส้นใยที่แตกออกจากผล ซึ่งเรียกว่า สมอ
ต้นฝ้ายมีลักษณะเป็นพุ่มขนาดกลาง เมื่อเวลาดอกบานจะมีสีขาว ต่อมาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีชมพูแล้วร่วงเหลือเพียงสมอฝ้าย มีลักษณะกลมรีสีขาวเมื่อแก่เต็มที่จะเป็นสีน้ำตาล ขนาดเท่าลูกหมาก และแตกออก ปุยสีขาวจะโผล่ออกมาข้างนอก เวลาต้นฝ้ายแก่เต็มที่จะเห็นดอกสีขาวสะพรั่งไปทั้งไร่
ปุยสีขาวที่เห็นอยู่ในไร่นั้น ประกอบด้วยเส้นใย และเมล็ด เวลาจะนำเส้นใยมาทำเป็นเสื้อผ้า จะต้องใช้เครื่องมือแยกเอาเส้นใย และเมล็ดออกจากกัน เครื่องมือชนิดนี้เรียกว่า "เครื่องหีบ" เมล็ดนั้นยังนำไปบีบเอาน้ำมันมาใช้เป็นอาหารได้ กากเมล็ดที่บีบน้ำมันออกแล้ว ยังใช้เป็นอาหารสัตว์ ปุ๋ย และอื่นๆ
คนโบราณหลายพันปีมาแล้วช่างคิด จึงหาวิธีทำปุยฝ้ายให้เป็นเส้นด้ายเรียกว่า "ปั่น" แล้วนำด้ายที่ปั่นแล้ว มาทำเป็นผ้า เรียกว่า "ทอ" จากนั้นก็ตัดเย็บเป็นเครื่องนุ่งห่ม ต่อมาก็คิดวิธีทำเส้นด้ายให้เป็นสีต่างๆ เพื่อให้เครื่องนุ่งห่มนั้นสวยงามยิ่งขึ้น วิธีเปลี่ยนสีของด้าย เรียกว่า "ย้อม"
ผ้าที่ทอด้วยฝ้ายจะมีลักษณะบาง และเบา เหมาะสำหรับอากาศร้อน ผ้าฝ้ายเนื้อหนาก็มี แต่เมื่อสวมใส่แล้วไม่ร้อน เพราะเส้นด้ายไม่กระชับแน่น ลมจึงผ่านทะลุไปได้
ประเทศไทยนิยมใช้ผ้าฝ้ายมาแต่โบราณ ผู้หญิงไทยส่วนใหญ่จึงต้องเรียนการปั่นด้าย และทอผ้า เพื่อใช้ในครอบครัว
ชาวต่างประเทศที่อยู่ในเขตอากาศหนาว ต้องใช้เสื้อผ้าขนสัตว์หนาๆ แต่พอถึงฤดูร้อน ผ้าเนื้อหนาไม่ช่วยให้หายร้อน เมื่อได้มาติดต่อกับชาวเอเชีย และได้รู้จักผ้าฝ้าย จึงพอใจ และนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
นอกจากจะทำฝ้ายให้เป็นเครื่องนุ่งห่มแล้ว มีคนช่างคิดอีกมากมายที่คิดทำเป็นเครื่องใช้ เช่น ทำเป็นผ้าม่าน ผ้าปูโต๊ะ ผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดมือ ผ้าอ้อมของน้องเล็กๆ และอย่างอื่นอีกมากมาย
ผ้าฝ้ายเริ่มเป็นทิ่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย จนผู้ที่ทอด้วยมือทำไม่ทัน จึงได้มีการสร้างเครี่องจักรปั่นด้าย และเครี่องจักรทอผ้า เพื่อช่วยให้เร็วขึ้น
ปัจจุบันมีโรงงานทอผ้าที่ใช้เครื่องจักรตั้งขึ้นมากมายในประเทศไทย ฝ้ายที่ปลูกในประเทศมีไม่พอกับความต้องการของโรงงาน ถึงกับต้องสั่งซื้อฝ้ายจากต่างประเทศมาช่วย รัฐบาลพยายามหาทางสนับสนุน และส่งเสริมการปลูกฝ้ายอยู่เสมอ ถ้าเรามีไร่ฝ้ายมากขึ้น รายได้ของประเทศก็จะเพิ่มขึ้น และเรายังได้สงวนเงินตราที่จะต้องไปซื้อฝ้ายจากต่างประเทศได้ด้วย